คลังสำหรับ 30/06/2016

ประกาศคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัดชัยนาท ที่ ๔/๒๕๕๕ เรื่อง การจัดให้ที่ดินซึ่งถูกถอนสภาพจากการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตท้องที่ตำบลห้วยกรดพัฒนา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลสรรพยา ตำบลโพนางดำตก อำเภอสรรพยา และตำบลห้วยกรด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ให้เป็นเขตโครงการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๓ คงเป็นที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันต่อไป[๑]

ประกาศคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัดชัยนาท

ที่ ๔/๒๕๕๕

กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ออกตามความในพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2517

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากมาตรา ๔๑ แห่งพระราช

บัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗ บัญญัติว่า การออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินใน

เขตโครงการจัดรูปที่ดินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็น

ต้องออกกฎกระทรวงฉบับนี้

พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลศิลา ตำบลในเมือง และตำบลพระลับ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเขตโครงการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. 2520 (ฉบับ Update ล่าสุด)

หมายเหตุ – เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลศิลา ตำบลในเมือง และตำบลพระลับ อำเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเขตโครงการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐ ซึ่งทางราชการได้ดำเนินการจัดรูปที่ดินไปแล้วภายในแนวเขตแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาในท้องที่รวม ๓ ตำบลตามที่ระบุไว้ แต่โครงการจัดรูปที่ดินในเขตท้องที่เฉพาะสำหรับตำบลพระลับ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขนแก่น ซึ่งมีเนื้อที่ ๓,๐๐๐ ไร่ นั้น ทางราชการได้แบ่งการดำเนินงานจัดรูปที่ดินออกเป็น ๒ ระยะ กล่าวคือ โครงการระยะแรกได้ดำเนินการจัดรูปที่ดินในเนื้อที่ ๑,๐๐๐ ไร่ ตามรายชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายจำนวน ๒๓๗ ราย ตามที่ปรากฏในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวแล้ว บัดนี้ ทางราชการจักได้ดำเนินการจัดรูปที่ดินในโครงการระยะที่ ๒ ในเนื้อที่ ๒,๐๐๐ ไร่ ตามบัญชีรายชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองทีดินโดยชอบด้วยกฎหมาย จำนวน ๒๒๔ ราย ที่ปรากฏในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ซึ่งคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลางได้ดำเนินการสำรวจที่ดินเพื่อจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และได้สอบถามความสมัครใจจากเจ้าของที่ดินแล้ว ปรากฏว่าเจ้าของที่ดินจำนวนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของบรรดาเจ้าของที่ดินทั้งหมดได้ยินยอมให้ทางราชการดำเนินการจัดรูปที่ดินได้ สมควรเพิ่มเติมรายชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายต่อท้ายพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวเพื่อให้ทางราชการดำเนินการจัดรูปที่ดินครบตามโครงการ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ขึ้น

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง