พระราชกฤษฎีกากำหนดป่าปะโค ป่าสีออ และป่าตูมใต้ ในท้องที่ตำบลประโค ตำบลสีออ และตำบลตูมใต้ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานีให้เป็นป่าคุ้มครอง พุทธศักราช 2488

พระราชกฤษฎีกา

กำหนดป่าปะโค ป่าสีออและป่าตูมใต้ ในท้องที่

ตำบลปะโค ตำบลสีออสีออ และตำบลตูมใต้

อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นป่าคุ้มครอง

พุทธศักราช ๒๔๘๘

---------

                                  ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

                                                  ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

                                         (ตามประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎร

                                         ลงวันที่ ๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๘๗)

                                                         ปรีดี พนมยงค์

                                    ตราไว้ ณ วันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๘๗

                                           เป็นปีที่ ๑๒ ในรัชชกาลปัจจุบัน

                        โดยที่เห็นสมควรกำหนดป่าปะโค  ป่าสีออและป่าตูมใต้  ในท้องที่ตำบลปะโค

ตำบลสีออ และตำบลตูมใต้ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นป่าคุ้มครอง

                        ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์  ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาศัย

อำนาจตามความในมาตรา  ๗  แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง และสงวนป่า พุทธศักราช ๒๔๘๑

จึงให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

                        มาตรา  ๑  พระราชกฤษฎีกานี้ให้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกากำหนดป่าปะโค

ป่าสีออ และป่าตูมใต้  ในท้องที่ตำบลปะโค  ตำบลสีออ  และตำบลตูมใต้  อำเภอกุมภวาปี

จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นป่าคุ้มครอง พุทธศักราช ๒๔๘๘"

                        มาตรา   ๒  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้เมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่

วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

                        มาตรา  ๓  ให้ป่าปะโค  ป่าสีออ และป่าตูมใต้ ในท้องที่ตำบลปะโค ตำบลสีออ

และตำบลตูมใต้อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ภายในแนวเขตต์ตามแผนที่ท้ายพระราช

กฤษฎีกานี้ เป็นป่าคุ้มครอง

                        มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการรักษาการตามพระราช

กฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

     ควง อภัยวงศ์

     นายกรัฐมนตรี

[รก.๒๔๘๘/๒๖/๓๑๑/๘ พฤษภาคม ๒๔๘๘]

                                                                                                ชไมพร/พิมพ์

                                                                                                ๒ ตุลาคม ๒๕๔๔