ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. ๒๕๕๘
ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง
และตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
พ.ศ. ๒๕๕๘
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี จึงออกประกาศกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้กำหนดพื้นที่ภายในบริเวณที่วัดจากแนวเส้นศูนย์กลางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖ (ถนนสายเชียงใหม่ - ลำพูน) ออกไปทั้งสองด้าน ด้านละ ๔๐ เมตร ตั้งแต่ลำเหมืองพญาคำ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ถึงสุดเขตตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ซึ่งอยู่ในเขตควบคุมอาคารตามพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดสงขลา พ.ศ. ๒๕๓๕ เขตผังเมืองรวมตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๕ และเขตผังเมืองรวมตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองลำพูน พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามแผนที่ท้ายประกาศนี้ เป็นเขตพื้นที่ที่ให้ใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้
ข้อ ๒ ให้จำแนกพื้นที่ตามข้อ ๑ เป็น ๒ บริเวณ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
บริเวณที่ ๑ หมายถึง พื้นที่ในบริเวณที่วัดจากแนวเส้นศูนย์กลางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖ (ถนนสายเชียงใหม่ - ลำพูน) ออกไปทั้งสองด้าน ด้านละ ๑๐ เมตร
บริเวณที่ ๒ หมายถึง พื้นที่ในบริเวณที่วัดจากแนวเส้นศูนย์กลางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖ (ถนนสายเชียงใหม่ - ลำพูน) ออกไปทั้งสองด้าน ด้านละ ๔๐ เมตร แต่ไม่รวมพื้นที่ในบริเวณที่ ๑
ข้อ ๓ ในพื้นที่บริเวณที่ ๑ ห้ามกระทำการหรือประกอบกิจกรรม ดังต่อไปนี้
(๑) การตัด ฟัน โค่น ต้นยางนา หรือต้นขี้เหล็ก หรือการกระทำใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ต้นไม้หรือส่วนประกอบของต้นไม้ดังกล่าว เว้นแต่เป็นการดำเนินการของหน่วยราชการในการดูแลหรือบำรุงรักษา
(๒) การกระทำอันตรายด้วยประการใด ๆ ต่อระบบราก หรือลำต้นของต้นยางนา หรือต้นขี้เหล็ก
(๓) การปรับ เปลี่ยน เทหรือปูพื้นที่ด้วยซีเมนต์หรือแอสฟัสต์ หรือวัสดุอื่นที่เป็นอันตรายต่อระบบรากของต้นยางนา หรือต้นขี้เหล็ก
(๔) การตอกหรือติดตั้งป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้าย ในลักษณะที่ก่อให้เกิดอันตรายหรือบดบังต้นยางนา หรือต้นขี้เหล็ก
(๕) การเคาะ พ่นสี การซื้อ - ขายของเก่า หรือสิ่งของใช้แล้ว เครื่องจักรกล เครื่องยนต์และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างทุกชนิด
(๖) การกองขยะมูลฝอย ซากอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือการกำจัดขยะมูลฝอยโดยวิธีฝังกลบเผา หรือวิธีอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อต้นยางนา หรือต้นขี้เหล็ก
(๗) การเททิ้งของเหลวหรือสิ่งอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบรากของต้นยางนาหรือต้นขี้เหล็ก
ข้อ ๔ ในพื้นที่บริเวณที่ ๑ ห้ามก่อสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ
ในพื้นที่บริเวณที่ ๒ การก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ต้องมีความสูงไม่เกิน ๑๒ เมตร และการให้สีภายนอกอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต้องเป็นสีที่มีความกลมกลืนกับธรรมชาติหรือสภาพแวดล้อมเดิมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๙๐ ของพื้นที่อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น
การวัดความสูงของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างให้วัดจากระดับพื้นดินที่ก่อสร้างถึงพื้นดาดฟ้าสำหรับอาคารทรงจั่วหรือปั้นหยาให้วัดจากพื้นดินที่ก่อสร้างถึงยอดผนังของชั้นสูงสุด
ข้อ ๕ ภายในบริเวณที่ ๒ ห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารให้เป็นอาคาร ดังต่อไปนี้
(๑) โรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
(๒) อาคารขนาดใหญ่หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
(๓) สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
(๔) ห้องแถว ตึกแถว ที่มีความยาวด้านหน้าอาคารรวมเกินกว่า ๓๖ เมตร
(๕) โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ยกเว้น โรงงานจำพวกที่หนึ่ง แต่ทั้งนี้ที่ตั้งของโรงงานต้องไม่ขัดกับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง
(๖) โรงฆ่าสัตว์ ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์
(๗) สถานที่บรรจุก๊าซ ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง
(๘) คลังวัตถุอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย
(๙) สถานที่หรืออาคารเก็บสินค้า สถานีรับ - ส่ง สินค้าหรือการประกอบกิจการรับส่งสินค้าแต่ไม่รวมถึงการเก็บสินค้าหรือสิ่งของเพื่อรอการจำหน่าย ณ สถานที่นั้น
ข้อ ๖ ในพื้นที่บริเวณที่ ๒ การก่อสร้างอาคาร ห้องแถว หรือตึกแถว ที่มีความยาวด้านหน้าอาคารรวมไม่เกิน ๓๖ เมตร หรือการก่อสร้างหรือดัดแปลงเพื่อทดแทนอาคาร ห้องแถวหรือตึกแถวเดิมที่มีสภาพชำรุด ให้ดำเนินการก่อสร้างหรือดัดแปลงโดยให้มีรูปแบบของสถาปัตยกรรมท้องถิ่นและสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร หรือข้อบัญญัติท้องถิ่น
ข้อ ๗ เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ตามข้อ ๑ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงใหม่หรือจังหวัดลำพูน แล้วแต่กรณี ตามรายชื่อที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอ เพื่อทำหน้าที่กำกับ ดูแล ติดตาม ตรวจสอบการบังคับใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและให้ความเห็นชอบการนำแผนงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปปฏิบัติ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศนี้และภายในเขตจังหวัดของตน
คณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ ผู้แทนส่วนราชการประจำจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอที่พื้นที่ตามข้อ ๑ อยู่ในเขตรับผิดชอบผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่พื้นที่ตามข้อ ๑ อยู่ในเขตรับผิดชอบ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในจังหวัดไม่เกิน ๓ คน ผู้แทนภาคเอกชนที่อยู่ในจังหวัดไม่เกิน ๓ คน ผู้แทนสถาบันการศึกษาที่อยู่ในจังหวัดไม่เกิน ๓ คน ผู้แทนกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในจังหวัดไม่เกิน ๓ คน และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตามข้อ ๑ ไม่เกิน ๓ คน ผู้แทนสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ ๑ เป็นกรรมการ และให้ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ
ข้อ ๘ เพื่อประโยชน์ในการสงวน รักษา อนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟู บูรณะ และจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ตามข้อ ๑ ให้จังหวัดจัดทำแผนฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ตามข้อ ๑ และเมื่อแผนดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตามข้อ ๗ แล้ว ให้นำไปบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัดเพื่อดำเนินการต่อไป
ข้อ ๙ ในกรณีที่มีกฎหมายใดกำหนดมาตรการที่มีผลเป็นการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่ามาตรการที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ก็ให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนดไว้ในกฎหมายนั้น
ข้อ ๑๐ ให้ผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอาคาร หรือการประกอบกิจการใด ๆ ในพื้นที่ตามข้อ ๑ ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ด้วย
ข้อ ๑๑ การกระทำ การประกอบกิจกรรม หรือการประกอบกิจการใดที่ต้องห้ามตามประกาศนี้แต่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายใดไว้แล้วก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ดำเนินการต่อไปได้ตามกฎหมายนั้น
ข้อ ๑๒ อาคารที่มีอยู่แล้วก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องดำเนินการตามประกาศนี้ แต่การดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามประกาศนี้
ข้อ ๑๓ อาคารที่ได้รับใบอนุญาตหรือใบรับแจ้งการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนแปลงการใช้ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ แต่การขอเปลี่ยนแปลงการอนุญาตหรือการแจ้งหรือการดำเนินการอื่นใดหลังจากวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้
คำขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารหรือตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นที่ได้ยื่นไว้แล้วก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ การพิจารณาอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ใช้บังคับอยู่ในวันที่ยื่นคำขออนุญาตนั้น
ข้อ ๑๔[๑] ประกาศนี้ให้ใช้บังคับมีกำหนดระยะเวลาห้าปีนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วัน๐ ที่ ๑มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แผนที่ท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. ๒๕๕๘
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๙ มีนาคม ๒๕๕๘
วันทิตา/ผู้ตรวจ
๒๙ เมษายน ๒๕๕๘
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนพิเศษ ๕๘ ง/หน้า ๑๑/๑๖ มีนาคม ๒๕๕๘