พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยองให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2548
พระราชกฤษฎีกา
เปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย
ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๔๘
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘
เป็นปีที่ ๖๐ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓๖ ทวิ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๙ อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๘ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๘”
มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้เปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันซึ่งพลเมืองยังใช้ประโยชน์อยู่ ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ ๓ ไร่ ๒ งาน ๘๑ ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมีแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังนี้
ทิศเหนือ จดโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๓๒
ทิศตะวันออก จดโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๓๖
ทิศใต้ จดทางสาธารณประโยชน์
ทิศตะวันตก จดคลองสาธารณประโยชน์
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามวรรคหนึ่ง กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศจัดที่ดินแปลงอื่นให้พลเมืองใช้ร่วมกันแทนแล้ว
มาตรา ๔ ให้เปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันซึ่งพลเมืองยังใช้ประโยชน์อยู่ ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ ๔ ไร่ ๑๕ ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมีแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา ดังนี้
ทิศเหนือ จดโฉนดที่ดินเลขที่ ๕๖ และ ๒๕๙
ทิศตะวันออก จดโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๒๗
ทิศใต้ จดโฉนดที่ดินเลขที่ ๕๐,๑๖๖,๑๖๗,๑๖๘ และ ๒๕๖
ทิศตะวันตก จดโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๙๑
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามวรรคหนึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศจัดที่ดินแปลงอื่นให้พลเมืองใช้ร่วมกันแทนแล้ว
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา เปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๘
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง มีพื้นที่ครอบคลุมสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งเป็นทางสาธารณประโยชน์และลำรางสาธารณประโยชน์ เนื้อที่รวมประมาณ ๗ ไร่ ๒ งาน ๙๖ ตารางวา ปัจจุบันพลเมืองยังใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นอยู่และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประสงค์จะได้กรรมสิทธิ์เพื่อนำไปพัฒนาให้เป็นส่วนหนึ่งของเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ทั้งนี้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้จัดที่ดินแปลงอื่นเนื้อที่รวมประมาณ ๖ ไร่ ๒ งาน ๙๒ ตารางวา ซึ่งอยู่ในท้องที่เดียวกันก่อสร้างเป็นถนนสาธารณประโยชน์และลำรางสาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแทน สมควรเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันดังกล่าว เพื่อให้มีผลเป็นการถอนสภาพที่ดินนั้นจากการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด และโดยที่มาตรา ๓๖ ทวิ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๙ บัญญัติว่า ในกรณีที่มีประกาศตามมาตรา ๓๖ วรรคสองจัดตั้งหรือเปลี่ยนแปลงเขตอุตสาหกรรมทั่วไป ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้ โดยระบุแปลงและจำนวนเนื้อที่ดินโดยประมาณที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประสงค์จะได้กรรมสิทธิ์ไว้ในพระราชกฤษฎีกา จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
สุนันทา/ผู้จัดทำ
๑๙ กรกฎาคม ๒๕๔๘
[๑] รก.๒๕๔๘/๔๑ก/๑/๒๕ พฤษภาคม ๒๕๔๘