พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองนะ ตำบลทุ่งข้าวพวง ตำบลเมืองงาย ตำบลปิงโค้ง ตำบลเชียงดาว ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง ตำบลอินทขิล ตำบลบ้านเป้า ตำบลกื้ดช้าง ตำบลบ้านช้าง ตำบลแม่แตง ตำบลช่อแล ตำบลแม่หอพระ ตำบลสันมหาพน ตำบลขี้เหล็ก ตำบลสบเปิง ตำบลสันป่ายาง อำเภอแม่แตง และตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2553
พระราชกฤษฎีกา
กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองนะ
ตำบลทุ่งข้าวพวง ตำบลเมืองงาย ตำบลปิงโค้ง ตำบลเชียงดาว
ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง ตำบลอินทขิล
ตำบลบ้านเป้า ตำบลกื้ดช้าง ตำบลบ้านช้าง ตำบลแม่แตง ตำบลช่อแล ตำบลแม่หอพระ
ตำบลสันมหาพน ตำบลขี้เหล็ก ตำบลสบเปิง ตำบลสันป่ายาง อำเภอแม่แตง
และตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
พ.ศ. ๒๕๕๓
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓
เป็นปีที่ ๖๕ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเชียงดาวและอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองนะ ตำบลทุ่งข้าวพวง ตำบลเมืองงาย ตำบลปิงโค้ง ตำบลเชียงดาว ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง ตำบลอินทขิล ตำบลบ้านเป้า ตำบลกื้ดช้าง ตำบลบ้านช้าง ตำบลแม่แตง ตำบลช่อแล ตำบลแม่หอพระ ตำบลสันมหาพน ตำบลขี้เหล็ก ตำบลสบเปิง ตำบลสันป่ายาง อำเภอแม่แตงและตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๓”
มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเชียงดาวและอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐
มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเมืองนะ ตำบลทุ่งข้าวพวง ตำบลเมืองงาย ตำบลปิงโค้ง ตำบลเชียงดาว ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง ตำบลอินทขิล ตำบลบ้านเป้า ตำบลกื้ดช้าง ตำบลบ้านช้าง ตำบลแม่แตง ตำบลช่อแล ตำบลแม่หอพระ ตำบลสันมหาพน ตำบลขี้เหล็ก ตำบลสบเปิง ตำบลสันป่ายาง อำเภอแม่แตง และตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองนะ ตำบลทุ่งข้าวพวง ตำบลเมืองงาย ตำบลปิงโค้ง ตำบลเชียงดาว ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง ตำบลอินทขิล ตำบลบ้านเป้า ตำบลกื้ดช้าง ตำบลบ้านช้าง ตำบลแม่แตง ตำบลช่อแล ตำบลแม่หอพระ ตำบลสันมหาพน ตำบลขี้เหล็ก ตำบลสบเปิง ตำบลสันป่ายาง อำเภอแม่แตงและตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๓
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเชียงดาว และอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอเชียงดาว และอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๘ มีนาคม ๒๕๕๓
นันท์นภัสร์/ตรวจ
๘ มีนาคม ๒๕๕๓
- [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๗/ตอนที่ ๑๖ ก/หน้า ๑๐/๕ มีนาคม ๒๕๕๓