พระราชกฤษฎีกากำหนดป่าดงซำทอง-ดงหนองไผ่-ดงผาสามยอด-ดงซำบอน-ดงนอก-ดงห้วยป่านในท้องที่ ตำบลหนองหญ้าปล้อง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ให้ เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2497
พระราชกฤษฎีกา
กำหนดป่าดงซำทอง - ดงหนองไผ่ - ดงผาสามยอด -
ดงซำบอน - ดงนอก - ดงห้วยป่าน ในท้องที่
ตำบลหนองหญ้าปล้อง อำเภอวังสพุง
จังหวัดเลย ให้เป็นป่าคุ้มครอง
พ.ศ. ๒๔๙๗
------------
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๗
เป็นปีที่ ๙ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ
โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดป่าดงซำทอง - ดงหนองไผ่ - ดงผาสามยอด -
ดงซำบอน - ดงนอก - ดงห้วยป่าน ในท้องที่ตำบลหนองหญ้าปล้อง อำเภอวังสพุง จังหวัดเลย
ให้เป็นป่าคุ้มครอง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๔๗๕ แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๔๙๕ และมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วย
การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๔๙๗ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกา
ขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกากำหนดป่าดงซำทอง -
ดงหนองไผ่ - ดงผาสามยอด - ดงซำบอน - ดงนอก - ดงห้วยป่าน ในท้องที่ตำบลหนองหญ้า
ปล้อง อำเภอวังสพุง จังหวัดเลย ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ. ๒๔๙๗"
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วัน
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ป่าดงซำทอง - ดงหนองไผ่ - ดงผาสามยอด - ดงซำบอน -
ดงนอก - ดงห้วยป่าน ในท้องที่ตำบลหนองหญ้าปล้อง อำเภอวังสพุง จังหวัดเลย ภายในแนวเขต
ตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นป่าคุ้มครอง
มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
จอมพล ป. พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรี
+----------------------------------------------------------------------------------------------------+
หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากที่ดินแห่งนี้เป็นป่าที่
มีไม้ชนิดดีที่มีค่าเป็นปริมาณมาก เช่น ไม้ประดู่ แดง ตะแบก มีเนื้อที่ประมาณ ๖๕๐.๐๐ ตาราง
กิโลเมตร มีสภาพเหมาะสมที่สมควรจะคุ้มครองไว้เพื่อให้ราษฎรได้มีไม้ใช้ตลอดไป อันจะเป็น
ประโยชน์มากยิ่งกว่าที่จะแผ้วถางลงเป็นที่เพาะปลูกหรือเพื่อกิจการอย่างอื่นต่อหน่วยเนื้อที่ และ
เพื่อให้การใช้ประโยชน์จากป่าได้เป็นไปตามหลักเศรษฐกิจ รวมทั้งเพื่อประโยชน์ในการบำรุงรักษา
ป่า เพื่อให้ป่านี้อยู่ในฐานะที่จะอำนวยประโยชน์ให้แก่ประชาชนได้ยั่งยืนถาวรตลอดไป จึงสมควร
ที่จะจัดการคุ้มครองป่าแห่งนี้ไว้เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน
[รก.๒๔๙๗/๖๖/๑๕๓๑/๑๙ ตุลาคม ๒๔๙๗]
ชไมพร/พิมพ์
๑๙ ตุลาคม ๒๕๔๔