กฎกระทรวงการขอใบอนุญาตหรือใบรับรอง และการออกใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า ให้ส่งออก หรือให้นำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า พ.ศ. 2558
กฎกระทรวง
การขอใบอนุญาตหรือใบรับรอง และการออกใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า ให้ส่งออก
หรือให้นำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า
พ.ศ. ๒๕๕๘[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๘ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๒๓ วรรคสาม และมาตรา ๒๔ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ผู้ใดประสงค์จะยื่นคำขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรองเพื่อดำเนินการดังต่อไปนี้ ให้ใช้คำขอตามแบบ สป. ๔ ตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(๑) นำเข้าหรือส่งออกซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
(๒) นำผ่านซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าว
(๓) นำเข้าหรือส่งออกซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ตามมาตรา ๑๘ (๑) หรือได้มาโดยถูกต้องตามความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า
(๔) นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าชนิดที่ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่ากำหนดให้ต้องมีใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน
ข้อ ๒ ผู้ใดประสงค์จะยื่นคำขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรองตามข้อ ๑ ให้ยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้
(๑) กรณีที่สัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า มิใช่สัตว์น้ำ
(ก) ในท้องที่กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นที่กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
(ข) ในท้องที่จังหวัดอื่น ให้ยื่นที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์แห่งท้องที่ที่ประสงค์จะนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี
(๒) กรณีที่สัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า เป็นสัตว์นํ้า
(ก) ในท้องที่กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นที่กองบริหารจัดการด้านการประมง กรมประมง
(ข) ในท้องที่จังหวัดอื่น ให้ยื่นที่สำนักงานประมงจังหวัดที่ประสงค์จะนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี
(๓) สถานที่และวิธีการรับแจ้งอื่นที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชหรืออธิบดีกรมประมงกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
ข้อ ๓ กรณีการยื่นคำขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้าสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าตามข้อ ๑ ผู้ยื่นคำขอต้องยื่นสำเนาใบรับรองสุขภาพสัตว์ (Health Certificate) สำหรับสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่านั้น หรือเอกสารการอนุญาตหรือรับรองว่าอยู่ระหว่างการขออนุญาตส่งออก หรือเอกสารการที่จะอนุญาตของหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจรับรองสุขภาพสัตว์ ซึ่งออกโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายของประเทศที่ส่งออกสัตว์ป่านั้น และสำเนาใบสั่งสินค้า (Order) หรือสำเนาใบกำกับสินค้า (Invoice) พร้อมกับคำขอด้วย เว้นแต่เป็นการยื่นคำขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้าที่มิใช่เพื่อการค้า ให้ยื่นเฉพาะสำเนาใบรับรองสุขภาพสัตว์ (Health Certificate) หรือเอกสารการอนุญาตหรือรับรองว่าอยู่ระหว่างการขออนุญาตส่งออก หรือเอกสารการที่จะอนุญาต
กรณีการยื่นคำขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า ตามข้อ ๑ เพื่อการค้า ผู้ยื่นคำขอต้องยื่นสำเนาใบสั่งสินค้า (Order) หรือสำเนาใบกำกับสินค้า (Invoice) พร้อมกับคำขอด้วย
กรณีการยื่นคำขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้ส่งออกซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าตามข้อ ๑ ผู้ยื่นคำขอต้องยื่นหลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้น และสำเนาใบสั่งสินค้า (Order) หรือสำเนาใบกำกับสินค้า (Invoice) พร้อมกับคำขอด้วย เว้นแต่เป็นการยื่นคำขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้ส่งออกที่มิใช่เพื่อการค้าให้ยื่นเฉพาะหลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้น
ข้อ ๔ ในกรณีที่การยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้นำเข้า ให้ส่งออก หรือให้นำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ (Species)เดียวกับที่กำหนดไว้ในบัญชีหมายเลข ๑ ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) นอกจากจะต้องยื่นหลักฐานตามข้อ ๓ แล้ว ผู้ยื่นคำขอต้องยื่นหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีที่เป็นการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้นำเข้า ผู้ยื่นคำขอต้องแสดงหนังสืออนุญาตหรือหลักฐานการอนุญาตหรือหนังสือยินยอมให้ส่งออกของประเทศต้นทางที่สัตว์ป่านั้นอยู่ ซึ่งออกโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจออกใบอนุญาตตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ของประเทศที่จะส่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้นเข้ามาในราชอาณาจักร
(๒) ในกรณีที่เป็นการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ส่งออก ผู้ยื่นคำขอต้องแสดงใบอนุญาตนำเข้า (Import Permit) หรือหนังสือยินยอมให้นำเข้า ซึ่งออกโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจออกใบอนุญาตตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ของประเทศที่จะส่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าไปยังประเทศนั้น
(๓) ในกรณีที่เป็นการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้นำผ่าน ผู้ยื่นคำขอต้องแสดงใบอนุญาตส่งออก (Export Permit) ของประเทศที่อนุญาตให้ส่งออกสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้น และใบอนุญาตนำเข้า (Import Permit) ของประเทศที่อนุญาตให้นำเข้าสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้น
(๔) ในกรณีที่เป็นการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้นำเข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราวเพื่อส่งออกสำหรับการนำเข้า ผู้ยื่นคำขอต้องแสดงหลักฐานตาม (๑) สำหรับการส่งออก ผู้ยื่นคำขอต้องแสดงหลักฐานตาม (๒) พร้อมกับใบอนุญาตส่งออก (Export Permit) ของประเทศที่เป็นถิ่นกำเนิดของสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้น และใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้นเข้ามาในราชอาณาจักร เว้นแต่เป็นการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นถิ่นกำเนิดไม่ต้องแสดงหลักฐานตาม (๒) ในการนี้ ให้ถือว่าใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้นเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นหลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าตามข้อ ๓ วรรคสาม
ในกรณีที่เป็นการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้นำเข้าหรือให้นำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าตามบัญชีหมายเลข ๒ บัญชีหมายเลข ๓ หรือชนิดพันธุ์ (Species) ตามบัญชีหมายเลข ๑ ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์เพื่อการค้า นอกจากจะต้องยื่นหลักฐานตามข้อ ๓ แล้ว ผู้ยื่นคำขอต้องแสดงใบอนุญาตส่งออก (Export Permit)ของประเทศที่อนุญาตให้ส่งออกสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย
ข้อ ๕ การพิจารณาอนุญาตคำขอตามข้อ ๑ ให้คำนึงถึงหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
(๑) ในการอนุญาตหรือออกใบรับรองให้นำเข้าสัตว์ป่า ให้พิจารณาจำนวนสัตว์ป่าที่มีอยู่ในประเทศเพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์มากเกินสมควร วิธีการสืบพันธุ์ ความปลอดภัยของสัตว์ป่าในประเทศ และอันตรายที่อาจเกิดจากสัตว์ป่านั้น รวมทั้งลักษณะสภาพของสถานที่เลี้ยงสัตว์ป่าและสุขภาพของสัตว์ป่า ความอยู่รอดของสัตว์ป่านั้น หรือผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศทางธรรมชาติ
(๒) ในการอนุญาตหรือออกใบรับรองให้ส่งออกสัตว์ป่า ให้พิจารณาชนิดพันธุ์และจำนวนสัตว์ป่าที่มีอยู่ในประเทศ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ รวมทั้งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อวงจรชีวิตของสัตว์ป่าอื่นและความสมดุลของระบบนิเวศทางธรรมชาติ
(๓) ในการอนุญาตหรือออกใบรับรองให้นำผ่านสัตว์ป่า ให้พิจารณาชนิดพันธุ์และจำนวนสัตว์ป่าให้ตรงกับที่ขออนุญาต และตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปโดยถูกต้อง รวมทั้งความปลอดภัยของสัตว์ป่าในประเทศและอันตรายที่อาจเกิดจากสัตว์ป่านั้น
(๔) ถ้าเป็นการนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ (Species) เดียวกับที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ให้พิจารณาและดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของอนุสัญญาดังกล่าวด้วย และกรณีการนำเข้าให้คำนึงถึงความปลอดภัยของสัตว์ป่าในประเทศและอันตรายจากสัตว์สู่มนุษย์ที่อาจเกิดขึ้นจากสัตว์ป่านั้น ความอยู่รอดของสัตว์ป่านั้น หรือผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศทางธรรมชาติ รวมทั้งลักษณะสภาพของสถานที่เลี้ยงสัตว์ป่า สุขภาพของสัตว์ป่า และผลกระทบด้านการสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อผู้อยู่อาศัยใกล้เคียงกับสถานที่เลี้ยงสัตว์ป่านั้น
ข้อ ๖ แบบใบอนุญาตให้นำเข้า ให้ส่งออก หรือให้นำผ่าน หรือใบรับรองตามข้อ ๑ ให้ใช้แบบ ดังต่อไปนี้
(๑) กรณีสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือสัตว์ป่าอื่นซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ (Species) ตามที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์ป่าและซากของสัตว์ป่าที่ห้ามนำเข้าหรือส่งออก ในกลุ่มที่ ๑ หรือซากของสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าว ให้ใช้แบบ สป. ๕ ตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(๒) กรณีสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ (Species) ตามที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์ป่าและซากของสัตว์ป่าที่ห้ามนำเข้าหรือส่งออก ในกลุ่มที่ ๒ ให้ใช้แบบ สป. ๖ ตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(๓) กรณีสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ (Species) อื่นนอกจากที่กำหนดตาม (๑) และ (๒) ให้ใช้แบบใบรับรองตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๗ ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้าสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าต้องยื่นสำเนาใบรับรองสุขภาพสัตว์ (Health Certificate) สำหรับสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่านั้นจากประเทศผู้ส่งออกในวันที่นำเข้าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่า
ข้อ ๘ ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า ให้ส่งออก หรือให้นำผ่าน นำสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่านั้นเคลื่อนที่ผ่านด่านตรวจสัตว์ป่าตามที่อธิบดีกำหนดไว้ในใบอนุญาตหรือใบรับรอง เว้นแต่มีเหตุจำเป็นหรือโดยสภาพข้อเท็จจริงที่ไม่อาจนำสัตว์ป่าเคลื่อนที่ผ่านด่านตรวจสัตว์ป่านั้น ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า ให้ส่งออก หรือให้นำผ่านแจ้งเป็นหนังสือตามแบบที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่านั้น
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่าได้ตรวจสอบใบอนุญาตหรือใบรับรองและสัตว์ป่าซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าที่จะนำเคลื่อนที่ผ่านด่านตรวจสัตว์ป่าแล้วเห็นว่าถูกต้องให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่าอนุญาตให้นำสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าเคลื่อนที่ผ่านด่านตรวจสัตว์ป่าได้โดยแสดงการอนุญาตไว้ในใบอนุญาตหรือใบรับรองนั้น
ข้อ ๙ ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า ให้ส่งออก หรือให้นำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า ให้ส่งออก หรือให้นำผ่านสัตว์ป่ามีชีวิต ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองขนส่งสัตว์ป่าด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้สัตว์ป่าได้รับอันตราย บาดเจ็บ หรือกระทำการในลักษณะเป็นการทารุณกรรมสัตว์ และหากเป็นการขนส่งทางอากาศจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ตามระเบียบว่าด้วยการขนส่งสัตว์มีชีวิตทางอากาศอย่างเคร่งครัดด้วย
(๒) ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้าสัตว์ป่ามีชีวิตที่ยังไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่านั้น ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้าจัดทำเครื่องหมายประจำตัว ตามระยะเวลา รูปแบบ หรือหลักเกณฑ์ตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(๓) ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้าจะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงจำนวนสัตว์ป่าที่ได้รับอนุญาตนำเข้ามาในราชอาณาจักร ในกรณีสัตว์ป่านั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากการเกิด หรือแจ้งการลดลง ในกรณีสัตว์ป่านั้นตาย หรือเปลี่ยนแปลงการครอบครอง การโอนและการจำหน่าย และจะต้องจัดทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากการเกิด หรือเครื่องหมายประจำตัวซากของสัตว์ป่าในกรณีที่สัตว์ป่านั้นตายและต้องการครอบครองซากของสัตว์ป่านั้น และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งแล้วให้ดำเนินการออกหลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น หรือหลักฐานการได้มาซึ่งซากของสัตว์ป่าที่ตายตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(๔) ผู้รับใบอนุญาตให้นำเข้า ให้ส่งออก หรือให้นำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าชนิดที่กำหนดไว้ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต
(๕) ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองต้องนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าที่ได้รับอนุญาตให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตหรือใบรับรอง เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวให้ใบอนุญาตหรือใบรับรองนั้นเป็นอันสิ้นสุด
ข้อ ๑๐ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการประชาชนและเพื่อให้มีหลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าภายหลังจากที่ได้มีการนำเข้ามาในราชอาณาจักรแล้ว ในกรณีที่สัตว์ป่าที่นำเข้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการสืบพันธุ์ของสัตว์ป่าและลูกสัตว์ป่าที่เกิดต่อเนื่องมาจากสัตว์ป่านั้นหรือซากของสัตว์ป่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากสัตว์ป่าตาย ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน เว้นแต่เป็นกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองเป็นผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะ ในการนี้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเห็นว่าถูกต้อง และผู้ครอบครองได้จัดทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าครบถ้วนแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกหนังสือรับรองการได้มาซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าให้กับผู้แจ้งต่อไป
แบบ วิธีการแจ้ง และการออกหนังสือรับรองการได้มาซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าให้เป็นไปตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๑๑ ในกรณีที่ใบอนุญาตหรือใบรับรองตามข้อ ๖ สูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดเสียหายในสาระสำคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรองตามแบบ สป. ๗ ที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
การออกใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรองตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้แบบใบอนุญาตหรือใบรับรองเดิมและระบุคำว่า “ใบแทน” หรือใช้ข้อความอื่นใดทำนองเดียวกันไว้ที่กึ่งกลางส่วนบนด้านหน้าของใบอนุญาตหรือใบรับรอง
การยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรองตามวรรคหนึ่ง ให้นำความในข้อ ๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๑๒ บรรดาแบบคำขอและแบบใบอนุญาต ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ยังคงใช้ได้อยู่ต่อไปจนกว่าอธิบดีจะดำเนินการตามข้อ ๑ ข้อ ๖ และข้อ ๑๑
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘
พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกอบกับมาตรา ๒๓ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗ บัญญัติให้การนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าต้องได้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองจากอธิบดี และการออกใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรองดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘
นุสรา/ผู้ตรวจ
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนที่ ๓๕ ก/หน้า ๔/๒๙ เมษายน ๒๕๕๘