ระเบียบกรมป่าไม้ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ พ.ศ. ๒๕๕๒

ระเบียบกรมป่าไม้

ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่

พ.ศ. ๒๕๕๒

                       

                โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ พ.ศ. ๒๕๔๕ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๑

 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) และข้อ ๓ วรรคสองแห่งกฎกระทรวงฉบับที่ ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่อธิบดีกรมป่าไม้จึงวางระเบียบ ดังต่อไปนี้

 

ข้อ ๑  ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ พ.ศ. ๒๕๕๒”

ข้อ ๒[๑]  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓  ให้ยกเลิก

๓.๑ ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ พ.ศ. ๒๕๓๒

๓.๒ ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๒

๓.๓ ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๕

๓.๔ ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕

บรรดา ระเบียบ ข้อบังคับและคำสั่งอื่นใดในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

ข้อ ๔  ในระเบียบนี้

๔.๑ ด่านป่าไม้ประเภท ๑ หมายความว่า ด่านป่าไม้ที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ และกรมป่าไม้กำหนดให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง

๔.๒ ด่านป่าไม้ประเภท ๒ หมายความว่า ด่านป่าไม้ที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ และมิได้กำหนดไว้ให้เป็นด่านป่าไม้ประเภท ๑

ข้อ ๕  ให้อธิบดีกรมป่าไม้ รักษาการตามระเบียบนี้ และมีอำนาจตีความ วินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ คำวินิจฉัยของอธิบดีกรมป่าไม้ให้ถือเป็นที่สุด

หมวด ๑

การออกใบเบิกทาง

                       

          ข้อ ๖  เมื่อได้รับคำขอใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำขอ และเอกสารประกอบคำขอให้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ลงทะเบียนตามลำดับก่อนหลังในทะเบียนรับคำขอใบเบิกทางท้ายระเบียบนี้

 

     ๗  หลักฐานที่ใช้ประกอบคำขอรับใบเบิกทาง เพื่อแสดงว่าเป็นไม้หรือของป่าที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ให้เป็นไปตามกฎกระทรวง ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่

สำหรับไม้ข้อ หรือของป่าที่ซื้อจากกรมศุลกากร หรือซื้อจากการขายทอดตลาด ตามคำสั่งศาลหรือเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ในคดีล้มละลาย ให้ถือเอาใบเสร็จรับเงินและรายการไม้หรือของป่าเป็นเอกสารหลักฐานแสดงการได้มาตามกฎกระทรวง ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่

 

ข้อ ๘  การออกใบเบิกทาง พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบไม้หรือของป่าตามคำขอทุกราย โดยให้ปฏิบัติเป็นขั้นตอนตามลำดับ ดังนี้

๘.๑ ตรวจสอบหลักฐานที่นำมาแสดงว่าเป็นเอกสารหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

๘.๒ ตรวจสอบไม้หรือของป่า ว่ามี ชนิด จำนวน ขนาด ปริมาตร รูปรอยตราเลขเรียง หรือเครื่องหมาย ครบถ้วนตรงตามหลักฐานที่นำมาอ้างอิงหรือไม่

๘.๓ เมื่อตรวจสอบไม้ตามข้อ ๘.๒ ถูกต้องแล้ว ให้ประทับตราประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่รับรองการตรวจสอบไม้ นั้น ทุกท่อน ทุกชิ้น หากไม่สามารถประทับตราได้เพราะเหตุใด ก็ให้พนักงานเจ้าหน้าที่หมายเหตุไว้ในใบเบิกทาง และบัญชีรายการไม้ด้วย

 

ข้อ ๙  การเขียนและลงนามในใบเบิกทาง

๙.๑ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้เขียนใบเบิกทาง การเขียนใบเบิกทางให้เขียนครั้งเดียว โดยใช้กระดาษคาร์บอนรองซ้อนเป็นคู่ฉบับ ให้อ่านได้ชัดเจน หรือพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ในคราวเดียวกัน โดยให้มีข้อความต้นขั้วและปลายขั้วใบเบิกทางตรงกัน

ในกรณีจำเป็นที่พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเขียนหรือพิมพ์ใบเบิกทางได้ให้ข้าราชการ หรือพนักงานราชการ หรือลูกจ้าง ในสังกัดกรมป่าไม้ที่ปฏิบัติงานอยู่ ณ ที่ทำการหรือด่านป่าไม้แห่งนั้น เป็นผู้เขียนหรือพิมพ์แทนได้ แต่ให้อยู่ในความรับผิดชอบของหัวหน้าที่ทำการหรือด่านป่าไม้แห่งนั้น

๙.๒ ผู้มีอำนาจลงนามอนุญาตในใบเบิกทาง ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ หัวหน้าด่านป่าไม้ ผู้ที่กรมป่าไม้มอบหมายหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย แล้วแต่กรณี

๙.๓. ให้หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด หัวหน้าด่านป่าไม้ ผู้ที่กรมป่าไม้มอบหมาย หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ตรวจสอบความถูกต้องต้นขั้วใบเบิกทางอย่างน้อย เดือนละ ๑ ครั้ง พร้อมทั้งลงลายมือชื่อกำกับการตรวจสอบในต้นขั้วใบเบิกทางไว้เป็นหลักฐานด้วย

๙.๔ กรณีเขียนหรือพิมพ์ข้อความในใบเบิกทางผิดพลาด ซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขให้ทำการขีดฆ่าและประทับตราแล้วเขียนหรือพิมพ์ข้อความใหม่ และให้ผู้อนุญาตลงลายมือชื่อกำกับไว้ทุกแห่ง แล้วหมายเหตุในใบเบิกทางว่าได้ขีดฆ่ากี่แห่งด้วย

๙.๕ วันสิ้นอายุใบเบิกทาง ให้เขียนหรือพิมพ์ตัวอักษรกำกับตัวเลขไว้ด้วย

๙.๖ ให้ผู้เขียนหรือพิมพ์ใบเบิกทางลงลายมือชื่อที่มุมใบเบิกทางด้านหน้าล่างซ้ายและให้เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบลงลายมือชื่อกำกับบัญชีรายการไม้หรือของป่า แนบท้ายใบเบิกทางทุกแผ่น

การลงลายมือชื่อดังกล่าว ให้วงเล็บชื่อ ชื่อสกุลและตำแหน่งไว้ด้วย

๙.๗ การเขียนบัญชีรายการไม้ ในใบเบิกทางหรือหนังสือกำกับไม้แปรรูปหรือ ก.ป.ม. ๑๐๔ แล้วแต่กรณี ต้องระบุ ชนิด จำนวน ปริมาตรและรูปรอยตราให้ครบถ้วนทุกรายการสำหรับเศษไม้จากโรงงานแปรรูปไม้ ไม้ฟืน ไม้บาง (วีเนียร์) หรือถ่าน ให้ระบุชนิดเท่าที่ระบุได้ส่วนช่องรวมจำนวน ปริมาตรไม้หรือของป่า ให้เขียนตัวอักษรกำกับตัวเลขไว้ด้วย

๙.๘ ผู้เขียนหรือพิมพ์ใบเบิกทางกับผู้อนุญาต ต้องไม่ใช่บุคคลเดียวกัน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และให้รายงานเหตุผลความจำเป็นต่อผู้บังคับบัญชา ในโอกาสแรกที่กระทำได้

 

ข้อ ๑๐  การใช้ตรายางประทับกำกับลายมือชื่อผู้อนุญาตและประทับตราหลังใบเบิกทางให้ใช้ตามตัวอย่างท้ายระเบียบนี้

ข้อ ๑๑  การออกใบเบิกทาง ให้ระบุผ่านด่านป่าไม้ประเภท ๑ ตามเส้นทางทุกด่าน

ข้อ ๑๒  ใบเบิกทางแต่ละฉบับ ให้ใช้สำหรับพาหนะลำเดียวหรือคันเดียวหรือรถพ่วงหรือ เรือพ่วง โดยระบุหมายเลขทะเบียนไว้ให้ถูกต้องด้วย และให้นำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่เพียงคราวเดียวเท่านั้น เว้นแต่กรมป่าไม้จะได้สั่งการเป็นอย่างอื่น

ข้อ ๑๓  การกำหนดอายุใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยทางรถยนต์ สำหรับไม้แปรรูปและของป่าให้ถือระยะทางประมาณ ๓๐๐ กิโลเมตร ต่อ ๒๔ ชั่วโมง เศษของ ๓๐๐ กิโลเมตร ให้คิดเพิ่มอีก ๒๔ ชั่วโมง ส่วนไม้ท่อนให้พิจารณาถึงระยะทางใกล้ไกลและวิธีการขนส่ง หากนำเคลื่อนที่ทางเรือหรือล่องแพให้กำหนดอายุตามความเหมาะสม โดยให้ระบุเวลาเริ่มต้นกับเวลาสิ้นอายุไว้ด้วย

สำหรับใบเบิกทางที่กรมป่าไม้สั่งการเป็นอย่างอื่นตามข้อ ๑๒ ให้กำหนดอายุใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ได้ตามความจำเป็น

 

ข้อ ๑๔  การออกใบเบิกทาง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สลักหลังหลักฐานเดิม ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ การสลักหลังต้องสลักในเอกสารต้นฉบับถ้าไม่มีต้นฉบับด้วยเหตุใด ให้ใช้ใบแทนเป็นหลักฐานในการออกใบเบิกทาง หากไม่มีใบแทนให้บันทึกเหตุผลเสนอกรมป่าไม้สั่งการ

เอกสารที่นำมาอ้างออกใบเบิกทาง หากไม่อาจเก็บต้นฉบับไว้ได้ ให้สำเนาเอกสารไว้เป็นหลักฐาน

 

ข้อ ๑๕  การออกใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ไปนอกราชอาณาจักร ให้ระบุจุดหมายปลายทางถึงด่านศุลกากรด่านสุดท้าย

 

ข้อ ๑๖  การตรวจสอบไม้หรือของป่าผ่านด่าน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ดังนี้

                  ๑๖.๑ เมื่อได้ตรวจสอบคำขอและหลักฐานที่นำมาแสดงว่าถูกต้องและลงทะเบียนรับคำขอ ตามแบบทะเบียนรับคำขอแจ้งการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่เข้าเขตด่านป่าไม้ ท้ายระเบียบนี้แล้วให้ตรวจสอบไม้หรือของป่านั้น โดยวิธีสุ่มตรวจแต่ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของจำนวนไม้หรือของป่าว่าตรงตามหลักฐานที่นำมาแสดงหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูกต้องให้ประทับตราประจำตัวและตราผ่านเท่าที่สามารถกระทำได้ แล้วรายงานให้ผู้อนุญาตสั่งการ

๑๖.๒ กรณีตรวจพบว่าเจ้าหน้าที่ต้นทางได้เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมหรือค่าภาคหลวงไม่ครบ ให้เรียกเก็บให้ครบและออกใบเสร็จรับเงินตามระเบียบ แล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ต้นทางทราบเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง หากมีเหตุสงสัยให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

 

หมวด ๒

การออกใบเบิกทางกรณีพิเศษ

                       

          ข้อ ๑๗  การออกใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร

๑๗.๑ การออกใบเบิกทางครั้งแรกจากด่านศุลกากรหรือด่านตรวจศุลกากรที่นำเข้าให้ใช้หลักฐานต่อไปนี้ประกอบคำขอ

๑๗.๑.๑ ใบเสร็จรับเงินอากรขาเข้าของกรมศุลกากร หรือหนังสือค้ำประกันของกระทรวงการคลัง หรือธนาคาร หรือใบขนคลังสินค้าทัณฑ์บน หรือใบขนสินค้าผ่านแดนหรือใบขนสินค้าถ่ายลำ แล้วแต่กรณี และ

๑๗.๑.๒ ใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้า หรือเอกสารที่แสดงว่าเป็นไม้หรือของป่าจากต่างประเทศ หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ให้สำเนาหลักฐานดังกล่าวแนบไปกับใบเบิกทางอีกชุดหนึ่งด้วย

๑๗.๒ ชื่อไม้หรือของป่า ให้ระบุชื่อทับศัพท์ตามหลักฐานที่นำมาแสดง และให้หมายเหตุในใบเบิกทางว่า เป็นไม้หรือของป่าที่นำมาจากต่างประเทศ

ไม้หรือของป่าชนิดใด เรียกชื่อตรงกับไม้หรือของป่าในประเทศไทยให้ระบุชื่อประเทศกำเนิดต่อท้ายชนิดไม้หรือของป่าด้วย เช่น สักพม่า ยางลาว ฯลฯ

๑๗.๓ การออกใบเบิกทางตามข้อ ๑๗.๑ ในส่วนภูมิภาค ให้เป็นอำนาจของกรมป่าไม้ที่จะพิจารณาสั่งการ

การตรวจสอบให้ดำเนินการตามข้อ ๘ โดยอนุโลม

๑๗.๔ การออกใบเบิกทางตามข้อ ๑๗.๑ ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของด่านป่าไม้กรุงเทพฯ

การตรวจสอบให้ดำเนินการตามข้อ ๘ โดยอนุโลม หากไม่อาจดำเนินการได้ให้ปฏิบัติ ดังนี้

๑๗.๔.๑ ตรวจสอบหลักฐานที่นำมาแสดงว่า เป็นเอกสารหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

๑๗.๔.๒ ตรวจสอบไม้หรือของป่า ว่ามี ชนิด จำนวน เครื่องหมายตรงตามหลักฐานที่นำมาแสดงหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูกต้องให้ออกใบเบิกทางนำเคลื่อนที่ โดยไม่ต้องประทับตราประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่

๑๗.๔.๓ การออกใบเบิกทางให้ระบุ ชนิด จำนวน ปริมาตร และเครื่องหมายตามหลักฐานเอกสารบัญชีรายการไม้หรือของป่าจากต่างประเทศที่ผ่านพิธีการศุลกากรแล้วโดยใช้หลักฐานเอกสารดังกล่าวเป็นบัญชีรายการไม้หรือของป่าแนบท้ายใบเบิกทาง และให้เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบลงลายมือชื่อกำกับบัญชีรายการไม้หรือของป่าทุกแผ่น

๑๗.๔.๔ อนุญาตให้นำเคลื่อนที่ไปได้ถึงท่าเรือ หรือที่รวมไม้หรือของป่าในเขตกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

๑๗.๔.๕ เมื่อไม้หรือของป่านำเคลื่อนที่ถึงปลายทางตามข้อ ๑๗.๔.๔ แล้วให้พนักงานเจ้าหน้าที่แห่งจังหวัดท้องที่ทำการตรวจวัดและคำนวณปริมาตรไม้หรือของป่าตามระเบียบที่กรมป่าไม้กำหนด แล้วออกใบเบิกทางใหม่ให้นำเคลื่อนที่ต่อไป

 

ข้อ ๑๘  การนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยทางรถไฟ ให้กำหนดอายุใบเบิกทาง ตามความเหมาะสม หากใบเบิกทางสิ้นอายุก่อนเคลื่อนย้ายจากสถานีต้นทาง จะต้องขอต่ออายุใบเบิกทางเสียก่อนถ้าสิ้นอายุระหว่างทางให้นำเคลื่อนที่ต่อไปจนถึงสถานีปลายทางได้ เมื่อจะนำเคลื่อนที่ต่อไปต้องขอใบเบิกทางตามระเบียบนี้

 

ข้อ ๑๙  การออกใบเบิกทางกำกับไม้ท่อนเป็นรายหมอน จากหมอนไม้ตามใบอนุญาตหรือสัมปทาน หรือหมอนไม้ของกลางที่ซื้อจากทางราชการป่าไม้ ไปยังที่ทำการป่าไม้หรือด่านป่าไม้แห่งแรกให้จัดทำบัญชีแสดงรายการไม้แนบท้ายใบเบิกทาง และระบุหมายเลขทะเบียนยานพาหนะชื่อผู้ควบคุมยานพาหนะที่ใช้ในการบรรทุกไม้ทุกคันหรือทุกลำไว้ให้ครบถ้วนด้วย

การกำหนดอายุใบเบิกทาง ให้พิจารณากำหนดได้ตามความจำเป็น

 

ข้อ ๒๐  การนำไม้จากอู่เก็บไม้ในลำน้ำ หรือการนำไม้จากที่รวมหมอนไม้ตามที่ได้รับอนุญาตไปยังโรงงานแปรรูปไม้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบเบิกทางเป็นรายแพหรือรายหมอนโดยระบุชื่อและทะเบียนยานพาหนะ ตลอดทั้งผู้ควบคุมให้ชัดเจน

การกำหนดอายุใบเบิกทาง ให้พิจารณากำหนดได้ตามความจำเป็น

 

ข้อ ๒๑  กรณีนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยรถคันเดียวหรือเรือลำเดียว แต่มีปลายทางหลายแห่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบเบิกทางกำกับไม้หรือของป่าไปยังปลายทางแต่ละแห่งห้ามออกใบเบิกทางรวมฉบับเดียวกัน

 

หมวด ๓

การออกใบเบิกทางใหม่

                       

ข้อ ๒๒  การขอรับใบเบิกทางใหม่แทนใบเบิกทางเดิม กระทำได้ในกรณี ดังนี้

๒๒.๑ ใบเบิกทางสิ้นอายุก่อนถึงจุดหมายปลายทาง และประสงค์จะนำเคลื่อนที่ต่อไป

๒๒.๒ นำไม้หรือของป่าถึงปลายทางแล้ว ประสงค์จะนำเคลื่อนที่ต่อไปยังที่อื่น ๆ

๒๒.๓ มีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนยานพาหนะ หรือเปลี่ยนเส้นทาง หรือเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง หรือเปลี่ยนผู้ควบคุม

๒๒.๔ เหตุจำเป็นอย่างอื่น ๆ เช่น แบ่งไม้หรือของป่าเพื่อนำเคลื่อนที่

การออกใบเบิกทางใหม่ ให้ปฏิบัติตามหมวด ๑ และให้บันทึกเหตุผลความจำเป็นที่ต้องขอใบเบิกทางใหม่ไว้เป็นหลักฐานด้วย

หมวด ๔

การออกใบแทนใบเบิกทาง

                       

               ข้อ ๒๓  เมื่อใบเบิกทางสูญหาย เสียหาย หรือชำรุดด้วยประการใด ๆ และไม้หรือของป่าตามใบเบิกทางนั้นยังมีอยู่ หากต้องการใบแทนใบเบิกทาง ให้ยื่นคำขอตามแบบท้ายระเบียบนี้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ออกใบเบิกทางให้ พร้อมหลักฐานการแจ้งความเรื่องใบเบิกทางสูญหาย และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับคำขอปฏิบัติ ดังนี้

๒๓.๑ ให้สอบปากคำผู้ขอว่า ใบเบิกทางเดิมสูญหาย เสียหาย หรือชำรุดด้วยเหตุใด เมื่อวัน เดือน ปีใด เป็นใบเบิกทางฉบับที่ เล่มที่ ลงวันที่ เดือน ปีใด อนุญาตให้ผู้ใด กำกับไม้หรือของป่าจำนวนและปริมาตรเท่าใด เคลื่อนที่จากที่ใดไปยังที่ใด ขณะนี้ไม้หรือของป่าขอรับใบแทนอยู่ในท้องที่ใดและมีเหลือจำนวนเท่าใด

๒๓.๒ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกับต้นขั้วใบเบิกทางว่า เป็นจริงตามที่ผู้ขอกล่าวอ้างหรือไม่ ถ้าเป็นจริงให้สอบถามไปยังด่านป่าไม้ระหว่างทางว่าไม้หรือของป่าเหล่านั้นได้นำผ่านด่านป่าไม้แล้วหรือไม่ และสอบถามด่านป่าไม้ปลายทางหรือสำนักงานป่าไม้ปลายทางว่าไม้หรือของป่านั้นมีอยู่จริงจำนวนเท่าใด

๒๓.๓ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นความจริงตามที่ผู้ร้องขอกล่าวอ้างก็ให้ออกใบแทนใบเบิกทางได้ โดยให้เขียนด้วยหมึกสีแดงบนใบเบิกทางว่า “ใบแทน” พร้อมหมายเหตุไว้ด้านบนขวาว่า “แทนใบเบิกทางฉบับที่ เล่มที่ วันที่ เดือน ปี” แล้วให้ผู้อนุญาตลงลายมือชื่อกำกับไว้เป็นหลักฐาน สำหรับข้อความและเงื่อนไขอื่น ๆ ให้เขียนตรงกันกับใบเบิกทางเดิมด้วยแล้วให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาตออกใบแทน ลงลายมือชื่อและประทับตราประจำตำแหน่งไว้เป็นสำคัญ พร้อมเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามระเบียบ

ในกรณีที่ไม้หรือของป่าเหลืออยู่ไม่ครบจำนวน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่หมายเหตุด้วยหมึกสีแดงในใบเบิกทางว่า มีไม้หรือของป่าเหลืออยู่เท่าใด ถ้าเป็นไม้ท่อนต้องระบุไว้ในบัญชีด้วยว่าเหลือไม้ท่อนใด ชนิดใด ให้ละเอียดชัดเจน และห้ามใช้ใบแทนนี้กำกับไม้หรือของป่านำเคลื่อนที่หากประสงค์จะนำเคลื่อนที่ต้องขอรับใบเบิกทางใหม่ โดยอ้างใบแทนใบเบิกทางเป็นหลักฐาน

       มื่อได้ออกใบแทนใบเบิกทางแล้ว ใบเบิกทางเดิมเป็นอันใช้ไม่ได้และให้ประกาศยกเลิก

หมวด ๕

การต่ออายุใบเบิกทาง

                       

ข้อ ๒๔  การต่ออายุใบเบิกทาง จะมีได้ในกรณี ดังนี้

๒๔.๑ ใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยทางรถไฟ สิ้นอายุก่อนเคลื่อนย้ายจากสถานีต้นทาง

๒๔.๒ ใบเบิกทางนำไม้ท่อนเคลื่อนที่เป็นรายหมอน ที่ไม่สามารถนำเคลื่อนที่ไปหมดภายในกำหนดอายุใบเบิกทาง โดยมีเหตุผลอันสมควร

การต่ออายุใบเบิกทางในกรณีอื่นให้ขออนุมัติอธิบดีกรมป่าไม้เป็นราย ๆ ไป

 

ข้อ ๒๕  การขอต่ออายุใบเบิกทางจะต้องยื่นคำขอ ณ ที่ทำการออกใบเบิกทาง ก่อนที่ใบเบิกทางจะสิ้นอายุ เว้นข้อ ๒๔.๑ ให้ขอหลังจากใบเบิกทางสิ้นอายุได้ โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ดังนี้

๒๕.๑ ตรวจสอบคำขอและเหตุผลความจำเป็น พร้อมด้วยหลักฐานใบเบิกทางเดิมแล้วตรวจสอบไม้หรือของป่าว่า มีอยู่จริงหรือไม่

๒๕.๒ การต่ออายุใบเบิกทาง ให้บันทึกลงในต้นขั้วและปลายขั้วใบเบิกทางด้วยหมึกสีแดงที่มุมบนด้านซ้ายว่า “ต่ออายุใบเบิกทางให้ถึงวันที่………….เดือน………..…….พ.ศ. ……….” แล้วให้ผู้อนุญาตลงลายมือชื่อประทับตราประจำตำแหน่งไว้เป็นสำคัญ

๒๕.๓ ให้ต่ออายุใบเบิกทางได้เพียงครั้งเดียว โดยกำหนดอายุไม่เกินระยะเวลาตามใบเบิกทางเดิม และเมื่อรวมเวลาทั้ง ๒ ครั้งแล้ว จะต้องไม่เกินเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง

 

หมวด ๖

การทำการล่วงเวลา

                       

ข้อ ๒๖  การทำการล่วงเวลาตามระเบียบนี้ หมายถึง การปฏิบัติราชการซึ่งมิใช่วันเวลาราชการปกติ

ข้อ ๒๗  การเรียกเก็บเงินค่าทำการล่วงเวลา จากผู้ขอให้ทำการล่วงเวลา ให้เรียกเก็บภายในเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

๒๗.๑ การตรวจสอบตามข้อ ๓๒.๓

๒๗.๒ การตรวจสอบเพื่อออกใบเบิกทาง

๒๗.๓ การตรวจสอบเพื่ออนุญาตให้ผ่านด่านป่าไม้

๒๗.๔ การตรวจสอบเพื่อแจ้งเข้าเขตด่านป่าไม้

         ข้อ ๒๘  การเรียกเก็บค่าทำการล่วงเวลา ให้ถือเอาความสมัครใจของผู้ขอ โดยให้ยื่นคำขอตามแบบท้ายระเบียบนี้ และให้แจ้งจำนวนเงินค่าทำการล่วงเวลาให้ผู้ขอชำระให้เสร็จสิ้น แล้วออกใบเสร็จรับเงินให้ตามระเบียบ

 

ข้อ ๒๙  อัตราค่าทำการล่วงเวลา ให้คิดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

 

ข้อ ๓๐  การจ่ายเงินค่าทำการล่วงเวลาให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ และการนำลงบัญชีเป็นเงินผลประโยชน์ของแผ่นดิน ให้ปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงการคลัง

 

หมวด ๗

การออกใบเบิกทางโดยอ้างหลักฐานหนังสือกำกับไม้แปรรูป

                       

 

ข้อ ๓๑  การใช้หนังสือกำกับไม้แปรรูปเป็นหลักฐานในการออกใบเบิกทางนำไม้แปรรูปเคลื่อนที่ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้

๓๑.๑ การออกใบเบิกทางไม้แปรรูป จากโรงงานแปรรูปไม้หรือโรงค้าไม้แปรรูปโดยอ้างหลักฐานหนังสือกำกับไม้แปรรูป ให้เก็บสำเนาหนังสือกำกับไม้แปรรูปแนบคำขอใบเบิกทางไว้เป็นหลักฐาน แล้วให้แนบหนังสือกำกับไม้แปรรูปไปกับใบเบิกทาง

๓๑.๒ การออกใบเบิกทางให้บุคคลผู้รับโอนหรือซื้อไม้แปรรูป ที่มีหนังสือกำกับไม้แปรรูปเป็นหลักฐาน เพื่อนำเคลื่อนที่ต่อไป ให้เก็บหนังสือกำกับไม้แปรรูปแนบคำขอใบเบิกทางไว้เป็นหลักฐาน แล้วให้คัดหรือสำเนารายการไม้แปรรูปท้ายหนังสือกำกับไม้แปรรูปเป็นบัญชีรายการไม้แนบท้ายใบเบิกทาง

๓๑.๓ การออกใบเบิกทางใหม่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ออกใบเบิกทางเก็บใบเบิกทางเดิมพร้อมหนังสือกำกับไม้แปรรูปที่แนบมากับใบเบิกทาง แนบคำขอใบเบิกทางไว้เป็นหลักฐาน แล้วให้คัดหรือสำเนารายการไม้ท้ายหนังสือกำกับไม้แปรรูป เป็นบัญชีรายการไม้แนบท้ายใบเบิกทางที่ออกใหม่

หมวด ๘

อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านป่าไม้

                       

ข้อ ๓๒  อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านป่าไม้ มีดังนี้

๓๒.๑ ตรวจสอบควบคุมไม้หรือของป่า ระหว่างการนำเคลื่อนที่ ภายในเขตด่านป่าไม้ ที่ตนประจำอยู่

๓๒.๒ สืบสวน จับกุม ผู้กระทำผิดภายในเขตด่านป่าไม้ ตลอดจนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดที่หลบหนีไปนอกเขตด่านป่าไม้ เพื่อให้ได้ตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

๓๒.๓ เรียกเก็บค่าภาคหลวง ค่าขาย ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม สำหรับไม้หรือของป่าที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ต้นทางเรียกเก็บไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน

๓๒.๔ ทำการล่วงเวลา ตามความในหมวด ๖ ของระเบียบนี้

๓๒.๕ การลงนามในเอกสารราชการของด่านป่าไม้ ให้เป็นอำนาจของหัวหน้าด่านป่าไม้นั้น ๆ หรือผู้รักษาราชการแทน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าด่านป่าไม้

ในกรณีทำการล่วงเวลา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าเวร หรือผู้อาวุโสตามลำดับแล้วแต่กรณี ลงนามแทนหัวหน้าด่านป่าไม้ได้ แล้วให้นำเสนอหัวหน้าด่านป่าไม้ทราบในโอกาสแรกที่กระทำได้

๓๒.๖ ให้หัวหน้าด่านป่าไม้ตรวจสอบความถูกต้องต้นขั้วใบเบิกทางอย่างน้อย เดือนละ ๑ ครั้ง พร้อมทั้งลงลายมือชื่อกำกับการตรวจสอบในต้นขั้วใบเบิกทางไว้เป็นหลักฐาน

๓๒.๗ ไม้หรือของป่าที่อยู่ในเขตด่านป่าไม้ประเภท ๑ ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านป่าไม้นั้น เป็นผู้ออกใบเบิกทาง

ในเขตกรุงเทพมหานคร การออกใบเบิกทาง ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าด่านป่าไม้กรุงเทพฯ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย

 

ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

สมชัย  เพียรสถาพร

อธิบดีกรมป่าไม้

[เอกสารแนบท้าย]

 

๑.  แบบทะเบียนรับคำขอใบเบิกทางท้ายระเบียบข้อ ๖

๒.  แบบทะเบียนรับคำขอแจ้งการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่เข้าเขตด่านป่าไม้ ท้ายระเบียบข้อ ๑๖.๑

๓.  แบบท้ายระเบียบข้อ ๑๐ แบบตรายางต่างๆ สำหรับใช้ในการออกใบเบิกทางและตรวจสอบการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่

๔.  แนบท้ายระเบียบ ข้อ ๑๐ แบบตรายาง ประทับกำกับลายมือชื่อผู้อนุญาตและประทับตราหลังใบเบิกทาง

๕.  คำขอใบแทนใบเบิกทาง แนบท้ายระเบียบ ข้อ ๒๓

๖.  คำขอทำการล่วงเวลา แนบท้ายระเบียบ ข้อ ๒๘

 

(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)

 

 

ปริยานุช/ผู้จัดทำ

๖ ตุลาคม ๒๕๕๒

นันท์นภัสร์/ตรวจ

๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๒

 

[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนพิเศษ ๑๔๕ ง/หน้า ๗/๑ ตุลาคม ๒๕๕๒