ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เรื่อง การให้ความยินยอมในการนำทรัพยากรธรรมชาติ ในเขตปฏิรูปที่ดินไปใช้ประโยชน์ตามกฎหมายอื่น พ.ศ. ๒๕๔๑

ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

เรื่อง การให้ความยินยอมในการนำทรัพยากรธรรมชาติ

ในเขตปฏิรูปที่ดินไปใช้ประโยชน์ตามกฎหมายอื่น

พ.ศ. ๒๕๔๑

-------------------------

                        อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๙ (๑๒) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดิน

เพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมออกระเบียบไว้ดังต่อไปนี้

                        ข้อ ๑  ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

เรื่อง การให้ความยินยอมในการนำทรัพยากรธรรมชาติในเขตปฏิรูปที่ดินไปใช้ประโยชน์ตาม

กฎหมายอื่น พ.ศ. ๒๕๔๑"

                        ข้อ ๒  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

เป็นต้นไป

                        ข้อ ๓  ในระเบียบนี้

                        "หนังสืออนุญาต" หมายความว่า หนังสืออนุญาตให้ใช้หรือหาประโยชน์จาก

ทรัพยากรธรรมชาติตามกฎหมายฉบับหนึ่งฉบับใด และให้หมายความรวมถึงการยินยอมหรือ

อนุญาตให้รับช่วงหรือรับโอนการใช้หรือหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติดังกล่าว

                        "พนักงานเจ้าหน้าที่"  หมายความว่า ผู้ซึ่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน

เพื่อเกษตรกรรมมอบหมายให้มีอำนาจหน้าที่ตามระเบียบนี้

                                                       หมวด ๑

                                                   การยื่นคำขอ

                                                    ---------------

                        ข้อ ๔  บุคคลใดมีความประสงค์จะขอความยินยอมในการใช้พื้นที่ในเขตปฏิรูป

ที่ดิน เพื่อการสำรวจหรือใช้หรือหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตตาม

กฎหมายอื่นให้ยื่นคำขอ ณ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดแห่งท้องที่ซึ่งที่ดินที่ประสงค์จะขอใช้

ตั้งอยู่ พร้อมด้วยหลักฐานดังต่อไปนี้

                        (๑) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน ๑ ชุด

(กรณีผู้ขอเป็นบุคคลธรรมดา)

                        (๒) สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลและหลักฐานแสดงว่า

ผู้ยื่นคำขอเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล จำนวน ๑ ชุด (กรณีผู้ขอเป็นนิติบุคคล)

                        (๓) โครงการที่ขอใช้พื้นที่ พร้อมแผนที่และผังแสดงการใช้พื้นที่และบริเวณ

ใกล้เคียง

                        ข้อ ๕  เมื่อได้รับคำขอแล้ว ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดตรวจสอบคำขอ

และหลักฐานเมื่อเห็นว่าครบถ้วนแล้วให้ออกใบรับให้ผู้ยื่นคำขอไว้เป็นหลักฐาน

                                                               หมวด ๒

                                                      การตรวจสภาพที่ดิน

                                                           ---------------

                        ข้อ ๖  ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดตรวจสภาพที่ดินบริเวณที่ขอใช้โดย

ผู้ยื่นคำขอหรือผู้ได้รับมอบอำนาจมีหน้าที่ไปให้ข้อเท็จจริงในการตรวจสภาพพื้นที่ตามกำหนดนัด

ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดแจ้งให้ทราบ

                        ข้อ ๗  เมื่อได้ตรวจสภาพพื้นที่บริเวณที่ขอใช้แล้ว ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน

จังหวัดตรวจสอบว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาให้ใช้พื้นที่ได้หรือไม่

                        ข้อ ๘  พื้นที่ที่จะพิจารณาให้ความยินยอมตามระเบียบนี้ ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์

ดังต่อไปนี้

                        (๑) ต้องเป็นพื้นที่ซึ่งกรมป่าไม้และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้

ตรวจสอบตามข้อตกลงแนวทางปฏิบัติร่วมกันแล้ว หรือไม่อยู่ในบริเวณที่ ส.ป.ก. ได้กันไว้เป็น

พื้นที่ป่าในเขตปฏิรูปที่ดิน

                        (๒) ไม่เป็นบริเวณที่มีทิวทัศน์สวยงามอันควรรักษาไว้โดยความเห็นของสภา

ตำบลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งท้องที่นั้น

                        (๓) ไม่มีปัญหากระทบที่สำคัญต่อความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่และบริเวณ

ใกล้เคียง และจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาตำบลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งท้องที่

นั้นด้วย

                        (๔) ต้องมีลักษณะ ขนาด อาณาเขตและเนื้อที่เหมาะสมกับกิจการตาม

วัตถุประสงค์ที่ขอและแผนการใช้พื้นที่ตามโครงการประกอบคำขอ และพื้นที่นั้นมีศักยภาพใน

การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าการเกษตร

                                                            หมวด ๓

                                                          การพิจารณา

                                                         -----------------

                        ข้อ ๙  ในกรณีเป็นคำขอใช้พื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการสำรวจ

ทรัพยากรธรรมชาติ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดส่งคำขอพร้อมทั้งทำความเห็นเสนอ

เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อพิจารณา

                        ข้อ ๑๐  ในกรณีเป็นคำขอนอกจากคำขอตามข้อ ๙ เมื่อสำนักงานปฏิรูปที่ดิน

จังหวัดเห็นว่าพื้นที่ที่ขอใช้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาให้ความยินยอมได้ ให้รวบรวมคำขอ

เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องพร้อมความเห็นเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิจารณาให้

ความเห็นแล้วส่งเรื่องให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อนำเสนอคณะกรรมการ

ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพิจารณาต่อไป

                        ในกรณีที่เห็นสมควร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดจะขอให้ผู้ยื่นคำขอ

ส่งเอกสารหลักฐานอื่นประกอบการพิจารณาตามความเหมาะสมแก่เรื่องก็ได้

                        การยินยอมให้ใช้ที่ดินโดยปกติให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

                        (๑) การยินยอมให้ใช้ที่ดินเพื่อการสำรวจแร่ ให้ใช้ที่ดินตามความจำเป็นและ

เหมาะสม มีกำหนดระยะเวลาไม่เกินอายุอาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่หรืออาชญาบัตรพิเศษ

                        (๒) การยินยอมให้ใช้ที่ดินเพื่อการทำเหมืองแร่ จะพิจารณาให้ใช้ที่ดินตามความ

จำเป็นและเหมาะสมแก่การใช้พื้นที่ตามวัตถุประสงค์และโครงการที่เสนอแต่ละคำขอไม่เกิน ๓๐๐

ไร่ และมีกำหนดระยะเวลาไม่เกินอายุประทานบัตร

                        (๓) การยินยอมให้ใช้ที่ดินเพื่อการสร้างทางขนแร่ออกจากเขตพื้นที่ประทานบัตร

ให้มีความกว้างของทางไม่เกินหกเมตร การสร้างทางและบำรุงรักษาทางต้องเป็นไปตามมาตรฐาน

ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกำหนด โดยมีกำหนดระยะเวลาไม่เกินอายุประทานบัตร

                        (๔) การยินยอมให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการอันเกี่ยวเนื่องกับการทำเหมืองแร่ เช่น ที่เท

ทิ้งมูลดินทราย ที่พักคนงาน ที่กองเก็บแร่ ที่ตั้งโรงโม่แร่หรือแต่งแร่ รวมทั้งที่เก็บเครื่องมือเครื่อง

ใช้ในการทำเหมืองแร่และอื่น ๆ ให้ใช้พื้นที่ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมแก่กิจการที่ขอความ

ยินยอมและมีกำหนดระยะเวลาไม่เกินอายุประทานบัตร

                        (๕) การยินยอมให้ใช้ที่ดินเพื่อทำการขุด เก็บ ซึ่งกรวด ทราย ลูกรังหรือดินที่มิใช่

การทำเหมืองแร่ตามกฎหมายว่าด้วยแร่ ให้ใช้ที่ดินได้ไม่เกิน ๑๐ ไร่ และมีกำหนดระยะเวลาไม่เกิน

อายุหนังสืออนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน

                        (๖) การยินยอมให้ใช้พื้นที่เพื่อหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างอื่น

ให้ใช้ที่ดินได้ไม่เกิน ๑๐ ไร่ และมีกำหนดระยะเวลาคราวละไม่เกิน ๕ ปี

                        ในกรณีที่จะยินยอมให้ใช้ที่ดินในจำนวนเนื้อที่หรือระยะเวลาเกินกว่าที่กำหนด

หรือให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ในวรรคสาม ต้องได้รับความยินยอมจากคณะ

กรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย

                        ข้อ ๑๑  ในกรณีที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเห็นว่า พื้นที่ที่ขอใช้

นั้นมีศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าการเกษตรและไม่ประสงค์จะ

ดำเนินการปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดออกหนังสือให้ผู้ยื่นคำขอ

ว่าไม่ขัดข้องที่จะให้นำที่ดินไปใช้ในกิจการที่ขอได้และต้องกำหนดระยะเวลาที่ผู้นั้นจะไปยื่นคำขอ

อนุญาตตามกฎหมายนั้นไว้ด้วยภายในเวลาไม่เกิน ๙๐ วัน

                                                                  หมวด ๔

                                  การออกหนังสือยินยอมและการต่ออายุหนังสือยินยอม

                                                          -----------------------

                        ข้อ ๑๒  ในกรณีเป็นคำขอใช้ที่ดินเพื่อการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ หาก

เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพิจารณาแล้วเห็นว่า การสำรวจในพื้นที่นั้นไม่

เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการประกอบเกษตรกรรมในที่ดินของเกษตรกรก็ให้แจ้งสำนักงานการปฏิรูป

ที่ดินจังหวัดเพื่อออกหนังสือยินยอมให้แก่ผู้ยื่นคำขอต่อไป

                        ข้อ ๑๓  ในกรณีเป็นคำขอนอกจากกรณีตามข้อ ๑๒ เมื่อสำนักงานการปฏิรูป

ที่ดินจังหวัดได้รับสำเนาหนังสืออนุญาตซึ่งมีการรับรองความถูกต้องแล้ว จึงออกหนังสือยินยอมให้

แก่ผู้ยื่นคำขอ

                        ข้อ ๑๔  ก่อนออกหนังสือยินยอม ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเรียกให้

ผู้ยื่นคำขอวางหลักประกันและชำระค่าตอบแทนการใช้ที่ดินตามหลักเกณฑ์ วิธีการและอัตราที่

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกำหนด ทั้งนี้ จำนวนค่าตอบแทนที่จะเรียกเก็บจากผู้ได้รับ

หนังสือยินยอมจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย

                        ข้อ ๑๕  ในกรณีที่มีการอนุญาตให้มีการโอนหนังสืออนุญาต ให้ผู้ได้รับโอนแจ้ง

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับโอนพร้อมหลักฐานตามข้อ ๔

และหลักฐานแสดงการได้รับโอน เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดออกหนังสือยินยอมให้ใช้ที่

ดินโดยมีกำหนดเวลาไม่เกินระยะเวลาที่เหลือตามหนังสือยินยอมฉบับเดิม และเรียกให้ผู้ได้รับโอน

วางหลักประกันตามข้อ ๑๔ ภายในระยะเวลาที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกำหนด

                        ถ้าผู้ได้รับโอนไม่แจ้งการโอนภายใน ๓๐ วัน ตามวรรคหนึ่ง หรือไม่วางหลัก

ประกันภายในระยะเวลาที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกำหนด ให้การยินยอมใช้พื้นที่ตาม

หนังสือยินยอมนั้นสิ้นสุดลง

                        ข้อ ๑๖  ถ้าผู้ได้รับหนังสือยินยอมประสงค์จะขอต่ออายุหนังสือยินยอมให้ยื่น

คำร้องขอต่ออายุหนังสือยินยอม ณ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดก่อนครบกำหนดเวลาตาม

หนังสือยินยอมไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน

                        ในกรณีที่ผู้ได้รับหนังสือยินยอมไม่อาจยื่นคำขอต่ออายุหนังสือยินยอมได้ทัน

ภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งโดยมีเหตุอันสมควร ผู้นั้นอาจยื่นคำร้องขอต่ออายุหนังสือยินยอม

ภายในเวลาไม่เกิน ๓๐ วันนับแต่วันสิ้นสุดเวลาตามหนังสือยินยอม

                        ข้อ ๑๗  ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีอำนาจพิจารณาต่ออายุหนังสือ

ยินยอมได้ตามหลักเกณฑ์ในข้อ ๑๐ แต่ทั้งนี้จะต้องไม่เกินระยะเวลาที่เหลืออยู่ตามที่ได้รับอนุญาต

ตามกฎหมายนั้น

                                                                 หมวด ๕

                                              หน้าที่ของผู้ได้รับหนังสือยินยอม

                                                            -----------------

                        ข้อ ๑๘  ผู้ได้รับหนังสือยินยอมต้องปฏิบัติ ดังนี้

                        (๑) ไม่ให้หรือยอมให้ผู้อื่นใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ได้รับความยินยอม เว้นแต่เป็น

การรับช่วงการทำเหมืองที่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมาย

                        (๒) ชำระค่าตอบแทนการใช้ที่ดินตามที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตร

กรรมกำหนด เพื่อนำส่งเข้ากองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

                        (๓) ต้องใช้ที่ดินเพื่อกิจการตามที่กำหนดในหนังสือยินยอมเท่านั้น จะนำไปใช้

ในกิจการอื่นไม่ได้

                        (๔) ต้องไม่กระทำให้ที่ดินบริเวณที่ได้รับความยินยอม และพื้นที่ที่ติดต่อกันเสีย

สภาพเกินสมควร

                        (๕) ต้องไม่กระทำกิจการอันเป็นการรบกวนผู้อื่นเกินสมควร เช่น ไม่ทำให้เกิด

เสียง ทำให้เกิดฝุ่นละออง ทำกิจการในเวลาวิกาล หรือวางหรือตั้งอุปกรณ์หรือวัตถุตาง ๆ เป็นการ

กีดขวางทางสาธารณะ เป็นต้น

                        (๖) การใช้เส้นทาง ความเร็วของรถ  และการบรรทุกต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์

ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกำหนดเกี่ยวกับการใช้เส้นทาง

                        (๗) ในระหว่างดำเนินการต้องระมัดระวังไม่ให้ส่งผลกระทบที่ไม่เหมาะสมทาง

ทัศนียภาพหรือการประกอบกิจการ และการอยู่อาศัยของบุคคลข้างเคียง

                        (๘) ต้องยินยอมให้พนักงาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการปฏิบัติงานในบริเวณที่

ได้ให้ความยินยอมตามเงื่อนไขได้ทุกเวลา ในระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก และผู้ได้รับ

หนังสือยินยอมจะต้องเป็นผู้นำตรวจ แต่หากไม่สามารถนำตรวจได้ด้วยตนเองต้องมอบอำนาจให้

ผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้ดำเนินการแทนโดยผู้รับหนังสือยินยอมหรือผู้รับมอบอำนาจจะต้องอำนวยความ

สะดวกตามควรแก่กรณี และให้ปฏิบัติตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้สั่งเป็นหนังสือให้ปฏิบัติเพื่อให้

เป็นไปตามที่ได้กำหนดไว้ในระเบียบนี้

                        (๙) ถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องการหลักฐานข้อเท็จจริง หรือพยานหลักฐานเพิ่ม

เติมให้สามารถเรียกผู้รับหนังสือยินยอมมาชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยวาจา หรือให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเป็น

หนังสือหรือให้ส่งเอกสารหรือพยานหลักฐานได้

                        (๑๐) ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ และเงื่อนไขตามที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน

เพื่อเกษตรกรรมกำหนด

                        ข้อ ๑๙  หากผู้ได้รับหนังสือยินยอมไม่ปฏิบัติตามความในข้อ ๑๘ ให้สำนักงาน

การปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีหนังสือเตือนให้ผู้ได้รับหนังสือยินยอมปฏิบัติภายในเวลาที่กำหนด

                                                                      หมวด  ๖

                                                      การสิ้นสุดของหนังสือยินยอม

                                                                 -----------------

                        ข้อ ๒๐  หนังสือยินยอมย่อมสิ้นสุดในกรณีดังต่อไปนี้

                        (๑) ผู้ได้รับหนังสือยินยอมตายหรือสภาพนิติบุคคลสิ้นสุดลง

                        (๒) ผู้ได้รับหนังสือยินยอมไม่ปฏิบัติตามข้อ ๑๔ หรือหนังสือเตือนตามข้อ ๑๙

โดยไม่มีเหตุอันควร

                        (๓) ครบกำหนดเวลาตามหนังสือยินยอมให้เข้าใช้พื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน

                        (๔) หนังสืออนุญาตให้ประกอบกิจการสิ้นสุดลง

                        กรณีตาม (๒) ให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีมติให้หนังสือยินยอมสิ้นสุด

ลง และให้มีผลตั้งแต่วันที่มีมติ

                        ข้อ ๒๑  เมื่อหนังสือยินยอมสิ้นสุดลง ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดดำเนิน

การให้ผู้ได้รับหนังสือยินยอมและบริวารออกจากที่ดินโดยไม่ชักช้า

                        ข้อ ๒๒  ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดรายงานสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน

เพื่อเกษตรกรรมทราบเมื่อมีการออกหนังสือยินยอม การต่ออายุหนังสือยินยอมและการออกหนังสือ

ยินยอมให้ผู้ได้รับโอน

                                                                    หมวด ๗

                                                                    เบ็ดเตล็ด

                                                            --------------------

                        ข้อ ๒๓  ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีอำนาจกำหนดแบบ

พิมพ์ที่ใช้ในการดำเนินการตามระเบียบนี้ รวมทั้งกำหนดรายละเอียดหรือเงื่อนไขให้ผู้ได้รับหนังสือ

ยินยอมปฏิบัติเพิ่มเติมได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้

                                                            ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๑

                                                                             ปองพล  อดิเรกสาร

                                                            รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

                                                         ประธานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

[รก. ๒๕๔๑/พ๑๐๓ง/๑๔/๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๑]

                                                                                                พรพิมล/พิมพ์/แก้ไข

                                                                                                ๒๓ ก.ค ๒๕๔๕

                                                                                                B+A (C )