ระเบียบกรมป่าไม้ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ พ.ศ. ๒๕๔๕
ระเบียบกรมป่าไม้
ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่
พ.ศ. ๒๕๔๕
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วย การนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ พ.ศ. ๒๕๓๒ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับ กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๕ กรมป่าไม้จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วย การนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ พ.ศ. ๒๕๔๕”
ข้อ ๒[๑] ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๖ เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิก
๓.๑ ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ พ.ศ. ๒๕๓๒
๓.๒ ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๗
๓.๓ ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๕
๓.๔ ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕
บรรดา ระเบียบ ข้อบังคับและคำสั่งอื่นใดในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้หรือซึ่งขัดแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
๔.๑ ด่านป่าไม้ประเภท ๑ หมายความว่า ด่านป่าไม้ที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ และกรมป่าไม้กำหนดให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง
๔.๒ ด่านป่าไม้ประเภท ๒ หมายความว่า ด่านป่าไม้ที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ และมิได้กำหนดไว้ให้เป็นด่านป่าไม้ประเภท ๑
ข้อ ๕ ให้อธิบดีกรมป่าไม้ รักษาการตามระเบียบนี้ และมีอำนาจตีความวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ คำวินิจฉัยของอธิบดีกรมป่าไม้ให้เป็นที่สุด
หมวดที่ ๑
การออกใบเบิกทาง
ข้อ ๖ เมื่อได้รับคำขอใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำขอ และเอกสารประกอบคำขอให้ถูกต้องครบถ้วน แล้วลงทะเบียนตามลำดับก่อนหลัง ในทะเบียนรับคำขอใบเบิกทางท้ายระเบียบนี้
ข้อ ๗ หลักฐานที่ใช้ประกอบคำขอรับใบเบิกทาง เพื่อแสดงว่าเป็นไม้หรือของป่า ที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ให้เป็นไปตามกฎกระทรวง ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่
สำหรับไม้หรือของป่าที่ซื้อจากกรมศุลกากร หรือซื้อจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลหรือเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ในคดีล้มละลาย ให้ถือเอาใบเสร็จรับเงินและรายการไม้หรือของป่า เป็นเอกสารหลักฐานแสดงการได้มาตามกฎกระทรวง ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่
ข้อ ๘ การออกใบเบิกทาง พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบไม้หรือของป่าตามคำขอทุกราย โดยให้ปฏิบัติเป็นขั้นตอนตามลำดับ ดังนี้
๘.๑ ตรวจสอบหลักฐานที่นำมาแสดงว่า เป็นเอกสารหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
๘.๒ ตรวจสอบไม้หรือของป่า ว่ามี ชนิด จำนวน ขนาด ปริมาตร รูปรอยตรา เลขเรียงหรือเครื่องหมาย ครบถ้วนตรงตามหลักฐานที่นำมาอ้างอิงหรือไม่
๘.๓ เมื่อตรวจสอบไม้ตามข้อ ๘.๒ ถูกต้องแล้ว ให้ประทับตราประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่รับรองการตรวจสอบไม้ นั้น ทุกท่อน ทุกชิ้น หากไม่สามารถประทับตราได้เพราะเหตุใด ก็ให้พนักงานเจ้าหน้าที่หมายเหตุไว้ในใบเบิกทาง และบัญชีรายการไม้ด้วย
ข้อ ๙ การเขียนและลงนามในใบเบิกทาง
๙.๑ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้เขียนใบเบิกทาง การเขียนใบเบิกทางให้เขียนครั้งเดียวโดยใช้กระดาษคาร์บอนรองซ้อนเป็นคู่ฉบับ ให้อ่านได้ชัดเจน
ในกรณีจำเป็นที่พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเขียนใบเบิกทางได้ให้ข้าราชการหรือลูกจ้าง ในสังกัดกรมป่าไม้ที่ปฏิบัติงานอยู่ ณ ที่ทำการหรือด่านป่าไม้แห่งนั้น เป็นผู้เขียนแทนได้ แต่ให้อยู่ในความรับผิดชอบของ หัวหน้าที่ทำการหรือด่านป่าไม้แห่งนั้น
๙.๒ ผู้มีอำนาจลงนามอนุญาตในใบเบิกทาง ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ ผู้อำนวยการกองการอนุญาต กรมป่าไม้ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย แล้วแต่กรณี
๙.๓ ให้ป่าไม้จังหวัดหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ตรวจสอบความถูกต้อง ต้นขั้วใบเบิกทางอย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง พร้อมทั้งลงลายมือชื่อกำกับการตรวจสอบในต้นขั้วใบเบิกทางไว้เป็นหลักฐานด้วย
๙.๔ กรณีเขียนหรือกรอกข้อความในใบเบิกทางผิดพลาด ซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขให้ทำการขีดฆ่าและประทับตราแล้วเขียนใหม่ และให้ผู้อนุญาตลงลายมือชื่อกำกับไว้ทุกแห่ง แล้วหมายเหตุในใบเบิกทางว่าได้ขีดฆ่ากี่แห่งด้วย
๙.๕ วันสิ้นอายุใบเบิกทาง ให้เขียนตัวอักษรกำกับตัวเลขไว้ด้วย
๙.๖ ให้ผู้เขียนใบเบิกทางลงลายมือชื่อที่มุมใบเบิกทางด้านหน้าล่างซ้ายและให้เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบลงลายมือชื่อกำกับบัญชีรายการไม้หรือของป่า แนบท้ายใบเบิกทางทุกแผ่น
การลงลายมือดังกล่าว ให้วงเล็บชื่อ ชื่อสกุลและตำแหน่งไว้ด้วย
๙.๗ การเขียนบัญชีรายการไม้ ในใบเบิกทางหรือหนังสือกำกับไม้แปรรูปหรือ ก.ป.ม.๑๐๔ แล้วแต่กรณี ต้องระบุ ชนิด จำนวน ปริมาตรและรูปรอยตราให้ครบถ้วนทุกรายการ สำหรับเศษไม้จากโรงงานแปรรูปไม้ ไม้ฟืนหรือถ่านให้ระบุชนิดเท่าที่ระบุได้ ส่วนช่องรวมจำนวนปริมาตรไม้หรือของป่า ให้เขียนตัวอักษรกำกับตัวเลขไว้ด้วย
๙.๘ ผู้เขียนใบเบิกทางกับผู้อนุญาต ต้องไม่ใช่บุคคลคนเดียวกันเว้นแต่มีเหตุจำเป็นซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และให้รายงานเหตุผลความจำเป็นต่อผู้บังคับบัญชา ในโอกาสแรกที่กระทำได้
ข้อ ๑๐ การใช้ตรายาง ประทับกำกับลายมือชื่อผู้อนุญาตและประทับตราหลังใบเบิกทางให้ใช้ตามตัวอย่างท้ายระเบียบนี้
ข้อ ๑๑ การออกใบเบิกทาง ให้ระบุผ่านด่านป่าไม้ประเภท ๑ ตามเส้นทางทุกด่าน ตามแบบท้ายระเบียบนี้
ข้อ ๑๒ ใบเบิกทางแต่ละฉบับ ให้ใช้สำหรับพาหนะลำเดียวหรือคันเดียวหรือรถพ่วงหรือเรือพ่วง โดยระบุหมายเลขทะเบียนไว้ให้ถูกต้องด้วย และให้นำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่เพียงคราวเดียวเท่านั้น เว้นแต่ กรมป่าไม้จะได้สั่งการเป็นอย่างอื่น
ข้อ ๑๓ การกำหนดอายุใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยทางรถยนต์สำหรับไม้แปรรูปและของป่าให้ถือระยะทางประมาณ ๓๐๐ กิโลเมตร ต่อ ๒๔ ชั่วโมงเศษของ ๓๐๐ กิโลเมตร ให้คิดเพิ่มอีก ๒๔ ชั่วโมง ส่วนไม้ท่อนให้พิจารณาถึงระยะทางใกล้ไกลและวิธีการขนส่ง หากนำเคลื่อนที่ทางเรือหรือล่องแพให้กำหนดอายุตามความเหมาะสม โดยให้ระบุเวลาเริ่มต้นกับเวลาสิ้นอายุไว้ด้วย
ข้อ ๑๔ การออกใบเบิกทาง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สลักหลังหลักฐานเดิมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ว่าด้วย การนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ การสลักหลังต้องสลักในเอกสารต้นฉบับ ถ้าไม่มีต้นฉบับด้วยเหตุใด ให้ใช้ใบแทนเป็นหลักฐานในการออกใบเบิกทาง หากไม่มีใบแทนให้บันทึกเหตุผลเสนอกรมป่าไม้สั่งการ
เอกสารที่นำมาอ้างออกใบเบิกทาง หากไม่อาจเก็บต้นฉบับไว้ได้ให้สำเนาเอกสารไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ ๑๕ การออกใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ไปนอกราชอาณาจักรให้ระบุจุดหมายปลายทางถึงด่านศุลกากรด่านสุดท้าย
ข้อ ๑๖ การตรวจสอบไม้หรือของป่าผ่านด่าน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ดังนี้
๑๖.๑ เมื่อได้ตรวจสอบคำขอและหลักฐานที่นำมาแสดงว่าถูกต้องและลงทะเบียนรับคำขอ ตามแบบทะเบียนรับคำขอแจ้งการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่เข้าเขตด่านป่าไม้ท้ายระเบียบนี้แล้วให้ตรวจสอบไม้หรือของป่านั้น โดยวิธีสุ่มตรวจแต่ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของจำนวนไม้หรือของป่าว่าตรงตามหลักฐานที่นำมาแสดงหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูกต้องให้ประทับตราประจำตัวและตราผ่านเท่าที่สามารถประทับได้ แล้วรายงานให้ผู้อนุญาตสั่งการ
๑๖.๒ กรณีตรวจพบว่า เจ้าหน้าที่ต้นทางได้เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมหรือค่าภาคหลวงไม่ครบ ให้เรียกเก็บให้ครบและออกใบเสร็จรับเงินตามระเบียบแล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ต้นทางทราบเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง หากมีเหตุสงสัยให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
หมวดที่ ๒
การออกใบเบิกทางกรณีพิเศษ
ข้อ ๑๗ การออกใบเบิกทางไม้หรือของป่าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร
๑๗.๑ การออกใบเบิกทางครั้งแรกจากด่านศุลกากรหรือด่านตรวจศุลกากรที่นำเข้าให้ใช้หลักฐานต่อไปนี้ประกอบคำขอ
๑๗.๑.๑ ใบเสร็จรับเงินอากรขาเข้าของกรมศุลกากร หรือหนังสือค้ำประกันของกระทรวงการคลัง หรือธนาคาร หรือใบขนคลังสินค้าทัณฑ์บนหรือใบขนสินค้าผ่านแดน แล้วแต่กรณีและ
๑๗.๑.๒ ใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าหรือเอกสารที่แสดงว่าเป็นไม้หรือของป่าจากต่างประเทศ หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ให้สำเนาหลักฐานดังกล่าวแนบไปกับใบเบิกทางอีกชุดหนึ่งด้วย
๑๗.๒ ชื่อไม้หรือของป่า ให้ระบุชื่อทับศัพท์ตามหลักฐานที่นำมาแสดง และให้หมายเหตุในใบเบิกทางว่า เป็นไม้หรือของป่าที่นำมาจากต่างประเทศ
ไม้หรือของป่าชนิดใด เรียกชื่อตรงกับไม้หรือของป่าในประเทศไทย ให้ระบุชื่อประเทศกำเนิดต่อท้ายชนิดไม้หรือของป่าด้วย เช่น สักพม่า ยางลาว ฯลฯ
๑๗.๓ การออกใบเบิกทาง ตามข้อ ๑๗.๑ ในส่วนภูมิภาคให้เป็นอำนาจหน้าที่ของจังหวัดท้องที่
การตรวจสอบ ให้ดำเนินการตามข้อ ๘ โดยอนุโลม
๑๗.๔ การออกใบเบิกทาง ตามข้อ ๑๗.๑ ในเขตกรุงเทพมหานครให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกองการอนุญาต กรมป่าไม้
การตรวจสอบ ให้ดำเนินการตามข้อ ๘ โดยอนุโลมหากไม่อาจดำเนินการได้ ให้ปฏิบัติ ดังนี้
๑๗.๔.๑ ตรวจสอบหลักฐานที่นำมาแสดงว่า เป็นเอกสารหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
๑๗.๔.๒ ตรวจสอบไม้หรือของป่า ว่ามี ชนิด จำนวนเครื่องหมายตรงตามหลักฐานที่นำมาแสดงหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูกต้องให้ออกใบเบิกทางนำเคลื่อนที่ โดยไม่ต้องประทับตราประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่
๑๗.๔.๓ การออกใบเบิกทางให้ระบุ ชนิด จำนวน ปริมาตร และเครื่องหมายตามหลักฐานเอกสารบัญชีรายการไม้หรือของป่าจากต่างประเทศที่ผ่านพิธีการศุลกากรแล้ว โดยใช้หลักฐานเอกสารดังกล่าวเป็นบัญชีรายการไม้หรือของป่าแนบท้ายใบเบิกทาง และให้เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบลงลายมือชื่อกำกับบัญชีรายการไม้หรือของป่าทุกแผ่น
๑๗.๔.๔ อนุญาตให้นำเคลื่อนที่ไปได้ถึงท่าเรือ หรือที่รวมไม้หรือของป่า ในเขตกรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
๑๗.๔.๕ เมื่อไม้หรือของป่านำเคลื่อนที่ถึงปลายทาง ตามข้อ ๑๗.๔.๔ แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แห่งจังหวัดท้องที่ทำการตรวจวัดและคำนวณปริมาตรไม้หรือของป่า ตามระเบียบที่กรมป่าไม้กำหนด แล้วออกใบเบิกทางใหม่ให้นำเคลื่อนที่ต่อไป
ข้อ ๑๘ การนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยทางรถไฟ ให้กำหนดอายุใบเบิกทางตามความเหมาะสมหากใบเบิกทางสิ้นอายุก่อนเคลื่อนย้ายจากสถานีต้นทาง จะต้องขอต่ออายุใบเบิกทางเสียก่อน ถ้าสิ้นอายุระหว่างทางให้นำเคลื่อนที่ต่อไปจนถึงสถานีปลายทางได้ เมื่อจะบรรทุกรถยนต์นำเคลื่อนที่ต่อไปต้องขอใบเบิกทางตามระเบียบนี้
ข้อ ๑๙ การออกใบเบิกทางกำกับไม้ท่อนเป็นรายหมอน จากหมอนไม้ตามใบอนุญาตหรือสัมปทาน หรือหมอนไม้ของกลางที่ซื้อจากทางราชการป่าไม้ ไปยังที่สำนักงานป่าไม้หรือด่านป่าไม้แห่งแรกให้จัดบัญชีแสดงรายการไม้แนบท้ายใบเบิกทางและระบุหมายเลขทะเบียนยานพาหนะ ชื่อผู้ควบคุมยานพาหนะที่ใช้ในการบรรทุกไม้ทุกคันหรือทุกลำ ไว้ให้ครบถ้วนด้วย
การกำหนดอายุใบเบิกทาง ให้พิจารณากำหนดได้ตามความจำเป็น
ข้อ ๒๐ การนำไม้จากอู่เก็บไม้ในลำน้ำ หรือการนำไม้จากที่รวมหมอนไม้ตามที่ได้รับอนุญาตไปยังโรงงานแปรรูปไม้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบเบิกทางเป็นรายแพหรือรายหมอน โดยระบุชื่อและทะเบียนยานพาหนะ ตลอดทั้งผู้ควบคุมให้ชัดเจน
การกำหนดอายุใบเบิกทาง ให้พิจารณากำหนดได้ตามความจำเป็น
ข้อ ๒๑ กรณีนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยรถคันเดียวหรือเรือลำเดียว แต่มีปลายทางหลายทางให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบเบิกทางกำกับไม้หรือของป่า ไปยังปลายทางแต่ละแห่งห้ามออกใบเบิกทางรวมฉบับเดียวกัน
หมวดที่ ๓
การออกใบเบิกทางใหม่
ข้อ ๒๒ การขอรับใบเบิกทางใหม่แทนใบเบิกทางเดิม กระทำได้ในกรณีดังนี้
๒๒.๑ ใบเบิกทางสิ้นอายุก่อนถึงจุดหมายปลายทาง และประสงค์จะนำเคลื่อนที่ต่อไป
๒๒.๒ นำไม้หรือของป่าถึงปลายทางแล้ว ประสงค์จะนำเคลื่อนที่ต่อไปยังที่อื่นๆ
๒๒.๓ มีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนยานพาหนะ หรือเปลี่ยนเส้นทางหรือเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง หรือเปลี่ยนผู้ควบคุม
๒๒.๔ เหตุจำเป็นอย่างอื่นๆ เช่น แบ่งไม้หรือของป่าเพื่อนำเคลื่อนที่
การออกใบเบิกทางใหม่ ให้ปฏิบัติตามหมวดที่ ๑ และให้บันทึกเหตุผลความจำเป็นที่ต้องขอใบเบิกทางใหม่ไว้เป็นหลักฐานด้วย
หมวดที่ ๔
การออกใบแทนใบเบิกทาง
ข้อ ๒๓ เมื่อใบเบิกทางสูญหาย เสียหาย หรือชำรุดด้วยประการใดๆ และไม้หรือของป่าตามใบเบิกทางนั้นยังมีอยู่ หากต้องการใบแทนใบเบิกทาง ให้ยื่นคำขอตามแบบท้ายระเบียบนี้ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ออกใบเบิกทางให้ พร้อมหลักฐานการแจ้งความเรื่องใบเบิกทางสูญหาย และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับคำขอปฏิบัติดังนี้
๒๓.๑ ให้สอบปากคำผู้ขอว่า ใบเบิกทางเดิมสูญหาย เสียหาย หรือชำรุดด้วยเหตุใด เมื่อวัน เดือน ปีใด เป็นใบเบิกทางฉบับที่ เล่มที่ ลงวันที่ เดือน ปีใด อนุญาตให้ผู้ใดกำกับไม้หรือของป่าจำนวนและปริมาตรเท่าใด เคลื่อนที่จากที่ใดไปยังที่ใด ขณะนี้ไม้หรือของป่าขอรับใบแทนอยู่ในท้องที่ใดและมีเหลือจำนวนเท่าใด
๒๓.๒ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกับต้นขั้วใบเบิกทางว่าเป็นจริงตามที่ผู้ขอกล่าวอ้างหรือไม่ ถ้าเป็นจริงให้สอบถามไปยัง ด่านป่าไม้ระหว่างทางว่าไม้หรือของป่าเหล่านั้นได้นำผ่านด่านป่าไม้แล้วหรือไม่ และสอบถามด่านป่าไม้ปลายทางหรือสำนักงานป่าไม้ปลายทางว่าไม้หรือของป่านั้นมีอยู่จริงจำนวนเท่าใด
๒๓.๓ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นความจริงตามที่ผู้ร้องขอกล่าวอ้างก็ให้ออกใบแทนใบเบิกทางได้ โดยให้เขียนด้วยหมึกสีแดงบนใบเบิกทางว่า “ใบแทน” พร้อมหมายเหตุไว้ด้านบนขวาว่า “แทนใบเบิกทางฉบับที่ เล่มที่ วันที่ เดือน ปี” แล้วให้ผู้อนุญาตลงลายมือชื่อกำกับไว้เป็นหลักฐานสำหรับข้อความและเงื่อนไขอื่นๆ ให้เขียนตรงกันกับใบเบิกทางเดิมด้วยแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาตออกใบแทน ลงลายมือชื่อและประทับตราประจำตำแหน่งไว้เป็นสำคัญพร้อมเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามระเบียบ
ในกรณีที่ไม้หรือของป่าเหลืออยู่ไม่ครบจำนวน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่หมายเหตุด้วยหมึกสีแดงในใบเบิกทางว่า มีไม้หรือของป่าเหลืออยู่เท่าใด ถ้าเป็นไม้ท่อนต้องระบุไว้ในบัญชีด้วยว่าเหลือไม้ท่อนใด ชนิดใด ให้ละเอียดชัดเจน และห้ามใช้ใบแทนนี้กำกับไม้หรือของป่านำเคลื่อนที่ หากประสงค์จะนำเคลื่อนที่ต้องขอรับใบเบิกทางใหม่โดยอ้างใบแทนใบเบิกทางเป็นหลักฐาน
เมื่อได้ออกใบแทนใบเบิกทางแล้ว ใบเบิกทางเดิมเป็นอันใช้ไม่ได้และให้ประกาศยกเลิก
หมวดที่ ๕
การต่ออายุใบเบิกทาง
ข้อ ๒๔ การต่ออายุใบเบิกทาง จะมีได้ในกรณีดังนี้
๒๔.๑ ใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยทางรถไฟ สิ้นอายุก่อนเคลื่อนย้ายจากสถานีต้นทาง
๒๔.๒ ใบเบิกทางนำไม้ท่อนเคลื่อนที่เป็นรายหมอน ที่ไม่สามารถนำเคลื่อนที่ไปหมดภายในกำหนดอายุใบเบิกทาง โดยมีเหตุผลอันสมควร
การต่ออายุใบเบิกทางในกรณีอื่นให้ขออนุมัติอธิบดีกรมป่าไม้เป็นรายๆ ไป
ข้อ ๒๕ การขอต่ออายุใบเบิกทางจะต้องยื่นคำขอ ณ ที่ทำการออกใบเบิกทางก่อนที่ใบเบิกทางจะสิ้นอายุ เว้นข้อ ๒๔.๑ ให้ขอหลังจากใบเบิกทางสิ้นอายุได้โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติดังนี้
๒๕.๑ ตรวจสอบคำขอและเหตุผลความจำเป็น พร้อมด้วยหลักฐานเบิกทางเดิม แล้วตรวจสอบไม้หรือของป่าว่า มีอยู่จริงหรือไม่
๒๕.๒ การต่ออายุใบเบิกทาง ให้บันทึกลงในต้นขั้วและปลายขั้วใบเบิกทางด้วยหมึกสีแดง ที่มุมบนด้านซ้ายว่า “ต่ออายุใบเบิกทางให้ถึงวันที่……..เดือน……….พ.ศ……..” แล้วให้ผู้อนุญาตลงลายมือชื่อประทับตราประจำตำแหน่งไว้เป็นสำคัญ
๒๕.๓ ให้ต่ออายุใบเบิกทางได้เพียงครั้งเดียว โดยกำหนดอายุไม่เกินระยะเวลาตามใบเบิกทางเดิม และเมื่อรวมเวลาทั้ง ๒ ครั้งแล้ว จะต้องไม่เกินเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง
หมวดที่ ๖
การทำการล่วงเวลา
ข้อ ๒๖ การทำการล่วงเวลาตามระเบียบนี้ หมายถึง การปฏิบัติราชการซึ่งมิใช่วัน เวลา ราชการปกติ
ข้อ ๒๗ การเรียกเก็บเงินค่าทำการล่วงเวลา จากผู้ขอให้ทำการล่วงเวลาให้เรียกเก็บภายในเงื่อนไขดังต่อไปนี้
๒๗.๑ การตรวจสอบตามข้อ ๓๒.๓
๒๗.๒ การตรวจสอบเพื่อออกใบเบิกทาง
๒๗.๓ การตรวจสอบเพื่ออนุญาตให้ผ่านด่านป่าไม้
๒๗.๔ การตรวจสอบเพื่อแจ้งเข้าเขตด่านป่าไม้
ข้อ ๒๘ การเรียกเก็บค่าทำการล่วงเวลา ให้ถือเอาความสมัครใจของผู้ขอโดยให้ยื่นคำขอตามแบบท้ายระเบียบนี้ และให้แจ้งจำนวนเงินค่าทำการล่วงเวลาให้ผู้ขอชำระให้เสร็จสิ้น แล้วออกใบเสร็จรับเงินให้ตามระเบียบ
ข้อ ๒๙ อัตราค่าทำการล่วงเวลา ให้คิดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ข้อ ๓๐ การจ่ายเงินค่าทำการล่วงเวลาให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ และการนำลงบัญชีเป็นเงินผลประโยชน์ของแผ่นดิน ให้ปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงการคลัง
หมวดที่ ๗
การออกใบเบิกทางโดยอ้างหลักฐานหนังสือกำกับไม้แปรรูป
ข้อ ๓๑ การใช้หนังสือกำกับไม้แปรรูปเป็นหลักฐานในการออกใบเบิกทางนำไม้แปรรูปเคลื่อนที่ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้
๓๑.๑ การออกใบเบิกทางไม้แปรรูป จากโรงงานแปรรูปไม้หรือโรงค้าไม้แปรรูปโดยอ้างหลักฐานหนังสือกำกับไม้แปรรูป ให้เก็บสำเนาหนังสือกำกับไม้แปรรูปแนบคำขอใบเบิกทางไว้เป็นหลักฐาน แล้วให้แนบหนังสือกำกับไม้แปรรูปไปกับใบเบิกทาง
๓๑.๒ การออกใบเบิกทางให้บุคคลผู้รับโอนหรือซื้อไม้แปรรูปที่มีหนังสือกำกับไม้แปรรูปเป็นหลักฐาน เพื่อนำเคลื่อนที่ต่อไป ให้เก็บหนังสือกำกับไม้แปรรูปแนบคำขอใบเบิกทางไว้เป็นหลักฐานแล้วให้คัดหรือสำเนารายการไม้แปรรูปท้ายหนังสือกำกับไม้แปรรูป เป็นบัญชีรายการไม้แนบท้ายใบเบิกทาง
๓๑.๓ การออกใบเบิกทางใหม่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ออกใบเบิกทาง เก็บใบเบิกทางเดิมพร้อมหนังสือกำกับไม้แปรรูปที่แนบมากับใบเบิกทางแนบคำขอใบเบิกทางไว้เป็นหลักฐาน แล้วให้คัดหรือสำเนารายการไม้ท้ายหนังสือกำกับไม้แปรรูป เป็นบัญชีรายการไม้แนบท้ายใบเบิกทางที่ออกใหม่
หมวดที่ ๘
อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านป่าไม้
ในสังกัดกองการอนุญาต กรมป่าไม้
ข้อ ๓๒ อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านป่าไม้ในสังกัดกองการอนุญาต กรมป่าไม้ มีดังนี้
๓๒.๑ ตรวจสอบควบคุมไม้หรือของป่า ระหว่างการนำเคลื่อนที่ภายในเขตด่านป่าไม้ที่ตนประจำอยู่
๓๒.๒ สืบสวน จับกุม ผู้กระทำผิดภายในเขตด่านป่าไม้ ตลอดจนติดตาม จับกุมผู้กระทำผิดที่หลบหนีไปนอกเขตด่านป่าไม้ เพื่อให้ได้ตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
๓๒.๓ เรียกเก็บเงินค่าภาคหลวง ค่าขาย ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับไม้หรือของป่าที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ต้นทางเรียกเก็บไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
๓๒.๔ ทำการล่วงเวลา ตามความในหมวดที่ ๖ ของระเบียบนี้
๓๒.๕ การลงนามในเอกสารราชการของด่านป่าไม้ ให้เป็นอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านป่าไม้ผู้ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการกองการอนุญาต กรมป่าไม้ ให้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ทำหน้าที่หัวหน้าตามลำดับ
ในกรณีทำการล่วงเวลา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายตามลำดับแล้วแต่กรณี ลงนามในเอกสารของด่านป่าไม้
๓๒.๖ ให้กองการอนุญาตตรวจสอบความถูกต้องต้นขั้วใบเบิกทางอย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง พร้อมทั้งลงลายมือชื่อกำกับการตรวจสอบในต้นขั้วใบเบิกทางไว้เป็นหลักฐาน
๓๒.๗ ไม้หรือของป่าที่อยู่ในเขตด่านป่าไม้ประเภท ๑ ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านป่าไม้นั้น เป็นผู้ออกใบเบิกทาง
ในเขตกรุงเทพมหานคร การออกใบเบิกทาง ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการกองการอนุญาต กรมป่าไม้ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
วีรพันธุ์ ศรีบุญลือ
อธิบดีกรมป่าไม้
[ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย
สุภาพร/พิมพ์
๑๒ กันยายน ๒๕๔๖
สุภาพร/แก้ไข
๒๙ ตุลาคม ๒๕๔๖
ทรงยศ/สุมลรัตน์/ตรวจ
๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๖
A+B
[๑] รก.๒๕๔๖/พ๖๖ง/๗๒/๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๖