ประกาศคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการพิจารณาให้กู้ยืมเงิน อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้นและระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้ยืมเพื่อบรรเทาผลกระทบจากเหตุอุทกภัย พ.ศ. ๒๕๕๔

ประกาศคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม

เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการพิจารณาให้กู้ยืมเงิน อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น

และระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้ยืมเพื่อบรรเทาผลกระทบจากเหตุอุทกภัย พ.ศ. ๒๕๕๔

                  

                          โดยที่ ได้เกิดอุทกภัยรุนแรงในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ครอบคลุมแทบทุกภาคของประเทศ ส่งผลกระทบต่อระบบบำบัดน้ำเสีย หรือระบบกำจัดของเสียที่มีไว้เฉพาะเพื่อกิจการของราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจหรือระบบบำบัดน้ำเสีย อากาศเสีย หรือระบบกำจัดของเสียของเอกชนที่มีหน้าที่ตามกฎหมายต้องจัดให้มีเพื่อควบคุมบำบัดหรือขจัดมลพิษที่เกิดจากกิจกรรมของตนเอง จึงสมควรที่จะให้การสนับสนุนในการฟื้นฟูหรือปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย หรือระบบกำจัดของเสียดังกล่าว ให้สามารถใช้งานต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

                           อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๕ (๒) และ ๒๕ (๕) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ และตามข้อ ๖ (๑) และ (๒) และข้อ ๗ แห่งประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรรเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมและตามมติของคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม ในคราวการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ คณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

                           ข้อ ๑  ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข ในการพิจารณาให้กู้ยืมเงิน อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น และระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้ยืม เพื่อบรรเทาผลกระทบจากเหตุอุทกภัย พ.ศ. ๒๕๕๔”

ข้อ ๒[๑]  ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในประกาศนี้

                          “ผลกระทบจากเหตุอุทกภัย” หมายความว่า ภัยที่มีสาเหตุมาจากน้ำท่วมซึ่งเกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ อันเป็นเหตุให้ระบบบำบัดน้ำเสีย อากาศเสีย หรือระบบกำจัดของเสียของผู้มีสิทธิขอกู้ยืมเงินตามข้อ ๔ ชำรุดหรือเสียหายไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

                            ข้อ ๔  ผู้มีสิทธิขอกู้ยืมเงินเพื่อการบรรเทาผลกระทบจากเหตุอุทกภัยต้องเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ ที่มีระบบบำบัดอากาศเสีย น้ำเสีย หรือระบบกำจัดของเสีย มีไว้เพื่อกิจการของตนเองตามมาตรา ๒๓ (๒) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ หรือเอกชน ที่มีหน้าที่ตามกฎหมายต้องจัดให้มีระบบบำบัดอากาศเสีย น้ำเสียและระบบกำจัดของเสีย ไว้เพื่อการควบคุม บำบัด หรือขจัดมลพิษที่เกิดจากกิจกรรมของตนเอง ตามมาตรา ๒๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ และระบบบำบัดอากาศเสีย น้ำเสีย หรือระบบกำจัดของเสียดังกล่าวได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยตามข้อ ๓

                            ข้อ ๕  ผู้มีสิทธิขอกู้ยืมเงินตามข้อ ๔ ต้องยื่นคำขอกู้ตามแบบและรายละเอียดที่กำหนดไว้ในข้อ ๑๔ แห่งระเบียบคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดสรรและขอกู้ยืมเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๒ ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ พร้อมด้วยพยานหลักฐานที่แสดงถึงผลกระทบที่ได้รับจากเหตุอุทกภัย ดังกล่าว

                           ข้อ ๖  การพิจารณาคำขอกู้ยืมเงินของผู้มีสิทธิขอกู้ตามข้อ ๔ ให้เป็นไปตามข้อ ๑๗ แห่งระเบียบคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดสรร และขอกู้ยืมเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๒

                          ข้อ ๗  อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ระยะเวลาการปลอดการชำระคืนเงินต้น และระยะเวลาการชำระหนี้ของผู้มีสิทธิขอกู้ยืมเงินตามข้อ ๔ ที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจ ให้เป็นไปตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

                            (๑) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ของผู้มีสิทธิกู้ยืมเงินที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๒๕ ต่อปี มีระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้นไม่เกิน ๒ ปี และระยะเวลาชำระหนี้รวมระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น ต้องไม่เกิน ๑๐ ปี นับจากวันทำสัญญาเงินกู้

                            (๒) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ของผู้มีสิทธิกู้ยืมเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ให้คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๕๐ ต่อปี มีระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้นไม่เกิน ๒ ปี และระยะเวลาชำระหนี้รวมระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น ต้องไม่เกิน ๑๐ ปี นับจากวันทำสัญญาเงินกู้

ข้อ ๘  อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ระยะเวลาการปลอดการชำระคืนเงินต้น และระยะเวลาการชำระหนี้ของผู้มีสิทธิขอกู้ยืมเงินตามข้อ ๔ ที่เป็นเอกชน ให้เป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

                           (๑) ในกรณีใช้หนังสือค้ำประกันและโอนสิทธิเรียกร้องในบัญชีเงินฝาก ให้คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑ ต่อปี มีระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้นไม่เกิน ๒ ปี และระยะเวลาชำระหนี้รวมระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น ต้องไม่เกิน ๗ ปี นับจากวันทำสัญญาเงินกู้

                            (๒) ในกรณีใช้หลักทรัพย์อื่นค้ำประกัน ให้คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๒ ต่อปี มีระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้นไม่เกิน ๒ ปี และระยะเวลาชำระหนี้รวมระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น ต้องไม่เกิน ๗ ปี นับจากวันทำสัญญาเงินกู้

                             ข้อ ๙  ผู้มีสิทธิขอกู้ยืมเงินตามข้อ ๔ ที่ประสงค์จะขอกู้ยืมเงินโดยมีกำหนดระยะเวลากู้ยาวเป็นพิเศษเกินจากระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๗ และข้อ ๘ ให้ยื่นความจำนงเป็นรายโครงการพร้อมด้วยเหตุผลและความจำเป็น  ทั้งนี้ ให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมที่จะพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้กู้เงินโดยมีระยะเวลายาวเป็นพิเศษดังกล่าว

ประกาศ ณ วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕

โชติ  ตราชู

ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ประธานกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม

ปริยานุช/ผู้จัดทำ

๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕

ณัฐพร/ผู้ตรวจ

๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕

[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๙/ตอนพิเศษ ๗๓ ง/หน้า ๓๓/๓๐ เมษายน ๒๕๕๕