กฎกระทรวง กำหนดแบบและวิธีการแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง การออกใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว และการออกใบรับรองการครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2550
กฎกระทรวง
กำหนดแบบและวิธีการแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง
และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง การออกใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว
และการออกใบรับรองการครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง
พ.ศ. ๒๕๕๐[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๖๑ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕
ข้อ ๒ ให้ผู้มีสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองตามมาตรา ๖๑ แจ้งการครอบครองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบ สป.๑ ท้ายกฎกระทรวงนี้ โดยในกรุงเทพมหานครให้ยื่นที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่วนในท้องที่อื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดที่มีการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองนั้น เว้นแต่เป็นการแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่เป็นสัตว์น้ำ โดยในเขตกรุงเทพมหานครให้ยื่นที่สำนักบริหารจัดการด้านการประมง กรมประมง ส่วนในท้องที่อื่นนอกจากกรุงเทพมหานครให้ยื่นที่สำนักงานประมงจังหวัดที่สัตว์น้ำนั้นอยู่
ข้อ ๓ เมื่อได้รับการแจ้งตามข้อ ๒ แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบความถูกต้องเกี่ยวกับชนิดและจำนวนสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่มีการแจ้ง เมื่อเห็นว่าถูกต้องแล้ว ให้ผู้แจ้งหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำเครื่องหมายหรือหลักฐานประจำตัวสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองตามความเหมาะสมกับชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวเพื่อเป็นหลักฐานการครอบครอง และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกหลักฐานการแจ้งให้กับผู้แจ้ง
ข้อ ๔ ในกรณีที่ผู้แจ้งได้แสดงความประสงค์จะเลี้ยงดูสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้แจ้งตามข้อ ๒ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรายงานต่ออธิบดีเกี่ยวกับความสมควร และความปลอดภัยของสถานที่ที่จะให้สัตว์ป่าคุ้มครองนั้นอยู่อาศัย รวมถึงวิธีการเลี้ยงดูสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว และเมื่ออธิบดีได้พิจารณาเห็นสมควรอนุญาตให้เลี้ยงดูสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นต่อไปได้ ให้ออกใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราวตามแบบ สป.๒ ท้ายกฎกระทรวงนี้ หากอธิบดีพิจารณาแล้วเห็นไม่สมควรให้เลี้ยงดูสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้จำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กำหนดตามมาตรา ๑๗ ให้แก่ผู้รับใบอนุญาตเพาะพันธุ์ตามมาตรา ๑๘ หรือจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นให้แก่ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะตามมาตรา ๒๙ ให้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งของอธิบดี และเมื่อสิ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ยังมีสัตว์ป่าคุ้มครองเหลืออยู่เท่าใดให้สัตว์ป่าคุ้มครองนั้นตกเป็นของแผ่นดิน และให้ผู้แจ้งส่งมอบสัตว์ป่าคุ้มครองให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกรมประมง แล้วแต่กรณี
ในกรณีที่เป็นซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผู้แจ้งได้แสดงความประสงค์จะครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นต่อไป ให้อธิบดีออกใบรับรองการครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครองตามแบบ สป.๓ ท้ายกฎกระทรวงนี้
ข้อ ๕ ผู้รับใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราวตามข้อ ๔ วรรคหนึ่งต้องเลี้ยงดูสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตและดูแลสัตว์ป่าคุ้มครองด้วยความเอาใจใส่ในสภาพอันสมควรและปลอดภัยตามชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองนั้น
ข้อ ๖ ผู้รับใบรับรองการครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครองตามข้อ ๔ วรรคสองต้องเก็บรักษาซากของสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นไว้ในสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบรับรอง
ข้อ ๗ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราวหรือผู้รับใบรับรองการครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครองมีความจำเป็นต้องนำสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวไปเก็บไว้ ณ สถานที่อื่นที่มิใช่สถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตหรือใบรับรอง ให้ยื่นขออนุญาตเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๒ และเมื่ออธิบดีได้ให้ความเห็นชอบกับการย้ายสถานที่แล้ว จึงจะดำเนินการย้ายได้ ในการนี้ ให้อธิบดีดำเนินการให้มีการแก้ไขใบอนุญาตหรือใบรับรองให้ตรงกับความเป็นจริงด้วย
ข้อ ๘ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมจำนวนสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นไปโดยถูกต้อง ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนสัตว์ป่าคุ้มครองแตกต่างไปจากจำนวนที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราวหรือมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนซากของสัตว์ป่าคุ้มครองแตกต่างไปจากจำนวนที่กำหนดไว้ในใบรับรองการครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้รับใบรับรองดังกล่าวแจ้งการเปลี่ยนแปลงเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๒ พร้อมกับนำใบอนุญาตหรือใบรับรอง แล้วแต่กรณี มาให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ตรงกับความเป็นจริงภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเป็นสัตว์น้ำให้แจ้งภายในหกสิบวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
ในกรณีที่สัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองเพิ่มจำนวนขึ้น และยังไม่มีเครื่องหมายหรือหลักฐานประจำตัวสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว ให้ผู้รับใบอนุญาตจัดหาและทำเครื่องหมายหรือหลักฐานประจำตัวสัตว์ป่าคุ้มครองตามความเหมาะสมกับชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองเพื่อเป็นหลักฐานการครอบครองด้วย
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
เกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบแจ้งการครอบครองตามาตรา ๖๑ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ (สป. ๑)
๒. ใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว (สป. ๒)
๓. ใบรับรองการครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง (สป. ๓)
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่แบบและวิธีการแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครองตามมาตรา ๖๑ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่าคุ้มครองมีความล่าช้าและไม่ปลอดภัยแก่สัตว์ป่าคุ้มครอง และโดยที่ระยะเวลาที่กำหนดให้ผู้มีสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองซากของสัตว์ป่าสงวนหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองอยู่ในความครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายมาแจ้งรายการเกี่ยวกับชนิดและจำนวนของสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวนหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่อยู่ในความครอบครองของตนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๖๗ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้สิ้นสุดลง ประกอบกับได้มีการปฏิรูประบบราชการโดยกำหนดให้มีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขึ้น และให้ภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ โอนไปเป็นของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เพื่อเป็นการสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว สมควรแก้ไขให้ถูกต้องเสียในคราวเดียวกัน จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
วัชศักดิ์/ผู้จัดทำ
๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๐
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๔/ตอนที่ ๔๒ ก/หน้า ๓๘/๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๐