ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการใช้พื้นที่เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน หรือเพื่อประโยชน์อย่างอื่นของส่วนราชการ หรือองค์การของรัฐ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๖

ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า

และพันธุ์พืช

ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการใช้พื้นที่

เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน หรือเพื่อประโยชน์อย่างอื่นของส่วนราชการ

หรือองค์การของรัฐ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

พ.ศ. ๒๕๔๖

                       

โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขอใช้และการใช้พื้นที่ของส่วนราชการหรือองค์การของรัฐภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เป็นสถานที่ปฏิบัติงานหรือเพื่อประโยชน์อย่างอื่น

                อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๘ และพระราชกฤษฎีกาแก้ไขบทบัญญัติให้สอดคล้องกับการโอนอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

                ข้อ ๑  ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้พื้นที่เป็นสถานที่ปฏิบัติงานหรือเพื่อประโยชน์อย่างอื่นของส่วนราชการหรือองค์การของรัฐ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๖”

ข้อ ๒[๑]  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๔๖ เป็นต้นไป

ข้อ ๓  บรรดาระเบียบ ข้อบังคับและคำสั่งอื่นใดในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

ข้อ ๔  ให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รักษาการตามระเบียบนี้ และมีอำนาจตีความ วินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ คำวินิจฉัยของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้เป็นที่สุด

หมวด ๑

การขอใช้พื้นที่

                       

                ข้อ ๕  ส่วนราชการหรือองค์การของรัฐ ประสงค์จะขอใช้พื้นที่บางแห่งภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เป็นสถานที่ปฏิบัติงานหรือเพื่อประโยชน์ของรัฐอย่างอื่น ให้ยื่นคำขอต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ตามแบบ ป.ส.๑๗ ท้ายระเบียบนี้ พร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอ

หมวด ๒

หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสภาพป่า

                       

ข้อ ๖  เมื่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ได้รับคำขอใช้พื้นที่ตามข้อ ๕ ให้เสนอคำขอดังกล่าว พร้อมทั้งให้ความเห็นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภายใน ๗ วัน นับจากวันที่ได้รับคำขอใช้พื้นที่

                ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับ ๓ ขึ้นไปซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ออกไปทำการตรวจสภาพป่า พร้อมทั้งส่งเรื่องราวคำขอให้สำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ท้องที่ สั่งเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับ ๕ ขึ้นไป ออกไปร่วมตรวจสอบภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่จังหวัดได้รับคำขอใช้พื้นที่

                ให้คณะเจ้าหน้าที่ตามวรรคสองรายงานผลการตรวจสภาพป่า พร้อมทั้งให้ความเห็นประกอบการตรวจสภาพป่านั้นต่อจังหวัด ตามแบบ ป.ส.๑๘ ท้ายระเบียบนี้ ภายใน ๓๐ วัน นับจากวันที่ตรวจสภาพป่าเสร็จ พร้อมกับส่งสำเนาหรือภาพถ่ายเอกสารดังกล่าวทั้งหมดให้สำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ๑ ชุด

                เมื่อจังหวัดและสำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้รับรายงาน แบบ ป.ส.๑๘ แล้วให้จังหวัดและสำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ตรวจสอบพิจารณาและทำความเห็นเสนอโดยตรงไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่ได้รับรายงาน แบบ ป.ส.๑๘ นั้น

หมวด ๓

การประกาศกำหนดบริเวณพื้นที่เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน

หรือเพื่อประโยชน์อย่างอื่นของส่วนราชการหรือองค์การของรัฐ

                       

              ข้อ ๗  การพิจารณาพื้นที่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงานหรือเพื่อประโยชน์ของรัฐอย่างอื่น ให้ส่วนราชการหรือองค์การของรัฐเข้าใช้พื้นที่นั้น ให้พิจารณาจำนวนพื้นที่แต่ละคำขอตามความจำเป็นและเหมาะสมแก่การใช้พื้นที่ ตามวัตถุประสงค์และโครงการที่เสนอพร้อมคำขอ และมีกำหนดระยะเวลาตามความจำเป็นที่ต้องการใช้พื้นที่นั้น เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๘ ก็ให้ทำประกาศกำหนดบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่ทางราชการใช้ประโยชน์ได้ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เห็นสมควรแต่ไม่เกินสามสิบปี

ข้อ ๘  การประกาศกำหนดบริเวณพื้นที่ให้ส่วนราชการ หรือองค์การของรัฐเข้าใช้ประโยชน์ตามข้อ ๗ จะกระทำได้เมื่อพื้นที่ที่ขอใช้ต้อง

๘.๑  ไม่เป็นพื้นที่ป่าซึ่งใช้ในการศึกษาค้นคว้าทางวิชาการป่าไม้

๘.๒  ไม่อยู่ในพื้นที่ป่าที่มีสภาพเป็นป่าต้นน้ำลำธารชั้นที่ ๑ เอ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ได้กำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๒๘ เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๒๙ เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๓๑ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ และเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘

                 ข้อ ๙  การประกาศกำหนดบริเวณพื้นที่ที่ทางราชการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้ใช้แบบ ป.ส.๑๙ ท้ายระเบียบนี้ หากมีเงื่อนไขที่ผู้อนุมัติกำหนดให้ส่วนราชการหรือองค์การของรัฐต้องปฏิบัติเพิ่มเติมให้ระบุไว้ในประกาศด้วย

                    การประกาศกำหนดบริเวณพื้นที่ที่ทางราชการใช้ประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติตามวรรคหนึ่งนั้น ให้ส่งมอบประกาศดังกล่าวแก่ส่วนราชการหรือองค์การของรัฐผู้ได้รับอนุมัติให้เข้าใช้ประโยชน์จำนวน ๑ ฉบับ และให้ปิดประกาศ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอ ที่ทำการกำนัน และที่ทำการผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ที่ป่าสงวนแห่งชาตินั้นตั้งอยู่

หมวด ๔

การทำไม้

                       

                    ข้อ ๑๐  ไม้ที่จำเป็นต้องทำออกจากพื้นที่ที่ประกาศกำหนดให้ส่วนราชการหรือองค์การของรัฐเข้าใช้ประโยชน์ ตามที่ส่วนราชการหรือองค์การของรัฐตัดฟันรวมกองไว้ รวมทั้งไม้ยืนต้นที่จำเป็นต้องทำออกและได้แจ้งให้สำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทราบแล้ว ให้สำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ สั่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่ต่ำกว่าระดับ ๕ ออกไป ดำเนินการภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งโดยให้ทำการตรวจประทับดวงตราหรือเครื่องหมายตามที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำหนด เลขเรียง ปี พ.ศ. และจัดทำบัญชีแสดงรายละเอียดของไม้แต่ละชนิดให้เสร็จสิ้นโดยด่วน และแจ้งให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ดำเนินการทำไม้ในนามของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ออก โดยไม่ต้องออกใบอนุญาตให้ทำไม้นั้น และจำหน่ายให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้

                    การทำไม้ตามวรรคหนึ่ง ไม่นำมาใช้บังคับแก่การทำไม้ในบริเวณที่ทางราชการใช้ประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่มีแนวเขตทับที่ดินซึ่งบุคคลได้รับประโยชน์ตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๘ ภายในกำหนดสามร้อยหกสิบวัน นับจากวันประกาศกำหนดบริเวณดังกล่าว เป็นบริเวณที่ทางราชการใช้ประโยชน์

ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

สมชัย  เพียรสถาพร

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

[ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย]

สุภาพร/พิมพ์

๑ ตุลาคม ๒๕๔๖

มัตติกา/แก้ไข

๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๖

อรรถชัย/สุมลรัตน์/ตรวจ

๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๖

A+B

[๑] รก.๒๕๔๖/พ๖๐ง/๑๐/๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๖