กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๙ (พ.ศ. ๒๕๑๙) ออกตามความในพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พุทธศักราช ๒๔๘๕[๑]
กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๑๙ (พ.ศ. ๒๕๑๙)
ออกตามความในพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง
พุทธศักราช ๒๔๘๕[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการชลประทานหลวงพุทธศักราช ๒๔๘๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๑๘ และมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พุทธศักราช ๒๔๘๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย ๑ ซ้ายของคลองส่งน้ำสานใหญ่ ๓ จากกิโลเมตรที่ ๑๐.๑๐๐ ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๓ ในท้องที่ตำบลท่ายาง อำเภอ ท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ถึงกิโลเมตรที่ ๒๘.๕๐๐ ของคลองซอย ๑ ซ้ายของคลอง ส่งน้ำสายใหญ่ ๓ ในท้องที่ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ตามแนวเขตแผนที่ท้ายกฎกระทรวงนี้ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำเพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นในหรือนอกเขตชลประทาน
ข้อ ๒ ให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๓ (ฝั่งตะวันออกแม่น้ำเพชรบุรี) จากแม่น้ำเพชรบุรี กิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ถึงกิโลเมตรที่ ๒๕.๙๔๐ ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๓ ในท้องที่ตำบลหนองขนาน อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ตามแนวเขตแผนที่ท้ายกฎกระทรวงนี้ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จากผู้ใช้น้ำเพื่อกิจการโรงงานการประปา หรือกิจการอื่นในหรือนอกเขตชลประทาน
ข้อ ๓ ให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๒ (ฝั่งตะวันออกแม่น้ำเพชรบุรี) จากแม่น้ำเพชรบุรี กิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ถึงกิโลเมตรที่ ๑๙.๕๖๖ ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๒ ในท้องที่ตำบลหนองจอก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ตามแนวเขตแผนที่ท้ายกฎกระทรวงนี้ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จากผู้ใช้น้ำเพื่อกิจการโรงงาน การประปาหรือกิจการอื่นในหรือนอกเขตชลประทาน
ข้อ ๔ ให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ (ฝั่งตะวันออกแม่น้ำเพชรบุรี) จากแม่น้ำเพชรบุรีกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ถึงกิโลเมตรที่ ๑๖.๖๐๐ ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ ในท้องที่ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตามแนวเขตแผนที่ท้ายกฎกระทรวงนี้ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จากผู้ใช้น้ำเพื่อกิจการโรงงาน การประปาหรือกิจการอื่นในหรือนอกเขตชลประทาน
ข้อ ๕ ให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย ๑ ขวา ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ (คลองสายหัวหิน) จากกิโลเมตรที่ ๒.๓๐๐ ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ ในท้องที่ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ถึงกิโลเมตรที่ ๔๑.๒๕๐ ของคลองซอย ๑ ขวาของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ ในท้องที่ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามแนวเขตแผนที่ท้ายกฎกระทรวงนี้เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จากผู้ใช้น้ำเพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่น ในหรือนอกเขตชลประทาน
ข้อ ๖ ให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย ๒ ขวา ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ จากกิโลเมตรที่ ๕.๔๕๐ ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ จากกิโลเมตรที่ ๕.๔๕๐ ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ ในท้องที่ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ถึงกิโลเมตรที่ ๘.๗๙๐ ของคลองซอย ๒ ขวา ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ ในท้องที่ตำบลนายาง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตามแนวเขตแผนที่ท้ายกฎกระทรวงนี้เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จากผู้ใช้น้ำเพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นในหรือนอกเขตชลประทาน
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๙
อนุวรรตน์ วัฒนพงศ์ศิริ
รัฐมนตรีช่วยว่าการ ฯ รักษาราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แผนที่ท้ายกระทรวง ฉบับที่ ๑๙ (พ.ศ. ๒๕๑๙) ออกตามความในพระราชบัญญัติการชลประทานหลวงพุทธศักราช ๒๔๘๕
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจาก มาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พุทธศักราช ๒๔๘๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้บัญญัติให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานได้ ฉะนั้น สมควรกำหนดทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บ ค่าชลประทาน จากผู้ใช้น้ำเพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นใน หรือนอกเขตชลประทาน จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
วิมล/ปรับปรุง
๑๘ กันยายน ๒๕๕๗
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๓/ตอนที่ ๙๓/หน้า ๒๓๙/๒๐ กรกฎาคม ๒๕๑๙