ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2540

              ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

     ว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดิน

           เพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน

                       (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2540

          อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19(8) แห่งพระราชบัญญัติการ

ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

          ข้อ 1  ระเบียบนี้เรียกว่า ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อ

เกษตรกรรม ว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูป

ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน (ฉบับที่ 2)

พ.ศ. 2540

          ข้อ 2  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา

นุเบกษาเป็นต้นไป

          ข้อ 3  ให้เพิ่มความต่อไปนี้ในข้อ 4 ของระเบียบคณะกรรมการปฏิรูป

ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจาก

การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน พ.ศ. 2535

          หนังสือรับมอบที่ดิน หมายความว่า หนังสือที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน

เพื่อเกษตรกรรม มอบให้แก่เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรเพื่อแสดงให้ทราบถึง

การได้รับมอบที่ดินและได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ตามแบบที่สำนักงาน

การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกำหนด

          ข้อ 4  ให้ยกเลิกความในข้อ 11 ของระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน

เพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการ

ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน พ.ศ. 2535

และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

          ข้อ 11 เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรสิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์

ในที่ดินที่ได้รับมอบจาก ส.ป.ก.ในกรณีดังต่อไปนี้

                 (1) ตาย เลิกสถาบันเกษตรกร หรือสละสิทธิ เว้นแต่จะมี

การตกทอดทางมรดก ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518

                 (2) โอนสิทธิการทำประโยชน์ การเช่า เช่าซื้อ หรือการ

จัดให้โดยมีค่าชดเชยไปยังบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

พ.ศ. 2518

                 (3) ขาดคุณสมบัติตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อ

เกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกเกษตรกรและ

สถาบันเกษตรกร ซึ่งจะมีสิทธิได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ดังต่อไปนี้

                     ก. สัญชาติไทย

                     ข. เป็นเกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดิน

เพื่อเกษตรกรรม

                     ค. มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง หรือของบุคคลในครอบ

ครัวเดียวกันเพียงพอแก่การเลี้ยงชีพอยู่แล้ว

                 (4) ไม่ปฏิบัติตามความในข้อ 7 และไม่ปฏิบัติตามคำเตือน

ในข้อ 8

          การสิ้นสิทธิตามวรรคหนึ่ง (1) และ (2) ย่อมมีผลในทันทีที่เกิด

เหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น

          สำหรับการสิ้นสิทธิตามวรรคหนึ่ง (3) และ (4) นั้น ให้คณะกรรมการ

ปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีมติ ให้เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรสิ้นสิทธิ เว้นแต่ในกรณีที่

คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่จะสั่งให้เกษตรกรหรือ

สถาบันเกษตรกรรายใดสิ้นสิทธิและไม่อาจวินิจฉัยได้ ก็ให้ขอความเห็นจาก

คณะกรรมการเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาสั่งให้สิ้นสิทธิต่อไป

          การสิ้นสิทธิตามวรรคสามให้มีผลตั้งแต่เมื่อพ้นระยะเวลาอุทธรณ์ตาม

ข้อ 13 แต่ถ้ามีการอุทธรณ์และคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยยืนยันว่าผู้อุทธรณ์สิ้นสิทธิ

การทำประโยชน์แล้ว ให้การสิ้นสิทธิมีผลตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งมติคณะกรรมการ

          ในกรณีที่การสิ้นสิทธิตามวรรคหนึ่ง (3) และ (4) ปรากฏต่อ

คณะกรรมการ คณะกรรมการจะมีมติให้เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้นั้นสิ้นสิทธิก็ได้

          ให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีหนังสือแจ้งการสิ้นสิทธิพร้อมทั้งระยะเวลาที่ให้

เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรพร้อมบริวารออกจากที่ดิน หากบุคคลดังกล่าวไม่

ยอมออกจากที่ดิน ให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          ในกรณีไม่สามารถแจ้งตามวรรคหกได้ ให้ปิดหนังสือแจ้งนั้นไว้ ณ

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัด ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน

และที่เปิดเผยเห็นได้ง่ายในหมู่บ้านแห่งท้องที่ ที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ แห่งละหนึ่งฉบับ

          ข้อ 5  ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 13 ของระเบียบ

คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบัน

เกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำ

ประโยชน์ในที่ดิน พ.ศ. 2535 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

          หากเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้ถูกสั่งให้สิ้นสิทธิตามข้อ 11 เห็นว่า

คำสั่งนั้นไม่เป็นธรรม ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดแห่งท้องที่ภายใน

สามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งหรือ วันที่ได้ปิดคำสั่ง โดยแสดงหลักฐานอ้างอิง

ประกอบ เว้นแต่เป็นกรณีที่คณะกรรมการมีมติให้สิ้นสิทธิ

                         ประกาศ ณ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2540

                                  ชูชีพ  หาญสวัสดิ์

                         รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

                       ประธานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม