พระราชกฤษฎีกากำหนดป่ายางจำแรต ในท้องที่ตำบลหารโพธิ์ กิ่งอำเภอเขาไชยสน อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2490

พระราชกฤษฎีกา

กำหนดป่ายางจำแรต ในท้องที่ตำบลหารโพธิ์

กิ่งอำเภอเขาไชยสน อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง

ให้เป็นป่าคุ้มครอง

พ.ศ. ๒๔๙๐

------------

                                 ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

                                                  คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

                                                     รังสิต  กรมขุนชัยนาทนเรนทร

                                                           พระยามานวราชเสวี

                                                ให้ไว้ ณ วันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๐

                                                        เป็นปีที่ ๒ ในรัชกาลปัจจุบัน

                        โดยที่เป็นการสมควรกำหนดป่ายางจำแรต ในท้องที่ตำบลหารโพธิ์ กิ่งอำเภอ

เขาไชยสน อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ให้เป็นป่าคุ้มครอง

                        พระมหากษัตริย์อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราช

อาณาจักรไทย และมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า พุทธศักราช ๒๔๘๑

จึงมีพระบรมราชโองการให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

                        มาตรา ๑  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกากำหนดป่ายางจำแรต

ในท้องที่ตำบลหารโพธิ์ กิ่งอำเภอเขาไชยสน อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ให้เป็นป่าคุ้มครอง

พ.ศ. ๒๔๙๐"

                        มาตรา ๒  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวัน นับแต่วัน

ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

                        มาตรา ๓  ให้ป่ายางจำแรต ในท้องที่ตำบลหารโพธิ์ กิ่งอำเภอเขาไชยสน อำเภอ

เมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นป่าคุ้มครอง

                        มาตรา ๔  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการรักษาการตามพระราช

กฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

 พลเรือตรี ถ. ธำรงนาวาสวัสดิ์

        นายกรัฐมนตรี

[รก.๒๔๙๐/๕๕/๗๐๕/๑๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๐]

                                                                                                ชไมพร/พิมพ์

                                                                                                ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๔