พระราชกฤษฎีกา กำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยเบี้ยและ ป่าห้วยบ่อทอง ป่าแม่ต้าฝั่งซ้าย และป่าแม่แย้และป่าแม่สาง ในท้องที่ตำบลท่าข้าม ตำบลวังธง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ ตำบลต้าผามอก ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง และตำบลเวียงทอง ตำบลสบสาย ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2550

พระราชกฤษฎีกา

กำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยเบี้ยและ

ป่าห้วยบ่อทอง ป่าแม่ต้าฝั่งซ้าย และป่าแม่แย้และป่าแม่สาง

ในท้องที่ตำบลท่าข้าม ตำบลวังธง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่

ตำบลต้าผามอก ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง และตำบลเวียงทอง

ตำบลสบสาย ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่

ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ

พ.ศ. ๒๕๕๐

                       

 

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐

เป็นปีที่ ๖๒ ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

          โดยที่เป็นการสมควรกำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยเบี้ยและป่าห้วยบ่อทอง ป่าแม่ต้าฝั่งซ้าย และป่าแม่แย้และป่าแม่สาง ในท้องที่ตำบลท่าข้าม ตำบลวังธง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ ตำบลต้าผามอก ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง และตำบลเวียงทอง ตำบลสบสาย ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ

          อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ และมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

          มาตรา ๑  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยเบี้ยและป่าห้วยบ่อทอง ป่าแม่ต้าฝั่งซ้าย และป่าแม่แย้และป่าแม่สาง ในท้องที่ตำบลท่าข้าม ตำบลวังธง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ ตำบลต้าผามอก ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง และตำบลเวียงทอง ตำบลสบสาย ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐”

มาตรา ๒[๑]  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

          มาตรา ๓  ให้บริเวณที่ดินป่าห้วยเบี้ยและป่าห้วยบ่อทอง ป่าแม่ต้าฝั่งซ้าย และป่าแม่แย้และป่าแม่สาง ในท้องที่ตำบลท่าข้าม ตำบลวังธง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ ตำบลต้าผามอก ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง และตำบลเวียงทอง ตำบลสบสาย ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นอุทยานแห่งชาติ

มาตรา ๔  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์

นายกรัฐมนตรี

[เอกสารแนบท้าย]

          ๑.  แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยเบี้ยและป่าห้วยบ่อทอง ป่าแม่ต้าฝั่งซ้าย และป่าแม่แย้และป่าแม่สาง ในท้องที่ตำบลท่าข้าม ตำบลวังธง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ ตำบลต้าผามอก ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง และตำบลเวียงทอง ตำบลสบสาย ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐

 

(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากบริเวณที่ดินป่าห้วยเบี้ยและป่าห้วยบ่อทอง ป่าแม่ต้าฝั่งซ้าย และป่าแม่แย้และป่าแม่สาง ในท้องที่ตำบลท่าข้าม ตำบลวังธง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ ตำบลต้าผามอก ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง และตำบลเวียงทอง ตำบลสบสาย ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ เนื้อที่ประมาณ ๑๘๘.๗๗๑๒ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๑๑๗,๙๘๒ ไร่ ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและมีค่า เช่น พันธุ์ไม้ ของป่า สัตว์ป่านานาชนิด ตลอดจนทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่ง สมควรกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔ เพื่อสงวนไว้ให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติเดิม มิให้ถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลงไป เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาและรื่นรมย์ของประชาชน และเพื่ออำนวยประโยชน์อื่นแก่รัฐและประชาชน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

 

วัชศักดิ์/ผู้จัดทำ

๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๐

 

  • [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๔/ตอนที่ ๓๑ ก/หน้า ๓๓/๖ กรกฎาคม ๒๕๕๐