พระราชกฤษฎีกา กำหนดป่ายางเกาะปริง ในท้องที่ตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2495
พระราชกฤษฎีกา
กำหนดป่ายางเกาะปริง ในท้องที่ตำบลหนองตรุด
อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ให้เป็นป่าคุ้มครอง
พ.ศ. ๒๔๙๕
------------
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๕
เป็นปีที่ ๗ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ
โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดป่ายางเกาะปริง ในท้องที่ตำบลหนองตรุด อำเภอ
เมืองตรัง จังหวัดตรัง ให้เป็นป่าคุ้มครอง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๔๗๕ แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๔๙๕ และมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติ
คุ้มครองและสงวนป่า พุทธศักราช ๒๔๘๑ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกา
ขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกากำหนดป่ายางเกาะปริง
ในท้องที่ตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ. ๒๔๙๕"
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวัน นับแต่วัน
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ป่ายางเกาะปริง ในท้องที่ตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรัง จังหวัด
ตรัง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นป่าคุ้มครอง
มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการรักษาการตามพระราช
กฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
จอมพล ป. พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรี
+--------------------------------------------------------------------------------------------------+
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากที่ดินแห่งนี้เป็นป่า
ที่มีไม้มีค่าเป็นปริมาณมาก เช่น ไม้ยาง ไม้ก่อ และไม้หว้า มีเนื้อที่ประมาณ ๐.๐๑๙ ตาราง
กิโลเมตร มีสภาพเหมาะสมที่ควรสงวนไว้เพื่อให้ราษฎรได้มีไม้ใช้ตลอดไป อันจะให้ประโยชน์มาก
ยิ่งกว่าที่แผ้วถางลงทำเป็นที่เพาะปลูก หรือเพื่อกิจการอย่างอื่นต่อหน่วยเนื้อที่ และการใช้
ประโยชน์จากป่าของราษฎรส่วนมากมิได้เป็นไปตามหลักเศรษฐกิจ เช่น เข้ากันสร้างแผ้วถาง
เผาป่าที่อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้มีค่า โดยไม่คำนึงถึงผลได้เสียที่จะบังเกิดแก่ส่วนรวม เป็นเหตุให้ป่า
ที่มีค่าถูกทำลายทรุดโทรมเสียหายเกินควร จึงสมควรที่จะจัดการคุ้มครองที่ป่าแห่งนี้ไว้ เพื่อ
ประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน
[รก.๒๔๙๖/๓๓/๖๔๗/๒๖ พฤษภาคม ๒๔๙๖]
ชไมพร/พิมพ์
๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๔