พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2549

พระราชกฤษฎีกา

เปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน

ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้

ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

พ.ศ. ๒๕๔๙

                       

 

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙

เป็นปีที่ ๖๑ ในรัชกาลปัจจุบัน

     พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

             โดยที่เป็นการสมควรเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

              อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓๖ ทวิวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๙ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๘ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

              มาตรา ๑  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๙”

  มาตรา ๒[๑]  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

                   มาตรา ๓  ให้เปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันซึ่งพลเมืองยังใช้ประโยชน์อยู่ ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ ๘ ไร่ ๑ งาน ๓ ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมีแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังนี้

ทิศเหนือ                   จดโฉนดที่ดินเลขที่ ๘๕๒๗, ๗๔๘, ๗๔๕ และ ๗๔๗

ทิศตะวันออก             จดห้วยสาธารณประโยชน์

ทิศใต้                      จดโฉนดที่ดินเลขที่ ๘๕๑๖, ๘๕๑๗ และ ๘๕๑๘

ทิศตะวันตก               จดห้วยสาธารณประโยชน์

              ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามวรรคหนึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศจัดที่ดินแปลงอื่นให้พลเมืองใช้ร่วมกันแทนแล้ว

มาตรา ๔  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พันตำรวจโท ทักษิณ  ชินวัตร

นายกรัฐมนตรี

[เอกสารแนบท้าย]

              ๑.  แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในเขตอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๙

(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในเขตอุตสาหกรรมทั่วไปนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีพื้นที่ครอบคลุมสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันซึ่งเป็นห้วยสาธารณประโยชน์ เนื้อที่ประมาณ ๘ ไร่ ๑ งาน ๓ ตารางวา ปัจจุบันพลเมืองยังใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นอยู่ และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประสงค์จะได้กรรมสิทธิ์เพื่อนำไปพัฒนาให้เป็นส่วนหนึ่งของเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ทั้งนี้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้จัดที่ดินแปลงอื่น เนื้อที่ประมาณ ๘ ไร่ ๑ งาน ๔ ตารางวา ซึ่งอยู่ในท้องที่เดียวกันขุดเป็นห้วยสาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแทนสมควรเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันดังกล่าว เพื่อให้มีผลเป็นการถอนสภาพที่ดินนั้นจากการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินและให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและโดยที่มาตรา ๓๖ ทวิ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๙ บัญญัติว่า ในกรณีที่มีประกาศตามมาตรา ๓๖ วรรคสอง จัดตั้งหรือเปลี่ยนแปลงเขตอุตสาหกรรมทั่วไปให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้โดยระบุแปลงและจำนวนเนื้อที่ดินโดยประมาณที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประสงค์จะได้กรรมสิทธิ์ไว้ในพระราชกฤษฎีกา จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

ชัชสรัญ/ผู้จัดทำ

๒๙ มีนาคม ๒๕๔๙

[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๓/ตอนที่ ๓๑ ก/หน้า ๔/๒๗ มีนาคม ๒๕๔๙