พระราชกฤษฎีการวมสภาตำบลยางเนิ้งกับเทศบาลตำบลยางเนิ้ง และกำหนดเขต เทศบาลตำบลยางเนิ้ง จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2543

พระราชกฤษฎีกา

รวมสภาตำบลยางเนิ้งกับเทศบาลตำบลยางเนิ้ง และกำหนดเขต

เทศบาลตำบลยางเนิ้ง จังหวัดเชียงใหม่

พ.ศ. ๒๕๔๓

                  

 

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓

เป็นปีที่ ๕๕ ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรรวมสภาตำบลยางเนิ้งกับเทศบาลตำบลยางเนิ้งตามเจตนารมณ์ของประชาชน ในเขตสภาตำบลยางเนิ้ง และกำหนดเขตเทศบาลตำบลยางเนิ้งขึ้นใหม่

               อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๔๑ ตรี แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบกับมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๙ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีการวมสภาตำบลยางเนิ้งกับเทศบาลตำบลยางเนิ้ง และกำหนดเขตเทศบาลตำบลยางเนิ้ง จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๕๔๓”

มาตรา ๒[๑]  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓  ให้รวมสภาตำบลยางเนิ้งเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเทศบาลตำบลยางเนิ้ง ซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่

การใดที่สภาตำบลยางเนิ้งได้กระทำไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการนั้นก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ให้ถือเป็นอันใช้ได้และผูกพันเทศบาลตำบลยางเนิ้ง

มาตรา ๔  เขตของเทศบาลตำบลยางเนิ้ง ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ให้มีดังต่อไปนี้

หลักเขตที่ ๑ ตั้งอยู่บริเวณริมลำเหมืองชุม ฝั่งตะวันออก ซึ่งห่างจากจุดตัดระหว่างลำเหมืองชุมกับถนนสายหนองผึ้ง-ท่าวังตาล ไปทางทิศเหนือ ระยะทางประมาณ ๒๕๐ เมตร

ด้านเหนือ

               จากหลักเขตที่ ๑ เป็นเส้นเลียบริมลำเหมืองกินน้ำ ฝั่งใต้ ไปทางทิศตะวันออกและทิศเหนือและไปทางทิศตะวันออก ผ่านทุ่งนา จนถึงถนนบ้านร้องยาว และเลียบริมถนนบ้านร้องยาว ฟากเหนือถึงจุดซึ่งลำเหมืองสะเรียมบรรจบกับถนนบ้านร้องยาว และเลียบลำเหมืองสะเรียม ฝั่งใต้ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงหลักเขตที่สาธารณะป่าช้ากู่เสือ ซึ่งตั้งอยู่ริมของถนนสาธารณะไม่ปรากฏชื่อฟากตะวันออก และเลียบแนวเขตป่าช้ากู่เสือ ไปทางทิศตะวันออก ถึงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖ (เชียงใหม่ - ลำพูน) และเลียบริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖ (เชียงใหม่ - ลำพูน) ฟากตะวันตกไปทางทิศใต้ ถึงหลักเขตที่ ๒ ซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดที่ห่างจากศูนย์กลางของถนนเทศบาล ซอย ๓ บรรจบกับศูนย์กลางทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖ (เชียงใหม่ - ลำพูน) ระยะทางประมาณ ๒๔ เมตร

จากหลักเขตที่ ๒  เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทางประมาณ ๙๕๐ เมตร ถึงหลักเขตที่ ๓ ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำแม่สะลาบ ฝั่งตะวันตก ตรงจุดที่น้ำแม่สะลาบตัดกับทางรถไฟสายเหนือ (กรุงเทพมหานคร - เชียงใหม่)

ด้านตะวันออก

จากหลักเขตที่ ๓ เป็นเส้นเลียบริมน้ำแม่สะลาบ ฝั่งใต้ ไปทางทิศตะวันออกและ

เลียบน้ำแม่สะลาบ ฝั่งตะวันตก ไปทางทิศใต้ ถึงหลักเขตที่ ๔ ซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดฟากใต้ของถนนสายบ้านพญาชมภู - บ้านศรีดอนมูล ตัดกับน้ำแม่สะลาบ ฝั่งตะวันตก

ด้านใต้

จากหลักที่ ๔ เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตก ระยะทางประมาณ ๒,๕๓๐ เมตร ถึงหลักเขตที่ ๕ ซึ่งตั้งอยู่ตรงแนวเส้นตั้งฉากกับทางรถไฟสายเหนือ (กรุงเทพมหานคร - เชียงใหม่) ไปทางทิศตะวันตก ระยะทางประมาณ ๑,๐๐๐ เมตร

ด้านตะวันตก

จากหลักเขตที่ ๕ เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ระยะทางประมาณ ๔๙๐ เมตร ถึงหลักเขตที่ ๖

จากหลักเขตที่ ๖ เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ระยะทางประมาณ ๒๔๐ เมตร ถึงหลักเขตที่ ๗

จากหลักเขตที่ ๗ เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ระยะทางประมาณ ๔๕๐ เมตร ถึงหลักเขตที่ ๘ ซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดที่ห่างจากสามแยกถนนสายสันป่าสัก - หนองแฝกป่าคา ไปทางทิศเหนือ ระยะทางประมาณ ๘๐ เมตร

               จากหลักเขตที่ ๘ เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตก ระยะทางประมาณ ๕๕ เมตร จนถึงริมถนนสายพระนอน - สันป่าสัก ฟากตะวันออก และเลียบริมถนนสายพระนอน - สันป่าสัก ฟากตะวันออกไปทางทิศใต้ เลียบริมถนนสายสันป่าสัก-หนองแฝกป่าคา ฟากเหนือ ไปทางทิศตะวันตก ถึงจุดซึ่งถนนสายสันป่าสัก - หนองแฝกป่าคาตัดกับลำเหมืองสาธารณประโยชน์ และไปทางทิศเหนือตามลำเหมืองสาธารณประโยชน์ ฝั่งตะวันตก ถึงหลักเขตที่ ๙ ซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดที่ห่างจากถนนขัวมุง - ป่าบง ทางทิศใต้ ระยะทางประมาณ ๑๗๕ เมตร

จากหลักเขตที่ ๙ เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ระยะทางประมาณ ๔๒๕ เมตร ถึงหลักเขตที่ ๑๐ ซึ่งตั้งอยู่ริมลำเหมืองสาธารณประโยชน์ ฝั่งเหนือ

จากหลักเขตที่ ๑๐ เป็นเส้นเลียบริมลำเหมืองสาธารณประโยชน์ ฝั่งใต้ ไปทางทิศตะวันตกและทิศเหนือ ถึงหลักเขตที่ ๑๑ ซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดที่ห่างจากบริเวณจุดตัดระหว่างถนนหมู่ที่ ๗ ตำบลหนองผึ้งกับถนนหมู่ที่ ๒ ตำบลยางเนิ้ง ระยะทางประมาณ ๑๖๐ เมตร

จากหลักเขตที่ ๑๑ เป็นเส้นเลียบริมถนนสายหนองผึ้ง - ท่าวังตาล ฟากเหนือเลียบริมลำเหมืองชุม ฝั่งตะวันตก ไปทางทิศเหนือ จนบรรจบหลักเขตที่ ๑

ดังปรากฏตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้

ตามเส้นแนวเขตที่กล่าวไว้ในมาตรานี้ ให้มีหลักย่อยปักไว้เพื่อแสดงแนวเขตตามสมควร

มาตรา ๕  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

ชวน  หลีกภัย

นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากประชาชนในสภาตำบลยางเนิ้งมีเจตนารมณ์ที่จะรวมกับเทศบาลตำบลยางเนิ้งที่มีเขตติดต่อกันภายในเขตอำเภอเดียวกัน ทั้งนี้ ตามผลการสำรวจเจตนารมณ์ของประชาชนในสภาตำบลยางเนิ้ง และโดยที่มาตรา ๔๑ ตรี แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ บัญญัติให้กระทำได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาและให้กำหนดเขตใหม่ของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นไว้ในพระราชกฤษฎีกาด้วย ประกอบกับมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๙ บัญญัติให้การเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา จึงจำเป็นต้องตราพระราชกกฤษฎีกานี้

ชไมพร/แก้ไข

๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๕

(B+A)

นันทพล/ปรับปรุง

๙ มกราคม ๒๕๕๐

[๑] ราชกิจจานุเบกษา.เล่ม ๑๑๗/ตอนที่ ๑๐๓ ก/หน้า ๑๔/๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๓