ระเบียบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ว่าด้วยการจัดเก็บรายได้ และการนำส่งรายได้ ตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520

ระเบียบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล

ว่าด้วยการจัดเก็บรายได้ และการนำส่งรายได้ ตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐

                  

                  โดยที่พระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติน้ำบาดาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และพระราชบัญญัติน้ำบาดาล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๒๕/๑ บัญญัติว่า ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องชำระค่าใช้น้ำบาดาลและค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง รวมถึงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๔๐) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๘ (พ.ศ. ๒๕๔๓) เรื่อง กำหนดค่าใช้น้ำบาดาล กฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลและหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเรียกเก็บค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๔๗ และกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗) เรื่อง กำหนดค่าธรรมเนียมและค่าวิเคราะห์ ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติงานของพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ประจำเขตน้ำบาดาล และการบริการประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง และสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑  ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ว่าด้วยการจัดเก็บรายได้ และการนำส่งรายได้ ตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐”

ข้อ ๒[๑]  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓  บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หรือแนวทางการปฏิบัติอื่นใดในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

ข้อ ๔  ในระเบียบนี้

                  “ผู้รับใบอนุญาตใช้บาดาล” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้รับใบอนุญาต ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งนิติบุคคลแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำเนินกิจการด้วย

“ผู้ออกใบอนุญาต” หมายความว่า อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย

“พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งอธิบดีแต่งตั้งให้มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐

“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐

“อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล

“กฎกระทรวง” หมายความว่า กฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม

“พระราชบัญญัติ” หมายความว่า พระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๖

“กองทุน” หมายความว่า กองทุนพัฒนาน้ำบาดาล เรียกโดยย่อว่า “กพน.”

                  “ค่าปรับเปรียบเทียบคดี” หมายความว่า เงินค่าปรับที่ชำระเนื่องมาจากการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ ซึ่งคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีเป็นผู้กำหนดจำนวนเงินค่าปรับ

ข้อ ๕  ให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจวินิจฉัยสั่งการเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามระเบียบนี้

หมวด ๑

การจัดเก็บรายได้

                  

ข้อ ๖  ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องชำระค่าใช้น้ำบาดาลและค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง

                 ข้อ ๗  ให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่เปิดบัญชี ชื่อบัญชี “กองทุนพัฒนาน้ำบาดาล” กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บัญชีกระแสรายวัน สำหรับให้ผู้ใช้น้ำบาดาลชำระค่าใช้น้ำบาดาลและอนุรักษ์น้ำบาดาล ผ่านทางธนาคาร

                ข้อ ๘  ให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่มีหนังสือแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลให้ชำระค่าใช้น้ำบาดาลและค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลแต่ละงวดภายในเวลาที่กฎกระทรวงกำหนด โดยให้มีหนังสือแจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันเริ่มงวดถัดไป พร้อมทั้งแจ้งผลการไม่ปฏิบัติตามด้วย

                ข้อ ๙  เมื่อพ้นกำหนดเวลาชำระค่าใช้น้ำบาดาลและหรือค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล เกินกว่า ๙๐ วัน ตามข้อ ๘ แล้ว หากไม่มีการชำระค่าใช้น้ำบาดาลและค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลให้มีหนังสือทวงหนี้ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับเพื่อให้ชำระหนี้ภายใน ๒๐ วัน นับแต่วันออกหนังสือ และแจ้งผลของการไม่ปฏิบัติตามพร้อมแจ้งการคิดดอกเบี้ยด้วย

                ข้อ ๑๐  เมื่อพ้นกำหนดเวลาชำระค่าใช้น้ำบาดาล และหรือค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามข้อ ๙ แล้วหากไม่มีการชำระค่าใช้น้ำบาดาลและหรือค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล ให้มีหนังสือทวงหนี้ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน ๑๐ วัน นับแต่วันพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว โดยกำหนดให้ชำระหนี้ตามหนี้ที่ได้แจ้งทวงไว้ตามข้อ ๘ พร้อมดอกเบี้ยตามข้อ ๙ ภายใน ๒๐ วัน นับแต่วันออกหนังสือ และแจ้งผลของการไม่ปฏิบัติตามด้วย

                 ข้อ ๑๑  หลังจากดำเนินการตาม ข้อ ๑๐ แล้ว ผู้รับใบอนุญาตปฏิเสธ บิดพลิ้วหรือประวิงเวลาชำระหนี้ ให้สรุปข้อเท็จจริงเสนอกรมทรัพยากรน้ำบาดาลหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี เพื่อมอบอำนาจให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ฟ้องร้องบังคับคดีต่อไป

                ข้อ ๑๒  เมื่อได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลตาม ข้อ ๑๑ เพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตชำระหนี้ค่าใช้น้ำบาดาลหรือค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลที่ค้างชำระแล้ว ต่อมาภายหลังยังมีการค้างชำระค่าใช้น้ำบาดาลหรือค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลอีกให้ดำเนินการตาม ข้อ ๘-๑๐ แล้วส่งเรื่องพร้อมสรุปข้อเท็จจริงไปยังกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อเพิกถอนใบอนุญาตพร้อมกับการขอให้มอบอำนาจฟ้องบังคับคดีต่อไปหรือในกรณีไม่ยอมชำระค่าใช้น้ำบาดาลหรือค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามคำพิพากษาของศาล ให้สรุปข้อเท็จจริงไปยังกรมทรัพยากรน้ำบาดาลหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี เพื่อเพิกถอนใบอนุญาตพร้อมกับดำเนินการเพื่อฟ้องบังคับคดีตามคำพิพากษาต่อไป

ข้อ ๑๓  ให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ รายงานสรุปยอดการจัดเก็บรายได้ทุกเดือนให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลทราบ

ข้อ ๑๔  ให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ สรุปยอดลูกหนี้ของแต่ละงวดให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลทราบ

                  ข้อ ๑๕  ให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ รายงานความก้าวหน้าหรือผลการฟ้องคดีและการชำระหนี้ค่าใช้น้ำบาดาล และหรือค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามคำพิพากษาของศาลให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลทราบ

                  ข้อ ๑๖  การใช้ใบเสร็จรับเงินให้ใช้ใบเสร็จรับเงินของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลหรือของสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้วแต่กรณี โดยแยกประเภท แยกเล่ม เพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบ

ข้อ ๑๗  ให้หน่วยงานที่จัดเก็บค่าใช้น้ำบาดาล และค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล ดำเนินการโอนรายได้ดังกล่าว ดังนี้

(๑) ส่วนกลาง ให้นำเงินที่ฝากไว้ที่ธนาคารตามข้อ ๗ ส่งเข้าบัญชีเงินฝากที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง

                  (๒) ส่วนภูมิภาค ให้นำเงินที่ฝากไว้ที่ธนาคารตามข้อ ๗ ส่งเข้าบัญชีเงินฝากที่สำนักงานคลังจังหวัด/สำนักงานคลังอำเภอ แล้วแต่กรณี อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง และให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง

ส่วนที่ ๑

การจัดเก็บค่าใช้น้ำบาดาล

                  

ข้อ ๑๘  ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องชำระค่าใช้น้ำบาดาลตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง

ข้อ ๑๙  การคำนวณค่าใช้น้ำบาดาลให้คำนวณตามปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ ดังนี้

(๑) ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำ ให้ชำระค่าใช้น้ำบาดาลตามปริมาณน้ำบาดาลที่วัดได้จากเครื่องวัดปริมาณน้ำนั้น

                 (๒) ในกรณีที่ไม่อาจคำนวณค่าใช้น้ำบาดาลได้จากเครื่องวัดปริมาณน้ำ เพราะผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลไม่ได้ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำหรือด้วยเหตุอื่นใด ให้ชำระค่าใช้น้ำบาดาลตามปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล โดยคำนวณตามวันที่ไม่อาจคำนวณปริมาณน้ำบาดาลได้ แต่ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลได้ใช้น้ำบาดาลสูงกว่าปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจประเมินปริมาณน้ำบาดาลเพิ่มขึ้น เพื่อใช้คำนวณค่าใช้น้ำบาดาลได้ และผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องชำระค่าใช้น้ำบาดาลตามปริมาณน้ำบาดาลที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินจนกว่าจะได้ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะกำหนดเป็นอย่างอื่น

                ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินปริมาณน้ำตาม (๒) ย้อนหลังไปก่อนเวลาชำระค่าใช้น้ำบาดาลตามข้อ ๒๒ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลชำระค่าใช้น้ำบาดาลส่วนที่เพิ่มขึ้นสำหรับงวดก่อน ตามจำนวนและภายในระยะเวลาที่กำหนด

ข้อ ๒๐  ในท้องที่ที่ไม่มีน้ำประปาใช้ ให้ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลได้รับยกเว้นค่าใช้น้ำบาดาล ดังต่อไปนี้

(๑) การใช้น้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค  ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการใช้น้ำบาดาลของโรงงานอุตสาหกรรม

(๒) การใช้น้ำบาดาลเพื่อการเพาะปลูก

(๓) การใช้น้ำบาดาลเพื่อการเลี้ยงสัตว์ เฉพาะในส่วนที่ไม่เกินวันละห้าสิบลูกบาศก์เมตร

ข้อ ๒๑  ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลในท้องที่ที่ไม่มีน้ำประปาใช้ ซึ่งไม่ได้รับยกเว้นค่าใช้น้ำบาดาล ตามข้อ ๒๐ ให้ได้รับการลดหย่อนค่าใช้น้ำบาดาล ดังนี้

                 (๑) การใช้น้ำบาดาลเพื่อการเลี้ยงสัตว์ ให้คำนวณปริมาณน้ำบาดาล เพื่อการคิดค่าใช้น้ำบาดาลเพียงร้อยละสามสิบของปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ หรือปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล หรือที่ประเมินได้ แล้วแต่กรณี

                 (๒) การใช้น้ำบาดาลของโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบจากผลิตผลการเกษตรตามประเภทและชนิดที่รัฐมนตรีกำหนด ให้คำนวณปริมาณน้ำบาดาลเพื่อการคิดค่าใช้น้ำบาดาลเพียงร้อยละสามสิบของปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ หรือของปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลหรือที่ประเมินได้ แล้วแต่กรณี

                 (๓) กรณีนอกจาก (๑) และ (๒) ให้คำนวณปริมาณน้ำบาดาล เพื่อการคิดค่าใช้น้ำบาดาลเพียงร้อยละเจ็ดสิบห้าของปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ หรือของปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล หรือที่ประเมินได้ แล้วแต่กรณี

ข้อ ๒๒  ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องชำระค่าใช้น้ำบาดาลปีละ ๔ งวด ดังนี้

(๑) งวดที่      ๑        ตั้งแต่เดือนมกราคม        ถึงเดือนมีนาคม

(๒) งวดที่      ๒        ตั้งแต่เดือนเมษายน        ถึงเดือนมิถุนายน

(๓) งวดที่      ๓        ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม      ถึงเดือนกันยายน

(๔) งวดที่      ๔        ตั้งแต่เดือนตุลาคม         ถึงเดือนธันวาคม

                  ให้ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลชำระค่าใช้น้ำบาดาลในแต่ละงวดให้ครบถ้วนต่อพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ภายในสามสิบวันนับแต่วันเริ่มงวดถัดไป โดยจะชำระเป็นเงินสด หรือโดยเช็คขีดคร่อมสั่งจ่าย “กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเพื่อเข้าบัญชีกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล” หรือชำระโดยส่งทางไปรษณีย์โดยเช็คขีดคร่อมสั่งจ่าย “กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเพื่อเข้าบัญชีกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล” ก็ได้

                  ข้อ ๒๓  ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลมิได้ชำระค่าใช้น้ำบาดาลตามกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๒ สำหรับงวดใด ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องชำระค่าใช้น้ำบาดาลสำหรับงวดนั้นในอัตราเป็นจำนวนเท่าของอัตราค่าใช้น้ำบาดาล ตามข้อ ๑๘ หรือในอัตราเท่ากับอัตราสูงสุดของค่าน้ำประปาในพื้นที่ หรือในจังหวัดที่บ่อน้ำบาดาลตั้งอยู่ แล้วแต่กรณี สุดแต่อัตราใดจะต่ำกว่า  ทั้งนี้ โดยคำนวณตามปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ในงวดที่ค้างชำระหรือมิได้ชำระภายในกำหนดเวลา ดังนี้

(๑) ในอัตราหนึ่งจุดหนึ่งเท่า กรณีชำระค่าใช้น้ำบาดาลภายในสามสิบวันนับแต่พ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๒

(๒) ในอัตราหนึ่งจุดสองเท่า กรณีชำระค่าใช้น้ำบาดาลเกินกว่าสามสิบวันแต่ไม่เกินหกสิบวันนับแต่พ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๒

(๓) ในอัตราหนึ่งจุดสามเท่า กรณีชำระค่าใช้น้ำบาดาลเกินกว่าหกสิบวันแต่ไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่พ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๒

(๔) ในอัตราสองเท่า กรณีชำระค่าใช้น้ำบาดาลเกินกว่าเก้าสิบวัน นับแต่พ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๒

                    ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับสำหรับค่าใช้น้ำบาดาลส่วนที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินเพิ่มขึ้นตามข้อ ๑๙ (๒) และผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลได้ชำระค่าใช้น้ำบาดาลส่วนที่เพิ่มขึ้นนั้นภายในเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด

ส่วนที่ ๒

การจัดเก็บค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล

                  

ข้อ ๒๔  ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง

ข้อ ๒๕  การคำนวณค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลให้คำนวณตามปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ ดังนี้

(๑) ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำ ให้ชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามปริมาณน้ำบาดาลที่วัดได้จากเครื่องวัดปริมาณน้ำนั้น

                  (๒) ในกรณีที่ไม่อาจคำนวณค่าใช้น้ำบาดาลได้จากเครื่องวัดปริมาณน้ำ เพราะผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลไม่ได้ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำหรือด้วยเหตุอื่นใด ให้ชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล โดยคำนวณตามวันที่ไม่อาจคำนวณปริมาณน้ำบาดาลได้ แต่ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลได้ใช้น้ำบาดาลสูงกว่าปริมาณน้ำบาดาลสูงสุดที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจประเมินปริมาณน้ำบาดาลเพิ่มขึ้น เพื่อใช้คำนวณค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลได้ และผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามปริมาณน้ำบาดาลที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินจนกว่าจะได้ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะกำหนดเป็นอย่างอื่น

                  ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินปริมาณน้ำตาม (๒) ย้อนหลังไปก่อนเวลาชำระค่าใช้น้ำบาดาลตามข้อ ๒๖ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลส่วนที่เพิ่มขึ้นสำหรับงวดก่อน ตามจำนวนและภายในระยะเวลาที่กำหนด

ข้อ ๒๖  ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลปีละ ๔ งวด ดังนี้

(๑) งวดที่      ๑        ตั้งแต่เดือนมกราคม        ถึงเดือนมีนาคม

(๒) งวดที่      ๒        ตั้งแต่เดือนเมษายน        ถึงเดือนมิถุนายน

(๓) งวดที่      ๓        ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม      ถึงเดือนกันยายน

(๔) งวดที่      ๔        ตั้งแต่เดือนตุลาคม         ถึงเดือนธันวาคม

                  ให้ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลในแต่ละงวดให้ครบถ้วนต่อพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ภายในสามสิบวันนับแต่วันเริ่มงวดถัดไป โดยจะชำระเป็นเงินสด หรือโดยเช็คขีดคร่อมสั่งจ่าย “กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเพื่อเข้าบัญชีกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล” หรือชำระโดยส่งทางไปรษณีย์โดยเช็คขีดคร่อมสั่งจ่าย “กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเพื่อเข้าบัญชีกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล” ก็ได้

                  ข้อ ๒๗  ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลมิได้ชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๖ สำหรับงวดใด ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลสำหรับงวดนั้นในอัตราเป็นจำนวนเท่าของอัตราค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลตามข้อ ๒๔  ทั้งนี้ โดยคำนวณตามปริมาณน้ำบาดาลที่ใช้ในงวดที่ค้างชำระหรือมิได้ชำระภายในกำหนดเวลา ดังนี้

(๑) ในอัตราหนึ่งจุดหนึ่งเท่า กรณีชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลภายในสามสิบวัน นับแต่พ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๖

(๒) ในอัตราหนึ่งจุดสองเท่า กรณีชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลเกินกว่าสามสิบวันแต่ไม่เกินหกสิบวัน นับแต่พ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๖

(๓) ในอัตราหนึ่งจุดสามเท่า กรณีชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลเกินกว่าหกสิบวันแต่ไม่เกินเก้าสิบวัน นับแต่พ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๖

(๔) ในอัตราสองเท่า กรณีชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลเกินกว่าเก้าสิบวัน นับแต่พ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๒๖

                  ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับสำหรับค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลส่วนที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินเพิ่มขึ้นตามข้อ ๒๕ (๒) และผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลได้ชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลส่วนที่เพิ่มขึ้นนั้นภายในเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด

ข้อ ๒๘  ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องชำระค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลพร้อมกับการชำระค่าใช้น้ำบาดาล หรือภายในระยะเวลาตามข้อ ๒๖ ในกรณีที่ได้รับยกเว้นค่าใช้น้ำบาดาล

ส่วนที่ ๓

การจัดเก็บค่าธรรมเนียม และค่าวิเคราะห์

                  

ข้อ ๒๙  ให้กำหนดค่าธรรมเนียม และค่าวิเคราะห์ดังต่อไปนี้

(๑) คำขอ                                        ฉบับละ             ๑๐           บาท

(๒) ใบอนุญาตเจาะน้ำบาดาล                  ฉบับละ             ๕๐๐         บาท

(๓) ใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล                     ฉบับละ             ๕๐๐         บาท

(๔) ใบอนุญาตระบายน้ำลงบ่อน้ำบาดาล      ฉบับละ              ๒,๐๐๐       บาท

(๕) ใบแทนใบอนุญาต                                     ฉบับละกึ่งหนึ่งของค่าธรรมเนียม

                                                               ใบอนุญาต

(๖) การต่ออายุใบอนุญาต                                ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียมใบอนุญาต

                                                               ประเภทนั้น ๆ

(๗) การโอนใบอนุญาต                                    ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียมใบอนุญาต

                                                               ประเภทนั้น ๆ

(๘) ค่าวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำหรือของเหลว

ที่จะระบายลงบ่อน้ำบาดาล             ตัวอย่างละ              ๓,๖๐๐    บาท

(๙) ค่าวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำเพื่อการ

อุปโภคบริโภค                            ตัวอย่างละ              ๑,๒๐๐    บาท

(๑๐) ค่าคัดสำเนาหรือถ่ายเอกสาร           หน้าละ                         ๕   บาท

(๑๑) ค่ารับรองสำเนา                        ฉบับละ                        ๑๐   บาท

(๑๒) ค่าขอตรวจสอบเอกสารหลักฐาน       เรื่องละ                       ๑๐   บาท

หมวด ๒

การนำส่งรายได้

                  

                 ข้อ ๓๐  การจัดเก็บค่าธรรมเนียมคำขอ ค่าใบอนุญาต ค่าใบแทนใบอนุญาต ค่าต่ออายุใบอนุญาต และค่าโอนใบอนุญาต ตามความในข้อ ๒ (๑) ถึง (๗) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เมื่อจัดเก็บได้ในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลใด ผู้มีหน้าที่จัดเก็บต้องนำส่งเป็นรายได้ให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลนั้นโดยไม่หักค่าใช้จ่าย เข้าบัญชีเงินฝากของ “องค์การบริหารส่วนตำบล (ระบุชื่อ) ..................”

สำหรับบัญชีเงินฝากขององค์การบริหารส่วนตำบล ให้ติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ ณ ที่ทำการปกครองจังหวัด (ฝ่ายท้องถิ่น) หรือคลังจังหวัด

                 ส่วนตำบลใดที่ยังไม่ได้เป็นองค์การบริหารส่วนตำบล หรือตั้งอยู่ในเขตเทศบาล หากมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ตามแบบฟอร์มใบจัดเก็บรายได้แผ่นดินแทนกัน (นส.๐๓) และใบนำส่งรายได้แผ่นดินแทนกัน รหัสรายได้ ๔๑๒ (ตามความในข้อ ๒ (๒) ถึง (๗) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ ยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอ ใช้รหัสรายได้ ๖๖๘ (ตามความในข้อ ๒ (๑)) โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นเจ้าของรายได้ รหัสหน่วยงาน ๐๙๐๗ เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร

                 ข้อ ๓๑  การจัดเก็บค่าวิเคราะห์ และค่าอื่น ๆ ตามความในข้อ ๒ (๘) ถึง (๑๒) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เมื่อจัดเก็บได้ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ตามแบบใบจัดเก็บรายได้แผ่นดินแทนกัน (นส.๐๓) และใบนำส่งรายได้แผ่นดินแทนกัน (นส.๐๒-๒) รหัสรายได้ ๖๖๘ โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นเจ้าของรายได้ รหัสหน่วยงาน ๐๙๐๗ เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร

                 ข้อ ๓๒  การจัดเก็บค่าใช้น้ำบาดาล ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๔๐) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๘ (พ.ศ. ๒๕๔๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เมื่อจัดเก็บได้ให้แบ่งออกเป็นสองส่วนเท่ากัน ส่วนที่หนึ่งนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินตามแบบใบจัดเก็บรายได้แผ่นดินแทนกัน (นส.๐๓) และใบนำส่งรายได้แผ่นดินแทนกัน (นส.๐๒-๒) รหัสรายได้ ๖๖๘ โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นเจ้าของรายได้ รหัสหน่วยงาน ๐๙๐๗ เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร อีกส่วนหนึ่งส่งเข้าบัญชีกองทุน ให้นำฝากไว้ในบัญชีเงินฝากคลังจังหวัดรหัสบัญชีเงินฝาก ๑๐๙๖๑ และโอนขายบิลส่งส่วนกลาง รหัสหน่วยงาน ๘๐๙๓ เจ้าของเงินฝาก ๘๐๐๙๓๐๐๐๐๐ รหัสบัญชีเงินฝาก ๐๐๙๘๓

                ข้อ ๓๓  การจัดเก็บค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล ตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลและหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเรียกเก็บค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๔๗ ให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ให้นำฝากไว้ในบัญชีเงินฝากคลังจังหวัดรหัสบัญชีเงินฝาก ๑๐๙๖๑ และโอนขายบิลส่งส่วนกลาง เข้าบัญชีกองทุน รหัสหน่วยงาน ๘๐๙๓ เจ้าของเงินฝาก ๘๐๐๙๓๐๐๐๐๐ รหัสบัญชีเงินฝาก ๐๐๙๘๓

                 ข้อ ๓๔  เงินค่าปรับเปรียบเทียบคดี ตามความในมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เมื่อพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ได้เปรียบเทียบปรับและชำระค่าปรับแล้ว ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน หน่วยงานในภูมิภาคที่จัดเก็บแทนส่วนกลาง ส่วนที่ ๑ นำส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดิน ใช้แบบฟอร์ม จัดเก็บรายได้แผ่นดินแทนกัน (นส.๐๓) และการนำส่งรายได้แผ่นดินแทนกัน (นส.๐๒-๒) รหัสรายได้ ๘๐๔ โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นเจ้าของรายได้ รหัสหน่วยงาน ๐๙๐๗ เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ส่วนที่ ๒ นำส่งเป็นเงินฝากคลัง“บัญชีเงินฝากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล” รหัสหน่วยงาน ๐๙๐๗ เจ้าของเงินฝาก ๐๙๐๐๗๐๐๐๐๐ รหัสเงินฝาก ๐๐๖๗๙ โดยใช้แบบฟอร์มใบจัดเก็บเงินนอกงบประมาณแทนกัน (นส.๐๓) และใบนำส่งเงินนอกงบประมาณแทนกัน (นส.๐๒-๒) ส่วนที่ ๓ นำเงินส่งเป็นเงินฝากคลัง “บัญชีเงินฝากสินบนรางวัลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล” รหัสหน่วยงาน ๐๙๐๗ เจ้าของเงินฝาก ๐๙๐๐๗๐๐๐๐๐ รหัสเงินฝาก ๐๐๖๕๘ โดยใช้แบบฟอร์มใบจัดเก็บเงินนอกงบประมาณแทนกัน (นส.๐๓) และใบนำส่งเงินนอกงบประมาณแทนกัน (นส.๐๒-๒)ส่วนที่ ๔ นำส่งเป็นเงินฝากคลัง “บัญชีเงินฝากสินบนรางวัลของจังหวัด...............” รหัสหน่วยงาน ๐๙๐๒ เจ้าของเงินฝาก ๐๙๐๐๒๐๐๐.......... รหัสเงินฝาก ๑๐๖๕๘ โดยใช้แบบฟอร์ม ใบจัดเก็บเงินนอกงบประมาณแทนกัน (นส.๐๑) และใบนำส่งเงินนอกงบประมาณแทนกัน (นส.๐๒-๒)

ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

สมคิด  บัวเพ็ง

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล

ปริยานุช/ผู้จัดทำ

๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑

ปริญสินีย์/ปรับปรุง

๒๖ เมษายน ๒๕๕๖

[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง/หน้า ๑/๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๑