พระราชกฤษฎีกา กำหนดป่าหนองดง ในท้องที่ตำบลท่าขมิ้น อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2491

พระราชกฤษฎีกา

กำหนดป่าหนองดง  ในท้องที่ตำบลท่าขมิ้น

อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ให้เป็นป่าคุ้มครอง

พ.ศ. ๒๔๙๑

----------

                                 ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

                              คณะอภิรัฐมนตรี ในหน้าที่คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

                                                    รังสิต กรมขุนชัยนาทนเรนทร

                                                                  อลงกฏ

                                                                 ธานีนิวัต

                                                               มานวราชเสวี

                                                               อดุลเดชจรัส

                                       ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๑

                                                   เป็นปีที่ ๓ ในรัชชกาลปัจจุบัน

                        โดยที่เป็นการสมควรกำหนดป่าหนองดง ในท้องที่ตำบลท่าขมิ้น อำเภอโพทะเล

จังหวัดพิจิตร ให้เป็นป่าคุ้มครอง

                        พระมหากษัตริย์อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๖ ของรัฐธรรมนูญแห่ง

ราชอาณาจักรไทย(ฉะบับชั่วคราว) และมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า

พุทธศักราช ๒๔๘๑ จึงมีพระบรมราชโองการให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

                        มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า  "พระราชกฤษฎีกากำหนดป่าหนองดง

ในท้องที่ตำบลท่าขมิ้นอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ. ๒๔๙๑"

                        มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวัน นับแต่

วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

                        มาตรา ๓ ให้ป่าหนองดง  ในท้องที่ตำบลท่าขมิ้น อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร

ภายในแนวเขตต์ตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาเป็นป่าคุ้มครอง

                        มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการรักษาการตามพระราช

กฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

    จอมพล ป. พิบูลสงคราม

         นายกรัฐมนตรี

[รก.๒๔๙๑/๗๒/๗๙๐/๑๔ ธันวาคม ๒๔๙๑]

                                                                                    ชไมพร/พิมพ์

                                                                                    ๒๐ กันยายน ๒๕๔๔