กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๔๙๐) ว่าด้วยการอุทธรณ์ออกตามความในพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๐[๑]

กฎกระทรวง

ฉะบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๔๙๐)

ว่าด้วยการอุทธรณ์

ออกตามความในพระราชบัญญัติการประมง

พ.ศ. ๒๔๙๐[๑]

                  

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

                 ข้อ ๑.  ในกรณีที่เจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจออกประทานบัตร ใบอนุญาต และอาชญาบัตร ไม่ยอมออกเอกสารเช่นว่านั้น ถ้าบุคคลผู้มีส่วนได้เสียประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าพนักงาน ก็ให้บุคคลนั้นยื่นอุทธรณ์ต่อเจ้าพนักงาน ภายในกำหนดสามสิบวัน นับตั้งแต่วันที่ผู้ยื่นอุทธรณ์ทราบคำสั่ง

                 ข้อ ๒.  ในคำอุทธรณ์นั้น จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลโดยละเอียดชัดเจนว่าคำสั่งของเจ้าพนักงานนั้นไม่ชอบด้วยเหตุผลประการใด และต้องลงชื่อตัวชื่อสกุลและภูมิลำเนาของผู้ยื่นอุทธรณ์

                ข้อ ๓.  เมื่อเจ้าพนักงานได้รับคำอุทธรณ์ ก็ให้ออกใบรับให้แก่ผู้ยื่นอุทธรณ์เป็นหลักฐาน และให้เจ้าพนักงานดังกล่าวแล้วชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลในการไม่ยอมออกใบอนุญาตหรืออาชญาบัตร แล้วแต่กรณี โดยละเอียด เสนอคณะกรรมการจังหวัดเพื่อตรวจสอบแสดงความเห็นภายในกำหนดสิบวัน นับตั้งแต่วันได้รับอุทธรณ์

                ข้อ ๔.  สำหรับกรณีใบอนุญาตหรืออาชญาบัตรนั้นถ้าคณะกรมการจังหวัดเห็นสมควรออกใบอนุญาตหรืออาชญาบัตรให้แก่ผู้ยื่นอุทธรณ์ ก็ให้แนะนำเจ้าพนักงานดำเนินการออกใบอนุญาตหรืออาชญาบัตรให้แก่ผู้อุทธรณ์ต่อไปได้ ถ้าเจ้าพนักงานออกใบอนุญาตหรืออาชญาบัตรให้ก็เป็นอันยุติ แต่ถ้าพนักงานเห็นว่าไม่สมควรออกใบอนุญาตหรืออาชญาบัตรก็ให้เจ้าพนักงานรายงานมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการพร้อมด้วยความเห็นของคณะกรมการจังหวัดภายในยี่สิบวัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์

                ข้อ ๕.  ในกรณีที่ไม่ยอมให้ออกประทานบัตร เมื่อข้าหลวงประจำจังหวัดได้รับอุทธรณ์ ก็ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลโดยละเอียดเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ ภายในสิบห้าวัน นับตั้งแต่วันได้รับอุทธรณ์

ข้อ ๖.  เมื่อเจ้าพนักงานได้รับคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ ให้แจ้งคำวินิจฉัยนั้นให้ผู้อุทธรณ์ทราบภายในห้าวัน

ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๐

จรูญ  สืบแสง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ

จุฑามาศ/ปรับปรุง

๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๘

[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๖๔/ตอนที่ ๑๗/ฉบับพิเศษ หน้า ๔๔/๑๔ เมษายน ๒๔๙๐