พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา และตำบลนบพิตำ กิ่งอำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๐

พระราชกฤษฎีกา

กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา และตำบลนบพิตำ

กิ่งอำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช

ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

พ.ศ. ๒๕๔๐

                  

 

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๐

เป็นปีที่ ๕๒ ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา และตำบลนบพิตำ กิ่งอำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

 

มาตรา ๑  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา และตำบลนบพิตำ กิ่งอำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๐”

มาตรา ๒[๑]  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓  ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา และตำบลนบพิตำ กิ่งอำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

มาตรา ๔  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

ชวน  หลีกภัย

นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา และตำบลนบพิตำ กิ่งอำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

พรพิมล/พิมพ์

๒๖ สิงหาคม ๒๕๔๖

พรพิมล/แก้ไข

๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๖

A+B+C

[๑] รก.๒๕๔๐/๗๙ก/๔/๒๙ ธันวาคม ๒๕๔๐