ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการเช่าซื้อที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๘
ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการเช่าซื้อที่ดิน
พ.ศ. ๒๕๕๘
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๙ (๗) (๑๒) ประกอบมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จึงกำหนดระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการเช่าซื้อที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๘”
ข้อ ๒[๑] ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการเช่าซื้อที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๖
บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะกรรมการ และคำสั่งอื่นใดในส่วนที่บัญญัติไว้แล้วซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
“ผู้เช่าซื้อ” หมายความว่า เกษตรกรผู้ซึ่งได้ทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินกับ ส.ป.ก.
“ค่าธรรมเนียม” หมายความว่า เงินที่ ส.ป.ก. ได้ทดรองจ่ายไปเป็นค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายตามประมวลกฎหมายที่ดินในการรังวัดออกหรือแบ่งแยกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
“คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการโครงการและการเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
“เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ข้อ ๕ ให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับการเช่าซื้อที่ดิน ในรายละเอียดได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้
เมื่อมีการกำหนดตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดแจ้งให้ ส.ป.ก. ทราบ
ข้อ ๖ ให้เลขาธิการ หรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด และพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ แล้วแต่กรณี
หมวด ๑
บททั่วไป
ข้อ ๗ ประเภทที่ดินที่จัดให้เช่าซื้อ ได้แก่
(๑) ที่ดินที่ได้มาจากการจัดซื้อหรือเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
(๒) ที่ดินของรัฐ
(๓) ที่ดินที่ได้มาโดยประการอื่น
ในกรณีเช่าซื้อที่ดินของรัฐตาม (๒) หลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราค่าเช่าซื้อให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด
เว้นแต่ที่ดินที่คณะกรรมการกำหนดมิให้มีการโอนสิทธิที่ดิน
ข้อ ๘ ที่ดินที่จะจัดให้เช่าซื้อ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดจัดทำเป็นแผนงานการเช่าซื้อที่ดินเพื่อขอความเห็นชอบจาก ส.ป.ก. และเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิจารณาตามลำดับ
ข้อ ๙ การยื่นคำร้องขอเช่าซื้อที่ดินจาก ส.ป.ก. ให้ยื่นคำร้องตามแบบที่ ส.ป.ก. กำหนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่และเวลาตามประกาศของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด
ข้อ ๑๐ ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอเช่าซื้อที่ดินต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
ก. เป็นเกษตรกรซึ่งได้รับคัดเลือกเข้าทำประโยชน์ ตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกเกษตรกร ซึ่งจะมีสิทธิได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ข. เป็นผู้ที่ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบที่ทางราชการกำหนด
ข้อ ๑๑ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดรวบรวมคำร้องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด เพื่อพิจารณาอนุมัติให้เช่าซื้อ
โดยมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาผู้ยื่นคำร้อง ดังนี้
ก. เป็นผู้มีรายได้พอที่จะสามารถชำระค่าเช่าซื้อที่ดินได้
ข. ในกรณีที่เป็นผู้เช่าที่ดินของ ส.ป.ก. จะต้องไม่เป็นผู้ติดค้างชำระค่าเช่าที่ดิน หรือค้างชำระหนี้สินกับ ส.ป.ก. และหนี้สินของสถาบันอื่น ๆ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ค. ไม่มีที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือของคู่สมรส หรือมีที่ดินเพียงเล็กน้อยแต่ไม่พอเพียงแก่การประกอบเกษตรกรรมเพื่อเลี้ยงชีพ
ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือให้เกษตรกรทราบ หากรายใดไม่ได้รับอนุมัติให้แจ้งสิทธิอุทธรณ์ด้วย
การอุทธรณ์ตามวรรคสอง ให้ยื่นต่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภายใน ๓๐ วันนับแต่วันได้รับแจ้ง เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณาต่อไป คำวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการให้ถือเป็นที่สุด
หมวด ๒
สัญญาเช่าซื้อที่ดิน
ส่วนที่ ๑
การทำสัญญาเช่าซื้อที่ดิน
ข้อ ๑๒ เมื่อคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดได้อนุมัติให้เช่าซื้อแล้ว ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีหนังสือแจ้งกำหนดวันทำสัญญาและสถานที่ทำสัญญาไปยังเกษตรกรผู้ซึ่งได้รับอนุมัติให้เช่าซื้อ เพื่อให้มาทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินกับเลขาธิการ หรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมายตามแบบสัญญาเช่าซื้อที่คณะกรรมการกำหนด ภายในกำหนดสามสิบวันนับแต่วันมีหนังสือบอกกล่าว และให้เกษตรกรนำหลักฐานต่อไปนี้ มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในวันทำสัญญาเช่าซื้อ
(๑) สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวประชาชน
(๒) ในกรณีที่เกษตรกรมีคู่สมรส ต้องมีหนังสือแสดงความยินยอมของคู่สมรสด้วย
ถ้าเกษตรกรผู้ซึ่งได้รับอนุมัติให้เช่าซื้อไม่มาแสดงตนเพื่อทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินตามระยะเวลาและสถานที่ที่กำหนด โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องอันสมควรเป็นหนังสือให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดทราบ หรือแสดงตนแต่สละสิทธิการเช่าซื้อที่ดิน ให้ถือว่าผู้นั้นสละสิทธิการเช่าซื้อที่ดินที่ได้รับอนุมัติในคราวนั้น
เกษตรกรซึ่งได้รับอนุมัติให้เช่าซื้อแต่มิได้มาทำสัญญาตามวรรคหนึ่ง อาจยื่นคำร้องต่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภายในสิบห้าวันนับแต่วันครบกำหนดให้มาทำสัญญาตามวรรคหนึ่ง โดยแสดงเหตุผลอันสมควรหรือเหตุสุดวิสัยเพื่อขอผ่อนผัน เมื่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเห็นว่าคำร้องดังกล่าวมีเหตุผลอันสมควร ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิจารณาผ่อนผันให้ผู้ยื่นคำร้องมาทำสัญญาเช่าซื้อภายในเวลาที่กำหนด แต่ต้องไม่เกินสิบห้าวันนับแต่วันที่มีหนังสือแจ้งให้มาทำสัญญา และรายงานให้ ส.ป.ก. ทราบโดยเร็ว
ข้อ ๑๓ สัญญาเช่าซื้อที่ดินให้จัดทำขึ้นเป็นสามฉบับ โดยมีข้อความตรงกัน และให้เก็บไว้ ณ ส.ป.ก. สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัด และเกษตรกร ฝ่ายละหนึ่งฉบับ
ส่วนที่ ๒
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเช่าซื้อที่ดิน
ข้อ ๑๔ การกำหนดค่าเช่าซื้อที่ ส.ป.ก. จัดให้เกษตรกรเช่าซื้อ ให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อเท่ากับมูลค่าที่ดินที่ได้จัดซื้อหรือเวนคืนกับดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๔ ต่อปี ของยอดเงินมูลค่าที่ดินที่ยังมิได้ชำระ
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย ให้เป็นอำนาจของคณะอนุกรรมการ
ข้อ ๑๕ การเรียกเก็บค่าเช่าซื้อให้เรียกเก็บตั้งแต่วันที่เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินตามที่ระบุในสัญญาเช่าซื้อ โดยให้มีระยะเวลาในการเช่าซื้อไม่เกินยี่สิบห้าปี ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในสัญญา
ส่วนที่ ๓
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าใช้จ่าย
ข้อ ๑๖ การเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวเนื่องกับที่ดิน ให้เรียกเก็บตามสัญญา
หมวด ๓
การชำระค่าเช่าซื้อ
ข้อ ๑๗ ผู้เช่าซื้อที่ดินต้องชำระเงินตามสัญญาเช่าซื้อเป็นรายปีจนครบกำหนดตามสัญญา แก่ ส.ป.ก. ณ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัด แห่งท้องที่ โดยปีแรกให้ชำระภายในวันที่กำหนดไว้ในสัญญา
ในกรณีชำระเงิน ณ สถานที่อื่นนอกจากวรรคหนึ่ง ให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบ
ข้อ ๑๘ หากผู้เช่าซื้อมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจชำระค่าเช่าซื้อตามข้อ ๑๗ ได้ เนื่องจากประสบภัยธรรมชาติหรือมีเหตุสมควรประการอื่น อันทำให้การประกอบเกษตรกรรมไม่ได้ผล หรือได้ผลไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ จะมีประกาศของคณะกรรมการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่าท้องที่ใดเป็นท้องที่ที่เสียหายหรือไม่ก็ตาม ให้ผู้เช่าซื้อยื่นคำร้องโดยชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลพร้อมกับหลักฐานอ้างอิงประกอบคำร้องต่อคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเพื่อพิจารณาผ่อนผันการเก็บค่าเช่าซื้อตามผลแห่งความเสียหายสำหรับปีนั้น ๆ
ข้อ ๑๙ ให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อเป็นรายปีตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ถ้าผู้เช่าซื้อประสงค์จะชำระค่าเช่าซื้อแตกต่างจากที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ ให้ผู้เช่าซื้อเสนอคำร้องพร้อมทั้งแสดงเหตุผลประกอบคำขอ และแผนการชำระค่าเช่าซื้อโดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินมากกว่าที่ต้องชำระตามที่กำหนดไว้ในสัญญา จนมีผลให้ระยะเวลาที่ต้องชำระค่าเช่าซื้อน้อยลง ให้ผู้เช่าซื้อเสนอคำขอต่อปฏิรูปที่ดินจังหวัดเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบลดระยะเวลาเช่าซื้อได้ในปีสุดท้ายที่จ่ายค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้วให้แก้ไขสัญญา และแจ้งให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดทราบ
การชำระค่าเช่าซื้อดังกล่าว ส.ป.ก. จะโอนสิทธิในที่ดินให้ผู้เช่าซื้อต่อเมื่อครบกำหนดระยะเวลาการชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญา และผู้เช่าซื้อได้ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนถูกต้อง และ ส.ป.ก. ได้รับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินแล้ว
(๒) ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อขอชำระค่าเช่าซื้อเป็นจำนวนเงินน้อยกว่าที่ต้องชำระในแต่ละปี ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซึ่งอาจชำระได้ดังนี้
ก. ขอชำระน้อยกว่าแต่ไม่เป็นการขยายระยะเวลาให้ ส.ป.ก. เรียกเก็บเงินต้นค่าเช่าซื้อที่ถึงกำหนดชำระซึ่งผู้เช่าซื้อค้างชำระทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย ตามอัตราที่กำหนดในข้อ ๑๔ ในปีถัดไป
ข. ขอชำระน้อยกว่าแต่เป็นการขยายระยะเวลาไปจากที่กำหนดไว้ในสัญญา ให้พิจารณาตามที่เห็นสมควรแต่มิให้เกินกว่าห้าปี และการขยายระยะเวลาถ้าไม่เป็นไปเพื่อการปรับแผนการจัดเก็บในแต่ละปีให้ลดลงก็ไม่ต้องให้ผู้เช่าซื้อขยายระยะเวลาทุกปี
ทั้งนี้ ให้ผู้เช่าซื้อยื่นคำร้องดังกล่าวเสนอต่อปฏิรูปที่ดินจังหวัด เพื่อทำความเห็นเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิจารณาอนุมัติเป็นราย ๆ เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ให้แก้ไขสัญญาต่อไป
ข้อ ๒๐ ถ้าผู้เช่าซื้อไม่ชำระค่าเช่าซื้อเป็นเวลา ๒ ปี ติดต่อกันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ให้ดำเนินการตามข้อ ๒๑
หมวด ๔
การเลิกการเช่าซื้อ
ข้อ ๒๑ ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อผิดสัญญาเช่าซื้อ เลขาธิการหรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมายมีหนังสือบอกเลิกการเช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อแล้ว ให้ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้เช่าซื้อตามที่คณะกรรมการกำหนด
เมื่อได้มีการบอกเลิกการเช่าซื้อที่ดินแล้วให้ ส.ป.ก. ดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ที่ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน และให้ผู้เช่าซื้อที่ดินและบริวารออกจากที่ดินภายในหกสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกกล่าว หรือภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกำหนด เว้นแต่ผู้เช่าซื้อได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ตามระเบียบนี้
ข้อ ๒๒ กรณีผู้เช่าซื้อไม่สามารถรับภาระค่าเช่าซื้อหรือไม่ประสงค์จะทำประโยชน์ในที่ดินนั้นต่อไปก็ให้ผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้ และให้ดำเนินการตามข้อ ๒๑ เว้นแต่ผู้เช่าซื้อประสงค์จะเช่าที่ดินนั้น ให้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัด เพื่อนำเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิจารณาตามที่เห็นสมควร แล้วให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดรายงาน ส.ป.ก. เพื่อทราบด้วย
ข้อ ๒๓ เมื่อได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อตามข้อ ๒๑ และ ๒๒ แล้ว ให้ ส.ป.ก. คิดค่าเช่าจากผู้เช่าซื้อตลอดระยะเวลาที่ให้เช่าซื้อ
ส.ป.ก. จะคืนค่าเช่าซื้อที่รับไว้แล้ว เมื่อได้หักเป็นค่าเช่าเท่ากับระยะเวลาที่ได้ทำประโยชน์ตามสัญญาเช่าซื้อและหนี้สินที่ค้างชำระกับ ส.ป.ก.
หมวด ๕
บทเบ็ดเตล็ด
ข้อ ๒๔ ถ้าผู้เช่าซื้อที่ดินเห็นว่าค่าเช่าซื้อและค่าใช้จ่ายไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นธรรม หรือมีข้อพิพาทอื่นเกี่ยวกับการเช่าซื้อ หรือค่าใช้จ่าย หรือมีการกล่าวอ้างว่า ส.ป.ก. บอกเลิกสัญญาโดยไม่ชอบ ให้ผู้เช่าซื้อยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดท้องที่นั้นภายในสามสิบวันนับแต่วันชำระค่าเช่าซื้อที่ดินหรือค่าใช้จ่าย หรือวันที่ทราบหรือควรที่จะทราบมูลเหตุที่พิพาทหรือวันที่บอกเลิกสัญญา พร้อมทั้งแสดงหลักฐานอ้างอิงประกอบคำร้อง เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนแล้ว ให้ทำความเห็นพร้อมกับรายงานเกี่ยวกับคำร้องนั้นเสนอต่อคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดต่อไป เมื่อคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดวินิจฉัยเป็นประการใดแล้ว ให้แจ้งผลการวินิจฉัยแก่ผู้เช่าซื้อเป็นหนังสือโดยไม่ชักช้า คำวินิจฉัยของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดให้ถือเป็นที่สุด
ในระหว่างที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิจารณาคำร้องหรือคำอุทธรณ์ ให้สัญญาเช่าซื้อยังคงมีผลบังคับใช้อยู่จนกว่าคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดจะมีคำวินิจฉัย
ข้อ ๒๕ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการตามระเบียบนี้ หรือมีเหตุจำเป็นไม่อาจปฏิบัติตามข้อหนึ่งข้อใดแห่งระเบียบนี้ได้ ให้ ส.ป.ก. รวบรวมข้อเท็จจริงพร้อมทั้งทำความเห็นเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป
ข้อ ๒๖ ให้เลขาธิการ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด หรือปฏิรูปที่ดินจังหวัดซึ่งได้รับมอบหมาย เมื่อดำเนินการในเรื่องใด ๆ ตามระเบียบนี้ รายงานผลการดำเนินงานความก้าวหน้าของงานรวมตลอดทั้งปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ให้คณะกรรมการทราบ
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๒๗ สัญญาเช่าซื้อที่ดินที่ได้กระทำขึ้น โดยอาศัยระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการ เกี่ยวกับการเช่าซื้อที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๖ ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป เว้นแต่ข้อตกลงในสัญญาที่ไม่เป็นไปตามระเบียบนี้ ให้ปรับให้เป็นไปตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ประธานกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒ เมษายน ๒๕๕๘
วิศนี/ผู้ตรวจ
๑๖ เมษายน ๒๕๕๘
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนพิเศษ ๗๒ ง/หน้า ๘/๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘