พระราชกฤษฎีกากำหนดป่าควนเร็จ ในท้องที่ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2496

พระราชกฤษฎีกา

กำหนดป่าควนเร็จ ในท้องที่ตำบลนาท่ามใต้

อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ให้เป็นป่าคุ้มครอง

พ.ศ. ๒๔๙๖

------------

                                                          ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

                                           ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๖

                                                    เป็นปีที่ ๘ ในรัชกาลปัจจุบัน

                        พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ

โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า

                        โดยที่เป็นการสมควรกำหนดป่าควนเร็จ ในท้องที่ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมือง

ตรัง จังหวัดตรัง ให้เป็นป่าคุ้มครอง

                        อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

พุทธศักราช ๒๔๗๕ แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๔๙๕ และมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติ

คุ้มครองและสงวนป่า พุทธศักราช ๒๔๘๑ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกา

ขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

                        มาตรา ๑  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกากำหนดป่าควนเร็จ

ในท้องที่ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ. ๒๔๙๖

                        มาตรา ๒  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วัน

ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

                        มาตรา ๓  ให้ป่าควนเร็จ ในท้องที่ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง

ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นป่าคุ้มครอง

                        มาตรา ๔  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

   จอมพล ป. พิบูลสงคราม

        นายกรัฐมนตรี

+------------------------------------------------------------------------------------------------+

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากที่ดินแห่งนี้เป็นป่าที่

มีไม้มีค่าเป็นปริมาณมาก เช่น ไม้ยาง ไม้ตะเคียน ไม้หลุมพอ มีสภาพเหมาะสมที่ควรสงวนไว้เพื่อ

ให้ราษฎรได้มีไม้ใช้ตลอดไป อันจะให้ประโยชน์มากยิ่งกว่าที่จะแผ้วถางลงทำเป็นที่เพาะปลูก หรือ

เพื่อกิจการอย่างอื่นต่อหน่วยเนื้อที่ และการใช้ประโยชน์จากป่าของราษฎรส่วนมากมิได้เป็นไป

ตามหลักเศรษฐกิจ เช่น เข้าก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่าที่อุดมไปด้วยพันธ์ไม้มีค่า โดยไม่คำนึงถึง

ผลได้เสียที่จะบังเกิดแก่ส่วนรวม เป็นเหตุให้ป่าที่ดีมีค่าถูกทำลายทรุดโทรมเสียหายเกินควร จึง

สมควรที่จะจัดการคุ้มครองที่ป่าแห่งนี้ไว้เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน

[รก.๒๔๙๖/๖๖/๑๓๐๗/๒๐ ตุลาคม ๒๔๙๖]

                                                                                                            ชไมพร/พิมพ์

                                                                                                            ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๔