พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552

พระราชกฤษฎีกา

กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล

และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

พ.ศ. ๒๕๕๒

                       

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒

เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน

 

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

                อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒”

มาตรา ๒[๑]  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓  ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

มาตรา ๔  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

 

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ

นายกรัฐมนตรี

[เอกสารแนบท้าย]

๑.  แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒

 

(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยช้าง และป่าปู่เจ้า ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน  จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

 

 

ปริยานุช/ผู้จัดทำ

๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒

[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๖๑/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒