กฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๓๙) ออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕[๑]

กฎกระทรวง

ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๓๙)

ออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

พ.ศ. ๒๕๓๕[๑]

                  

                    อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑ วรรคสอง มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๔ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม โดยคำแนะนำของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

                     ข้อ ๑  ให้พื้นที่บริเวณป่าดูนลำพัน ซึ่งเป็นที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน ตั้งอยู่บ้านนาเชือก หมู่ที่ ๑ ตำบลนาเชือก อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ ๓๐๗๖๓ เนื้อที่ประมาณ ๓๑๑ ไร่ ๒ งาน ๕๒ ตารางวา เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยมีมาตรการคุ้มครองตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงนี้

ข้อ ๒  ในกฎกระทรวงนี้

                  “ล่า” หมายความว่า เก็บ ดัก จับ ยิง ฆ่า หรือทำอันตรายด้วยประการอื่นใดแก่สัตว์ที่ไม่มีเจ้าของและอยู่เป็นอิสระ และหมายความรวมถึงการไล่ การต้อน การเรียก หรือการล่อเพื่อการกระทำดังกล่าวด้วย

“พืช” หมายความถึง พันธุ์ไม้ทุกชนิดทั้งที่เป็นต้น เป็นกอ เป็นเถา ตลอดจนส่วนต่างๆ ของพืชไม่ว่ายังยืนต้นหรือล้มตายแล้ว

“สัตว์” หมายความถึง สัตว์ทุกชนิดไม่ว่าจะมีชีวิตหรือตายแล้ว ตลอดจนส่วนต่างๆ ของสัตว์ สิ่งที่เกิดจากสัตว์ และสิ่งที่สัตว์ทำขึ้น

ข้อ ๓  ห้ามมิให้มีการกระทำหรือกิจกรรมดังต่อไปนี้ ในพื้นที่ตามข้อ ๑

(๑) ยึดถือหรือครอบครองที่ดิน รวมตลอดถึงก่นสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า

(๒) กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ดิน หิน กรวด หรือทราย

(๓) ขุด ถม ปรับ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ ซึ่งทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติท่วมท้น เหือดแห้ง หรือเปลี่ยนทิศทาง

(๔) ปิด หรือทำให้กีดขวางทางบก หรือทางน้ำ

(๕) นำยานพาหนะเข้าออก หรือขับขี่ยานพาหนะในทางที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

(๖) นำสัตว์ออกไป เว้นแต่เพื่อการศึกษาวิจัยและได้รับอนุญาตจากพนักงาน

เจ้าหน้าที่

(๗) ล่าหรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์

(๘) นำหรือปล่อยสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์พาหนะเข้าไป

(๙) เก็บ ทำลาย หรือนำพืชทุกชนิดออกไป เว้นแต่เพื่อการศึกษาวิจัยและได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

(๑๐) ยิงปืน ทำให้เกิดระเบิดซึ่งวัตถุระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิง

(๑๑) ทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิง

(๑๒) ทิ้งขยะมูลฝอยหรือสิ่งต่างๆ ในที่ที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้น

(๑๓) ก่อสร้างอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ เว้นแต่อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และได้รับการอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

(๑๔) ปิดประกาศ โฆษณา หรือขีดเขียนในที่ต่างๆ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

(๑๕) ส่งเสียงอื้อฉาว หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวน หรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่คนหรือสัตว์

(๑๖) นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

(๑๗) กระทำการ หรือก่อให้เกิดกิจกรรมใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์

(๑๘) เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

ข้อ ๔  ห้ามมิให้บุคคลใดกระทำให้หลักเขต ป้าย หรือเครื่องหมายอื่นซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่จัดไว้เคลื่อนที่ ลบเลือน เสียหายหรือไร้ประโยชน์

                  ข้อ ๕  บทบัญญัติในข้อ ๓ และข้อ ๔ มิให้ใช้บังคับแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติการไปเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองและดูแลรักษาพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือเพื่อการศึกษาวิจัยทางวิชาการหรือให้ความรู้แก่ประชาชน

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๙

ยิ่งพันธ์ มนะสิการ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์

เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

หมายเหตุ :-  เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากพื้นที่ในบริเวณป่าดูนลำพันอำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม เป็นพื้นที่พิเศษที่มีระบบนิเวศน์เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของประเทศไทย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของ “ปูทูลกระหม่อม” ซึ่งเป็นสัตว์หายาก และเป็นพื้นที่ที่มีระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นโดยทั่วไปที่อาจถูกทำลายหรือได้รับผลกระทบจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ได้โดยง่าย สมควรกำหนดให้พื้นที่ในบริเวณดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติไว้มิให้เปลี่ยนแปลงไปและอนุรักษ์สัตว์หายาก และโดยที่มาตรา ๔๓ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ บัญญัติให้การกำหนดเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมต้องออกเป็นกฎกระทรวงจึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

 

 

นันทพล/ปรับปรุง

๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙

[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๓/ตอนที่ ๕๙ก./หน้า ๒๖/๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๙