พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอบึงกาฬ อำเภอศรีวิไล อำเภอบุ่งคล้า อำเภอพรเจริญ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบึงโขงหลง และอำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552

พระราชกฤษฎีกา

กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอบึงกาฬ อำเภอศรีวิไล อำเภอบุ่งคล้า อำเภอพรเจริญ

อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบึงโขงหลง และอำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย

ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

พ.ศ. ๒๕๕๒

                       

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน

 

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

 

               โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอบึงกาฬ กิ่งอำเภอศรีวิไล อำเภอบึงกาฬ กิ่งอำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงกาฬ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา และกิ่งอำเภอบึงโขงหลง อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๕

 

               อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

 

                มาตรา ๑  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอบึงกาฬ อำเภอศรีวิไล อำเภอบุ่งคล้า อำเภอพรเจริญ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบึงโขงหลง และอำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒”

 

มาตรา ๒[๑]  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

                   มาตรา ๓  ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอบึงกาฬ กิ่งอำเภอศรีวิไล อำเภอบึงกาฬ กิ่งอำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงกาฬ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา และกิ่งอำเภอบึงโขงหลง อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๕

 

                  มาตรา ๔  ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลโคกก่อง ตำบลชัยพร ตำบลโนนสมบูรณ์ ตำบลคำนาดี ตำบลนาสวรรค์ อำเภอบึงกาฬ ตำบลศรีวิไล ตำบลชุมภูพร ตำบลนาสะแบง ตำบลนาสิงห์ ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า ตำบลหนองหัวช้าง ตำบลศรีสำราญ ตำบลป่าแฝก ตำบลดอนหญ้านาง ตำบลศรีชมภู ตำบลพรเจริญ ตำบลวังชมภู อำเภอพรเจริญ ตำบลคำแก้ว ตำบลหนองพันทา ตำบลบัวตูม อำเภอโซ่พิสัย ตำบลท่าดอกคำ ตำบลดงบัง ตำบลบึงโขงหลง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง และตำบลป่งไฮ ตำบลบ้านต้อง ตำบลท่าสะอาด ตำบลท่ากกแดง ตำบลซาง อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

 

มาตรา ๕  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

 

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ

นายกรัฐมนตรี

[เอกสารแนบท้าย]

                 ๑.  แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอบึงกาฬ อำเภอศรีวิไล อำเภอบุ่งคล้า อำเภอพรเจริญ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบึงโขงหลง และอำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒

 

(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ บัญญัติว่าการกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักก็ได้ ซึ่งต่อมาได้มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอบึงกาฬ กิ่งอำเภอศรีวิไล อำเภอบึงกาฬ กิ่งอำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงกาฬ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา และกิ่งอำเภอบึงโขงหลง อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๕ ใช้บังคับเพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอบึงกาฬ กิ่งอำเภอศรีวิไล อำเภอบึงกาฬ กิ่งอำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงกาฬ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา และกิ่งอำเภอบึงโขงหลง อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ทำให้เขตปฏิรูปที่ดินครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น  จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

 

 

ปริยานุช/ผู้จัดทำ

๒๕ กันยายน ๒๕๕๒

 

 

  • [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๖๘ ก/หน้า ๑๓/๑๑ กันยายน ๒๕๕๒