ประกาศกรมทรัพยากรธรณี ออกตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2542) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเก็บตัวอย่างน้ำบาดาล

ประกาศกรมทรัพยากรธรณี

ฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๕๔๒)

ออกตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล

พ.ศ. ๒๕๒๐

เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเก็บตัวอย่างน้ำบาดาล

                   

                          อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๑๓ แห่งประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อ ๒ แห่งประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๔๒) และข้อ ๒ (๔) แห่งประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อ ๑ แห่งประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๘) อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเก็บตัวอย่างน้ำบาดาลไว้ ดังต่อไปนี้

                           ข้อ ๑  ให้ยกเลิกประกาศกรมทรัพยากรธรณี ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ออกตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เรื่อง กำหนดวิธีการเก็บตัวอย่างน้ำบาดาล

ข้อ ๒  ให้ผู้ประกอบกิจการน้ำบาดาล เป็นผู้ดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำ

ข้อ ๓  การเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อวิเคราะห์คุณลักษณะทางกายภาพและทางเคมี ดำเนินการ ดังนี้

(๑) การเก็บตัวอย่างน้ำจากบ่อน้ำบาดาลที่เจาะใหม่ ให้เก็บในขณะทำการทดสอบปริมาณน้ำโดยเก็บก่อนทำการหยุดสูบประมาณ ๑๕ นาที

(๒) การเก็บตัวอย่างน้ำจากบ่อน้ำบาดาลที่ได้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลแล้ว ให้เก็บหลังจากการเริ่มสูบน้ำใช้ในวันที่จะเก็บตัวอย่างน้ำไปแล้วไม่น้อยกว่า ๑๕ นาที

                           (๓) ภาชนะที่จะใส่ตัวอย่างน้ำ ต้องเป็นขวดแก้ว หรือขวดพลาสติกที่สะอาดและจะต้องล้างทั้งขวดและฝาด้วยน้ำที่จะบรรจุเสียก่อนประมาณ ๒-๓ ครั้งแล้วจึงบรรจุตัวอย่างน้ำให้เต็ม ปิดฝาให้แน่นแล้วรีบนำส่งวิเคราะห์ทันที

(๔) ปริมาณน้ำตัวอย่างที่เก็บจะต้องไม่น้อยกว่า ๑.๕ ลิตร

ข้อ ๔  การเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อวิเคราะห์คุณลักษณะที่เป็นพิษดำเนินการ ดังนี้

                           (๑) การเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อวิเคราะห์หาปริมาณ สารหนู ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม และซีลีเนียม ให้ใช้ภาชนะที่จะใส่ตัวอย่างน้ำและวิธีการเก็บตัวอย่างน้ำเช่นเดียวกับข้อ ๓ แล้วเติมกรดดินประสิว (Nitric acid) ที่มีความเข้มข้น ๑ : ๑ จำนวน ๔ มิลลิลิตร ต่อตัวอย่างน้ำ ๑ ลิตร เพื่อทำให้น้ำมีค่าความเป็นกรดต่ำกว่า ๒ ปิดฝาให้แน่น เขย่าให้เข้ากัน แล้วรีบนำส่งวิเคราะห์ทันที ยกเว้นปรอทจะต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิ ๔ องศาเซลเซียสด้วย

                           (๒) การเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อวิเคราะห์หาปริมาณไซยาไนด์ ให้ใช้ภาชนะที่จะใส่ตัวอย่างน้ำและวิธีการเก็บตัวอย่างน้ำเช่นเดียวกับข้อ ๓ แล้วเติมสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์เข้มข้น ๕ นอร์มัล จำนวน ๖ มิลลิลิตร ต่อตัวอย่างน้ำ ๑ ลิตร เพื่อทำให้น้ำมีค่าความเป็นด่างมากกว่า ๑๒ ปิดฝาให้แน่น เขย่าให้เข้ากันเก็บไว้ที่อุณหภูมิ ๔ องศาเซลเซียส และไม่ให้ถูกแสงสว่าง แล้วรีบนำส่งวิเคราะห์ทันที

                          ข้อ ๕  การเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อวิเคราะห์คุณลักษณะทางบัคเตรี ให้เก็บตัวอย่างภายหลังการพัฒนาบ่อน้ำบาดาลเสร็จเรียบร้อย และให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๓๓๒ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมน้ำบริโภค เล่ม ๑ ข้อกำหนดเกณฑ์คุณภาพ และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ข้อ ๖  เมื่อเก็บตัวอย่างน้ำเรียบร้อยแล้ว ให้กรอกข้อความต่อไปนี้ไว้ข้างขวด

(๑) หมายเลขบ่อตามใบอนุญาต                                                     

(๒) สถานที่ตั้งบ่อ                                                                      

(๓) ความลึกของบ่อ                                                                  

(๔) ชื่อผู้เก็บตัวอย่างน้ำ                                                             

(๕) วันที่เก็บตัวอย่างน้ำ                                                             

(๖) สารเคมีที่เติม                                                                     

ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป[๑]

ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๒

นภดล  มัณฑะจิตร

อธิบดีกรมทรัยากรธรณี

อัมภิญา/พิมพ์

๑๖ มกราคม ๒๕๕๐

ปฐมพร/จัดทำ

๒๑ มกราคม ๒๕๕๑

ปริญสินีย์/ปรับปรุง

๒๖ เมษายน ๒๕๕๖

[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๖/ตอนพิเศษ ๕๖ ง/หน้า ๒๓/๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๒