กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2551
กฎกระทรวง
กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์
ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง
และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง
และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง
พ.ศ. ๒๕๕๑[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ มาตรา ๘ มาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ มาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕
หมวด ๑
การเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง
ข้อ ๒ ผู้ใดประสงค์จะเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง
ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะ ให้ขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่อยู่ในความครอบครองเพื่อประโยชน์แก่กิจการสวนสัตว์สาธารณะได้ สำหรับบุคคลอื่นจะขอรับได้เฉพาะใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กำหนดตามมาตรา ๑๗
การยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองตามวรรคหนึ่งให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีที่เป็นสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่วนในท้องที่อื่น ให้ยื่นที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดที่สัตว์ป่านั้นอยู่
(๒) ในกรณีที่สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นเป็นสัตว์น้ำ ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นที่สำนักบริหารจัดการด้านการประมง กรมประมง ส่วนในท้องที่อื่น ให้ยื่นที่สำนักงานประมงจังหวัดที่สัตว์น้ำนั้นอยู่
ข้อ ๓ ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นเจ้าของกิจการและมีทรัพย์สินหรือมีฐานะดีพอที่จะดำเนินกิจการได้
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(๓) มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
(๔) ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๕) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(๖) ไม่อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต หรือไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เว้นแต่การถูกเพิกถอนใบอนุญาตดังกล่าวจะผ่านมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
(๗) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกและได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษานั้นในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า หรือกฎหมายว่าด้วยศุลกากร หรือกฎหมายว่าด้วยการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า เฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับการนำเข้าหรือการส่งออกซึ่งสัตว์ป่า
ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลนั้นๆ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) และ (๗) ด้วย
ข้อ ๔ ในการขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องยื่นโครงการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง และแสดงหลักฐานเกี่ยวกับสถานที่ที่จะใช้ทำการเพาะพันธุ์สัตว์ป่านั้นพร้อมกับคำขอด้วย
โครงการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองตามวรรคหนึ่ง ต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดและจำนวนของสัตว์ป่า ประเภทของสัตว์ป่า จำนวนผู้ดูแลและเลี้ยงสัตว์ป่า เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ แผนที่ แผนผัง และรายการอาคารและสิ่งปลูกสร้างของสถานที่เพาะพันธุ์ รวมถึงวิธีการเพาะพันธุ์ ขั้นตอนการดำเนินการและระยะเวลาดำเนินการในแต่ละขั้นตอน
ข้อ ๕ ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองมิใช่เป็นผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะ จะต้องแสดงหลักฐานการได้มาหรือการจะได้มาซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ประสงค์จะเพาะพันธุ์พร้อมกับคำขอด้วย
การได้มาซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองของผู้ขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองตามวรรคหนึ่งจะต้องเป็นการได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
(๑) ได้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองอยู่ก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ใช้บังคับ หรือได้มาจากการจำหน่ายของผู้มีไว้ในครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ใช้บังคับ
(๒) ได้ครอบครองสัตว์ป่าอยู่ก่อนวันที่มีกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่านั้นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามมาตรา ๖ ใช้บังคับ หรือได้มาจากการจำหน่ายของผู้มีไว้ในครอบครองก่อนวันที่มีกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่านั้นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามมาตรา ๖
(๓) ได้มาซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ทางราชการจัดหาเพื่อกิจการเพาะพันธุ์ตามมาตรา ๒๖
(๔) ได้มาซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองจากการจำหน่ายของผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะที่เลิกดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะตามมาตรา ๓๒ หรือจากการจำหน่ายของผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองที่เลิกดำเนินกิจการ
(๕) ได้มาซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองจากการจำหน่ายของผู้รับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ตามมาตรา ๒๐ หรือได้มาจากการจำหน่ายของผู้รับใบอนุญาตที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา ๔๓
(๖) ได้มาซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองจากการนำเข้าตามมาตรา ๒๓ หรือมาตรา ๒๔
(๗) ได้มาซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองจากการแจ้งรายการเกี่ยวกับชนิดและจำนวนของสัตว์ป่าคุ้มครองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
ข้อ ๖ การพิจารณาอนุญาตคำขอตามข้อ ๒ ให้คำนึงถึงความเหมาะสมของโครงการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ความรู้ความสามารถหรือประสบการณ์ในการดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ฐานะทางการเงิน ตลอดจนความเหมาะสมของสถานที่กับเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะใช้ดำเนินกิจการของผู้ขอรับใบอนุญาต
ใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองให้ใช้แบบ สป. ๙ ท้ายกฎกระทรวงนี้
ข้อ ๗ ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองจะต้องดำเนินการตามโครงการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่ยื่นไว้ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต
ข้อ ๘ ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่เป็นสัตว์บกต้องจัดให้มีสัตวแพทย์ประจำในกรณีเป็นผู้เพาะพันธุ์รายใหญ่หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งออกเชิงพาณิชย์ส่วนผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่เป็นสัตว์บกในกรณีอื่น ให้มีสัตวแพทย์หรือสัตวบาลมาดูแลเป็นครั้งคราว
ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่เป็นสัตว์น้ำต้องจัดให้มีสัตวแพทย์หรือนักวิชาการด้านสัตว์น้ำประจำในกรณีเป็นผู้เพาะพันธุ์รายใหญ่หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งออกเชิงพาณิชย์ ส่วนผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่เป็นสัตว์น้ำในกรณีอื่น ให้มีสัตวแพทย์หรือนักวิชาการด้านสัตว์น้ำมาดูแลเป็นครั้งคราว
กิจการใดเป็นการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองรายใหญ่หรือเป็นการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองเพื่อการส่งออกเชิงพาณิชย์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๙ ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) ดูแลสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองให้อยู่ในสภาพอันสมควรและปลอดภัยและเหมาะสมกับสถานที่
(๒) จัดสถานที่ที่ใช้เลี้ยงดูสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองให้เหมาะสมมิให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลที่อยู่ใกล้เคียง
(๓) ดูแลป้องกันมิให้สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองทำอันตรายแก่ผู้อื่น
ข้อ ๑๐ ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองต้องจัดทำบัญชีแสดงชนิดและจำนวนสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่มีอยู่เนื่องในการดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองและยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๒ วรรคสาม ภายในระยะเวลาดังต่อไปนี้
(๑) การยื่นบัญชีครั้งแรก ให้ยื่นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาตสำหรับกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองมีสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่จะทำการเพาะพันธุ์อยู่แล้วในขณะได้รับใบอนุญาต หรือภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้มาซึ่งสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่จะทำการเพาะพันธุ์สำหรับกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองยังไม่มีสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่จะทำการเพาะพันธุ์ในขณะได้รับใบอนุญาต
(๒) การยื่นบัญชีประจำปี ให้ยื่นปีละสองครั้ง โดยยื่นในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม และเดือนกรกฎาคมของแต่ละปี
ให้ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองเก็บสำเนาบัญชีที่จัดทำขึ้นตามวรรคหนึ่งไว้ ณ สถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้
ข้อ ๑๑ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองได้สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่จะทำการเพาะพันธุ์เพิ่มเติมในระหว่างการดำเนินกิจการ ให้ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกำหนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๒ วรรคสาม พร้อมทั้งจัดทำและยื่นบัญชีตามข้อ ๑๐ ก่อนที่จะเริ่มทำการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองนั้น
ข้อมูลที่แจ้งตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยต้องระบุชนิด เพศ และอายุของสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว
ในกรณีที่สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองซึ่งได้มาตามวรรคหนึ่งยังไม่มีเครื่องหมาย หรือหลักฐานประจำตัวสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองจัดทำเครื่องหมายหรือหลักฐานประจำตัวสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด
ข้อ ๑๒ ให้ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองจัดทำเครื่องหมายหรือหลักฐานประจำตัวสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด
ข้อ ๑๓ ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต รวมทั้งต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผย ณ สถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง และต้องอำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
ข้อ ๑๔ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่าผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองใช้วิธีการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดใดไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้องตามวิธีการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดนั้น หรือละเลยไม่จัดหาสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองตามที่ได้รับอนุญาตชนิดใดเพื่อทำการเพาะพันธุ์ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตักเตือนผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อให้ปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ ถ้าผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รายงานต่ออธิบดีเพื่อมีคำสั่งให้ระงับการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดนั้น
ข้อ ๑๕ เมื่อผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองประสงค์จะเลิกดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองก่อนสิ้นอายุใบอนุญาต ให้แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๒ วรรคสาม ทราบล่วงหน้า และให้ส่งใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองคืนให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้แจ้งการเลิกดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง
ถ้าผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองประสงค์จะเลิกดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองบางชนิด ให้แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๒ วรรคสาม ทราบล่วงหน้า และให้นำใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองมาให้พนักงานเจ้าหน้าที่ขีดฆ่าชนิดของสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่จะเลิกดำเนินกิจการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้แจ้งการเลิกดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดนั้น
ข้อ ๑๖ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองเลิกดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าตามข้อ ๑๕ และไม่ประสงค์จะครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นต่อไป ให้ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าวดำเนินการจำหน่ายสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่มีอยู่ในครอบครองให้แก่ผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะ หรือจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ให้แก่ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองรายอื่น หรือผู้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ให้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ได้แจ้งการเลิกดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง
เมื่อสิ้นระยะเวลาตามวรรคหนึ่งแล้ว หากยังมีสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองเหลืออยู่ในความครอบครอง ให้สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นตกเป็นของแผ่นดิน และให้ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองซึ่งเลิกดำเนินกิจการส่งมอบสัตว์ป่านั้นให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๒ วรรคสาม เพื่อนำไปดำเนินการต่อไป
ข้อ ๑๗ คำขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง และบัญชีแสดงชนิดและจำนวนสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่มีอยู่เนื่องในการดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หมวด ๒
การค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจาก
ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์
ข้อ ๑๘ ผู้ใดประสงค์จะค้าสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กำหนดตามมาตรา ๑๗ ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์พร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอรับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์
ให้นำข้อ ๒ วรรคสาม และข้อ ๓ มาใช้บังคับกับการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ด้วยโดยอนุโลม
ข้อ ๑๙ ใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ให้ใช้แบบ สป. ๑๑ ท้ายกฎกระทรวงนี้ และให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันออกใบอนุญาต
ให้นำข้อ ๙ และข้อ ๑๓ มาใช้บังคับกับผู้รับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ด้วยโดยอนุโลม
เพื่อประโยชน์แห่งหมวดนี้ “ใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์” หมายความถึง ใบอนุญาตที่ออกให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กำหนดตามมาตรา ๑๗ ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ค้าซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์หรือผู้ขอรับใบอนุญาตให้ค้าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์
ข้อ ๒๐ ผู้รับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ให้ถือว่าได้รับอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้รับอนุญาตให้ค้า โดยชอบด้วยกฎหมาย
ข้อ ๒๑ ผู้รับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ต้องจัดทำบัญชีรับและจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว ตามรายละเอียดที่อธิบดีกำหนดและจัดทำบัญชีแสดงสถิติสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง เก็บรักษาไว้ ณ สถานที่ที่ใช้ดำเนินกิจการตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันที่รับหรือจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้
ข้อ ๒๒ เมื่อผู้รับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์จำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวให้แก่บุคคลใด ให้ผู้รับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ออกหนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองให้แก่บุคคลนั้นทุกครั้งที่มีการจำหน่าย เว้นแต่เป็นการจำหน่ายซากของสัตว์ป่าคุ้มครองเพื่อนำไปบริโภค
ข้อ ๒๓ ผู้รับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ผู้ใดประสงค์จะนำสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้า ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้าพร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอรับใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้า
ข้อ ๒๔ ใบอนุญาตให้นำ สัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้าให้ใช้แบบ สป. ๑๓ ท้ายกฎกระทรวงนี้ และให้มีอายุไม่เกินห้าวันนับแต่วันออกใบอนุญาต
เพื่อประโยชน์แห่งหมวดนี้ “ใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้า” หมายความถึง ใบอนุญาตที่ออกให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้า หรือผู้ขอรับใบอนุญาตให้นำซากของสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้า
ข้อ ๒๕ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้านำสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่ผ่านด่านตรวจสัตว์ป่า ให้ผู้รับใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้าแจ้งเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่านั้น
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่าได้ตรวจสอบความถูกต้องของใบอนุญาต และสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่จะนำเคลื่อนที่ผ่านแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่าอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่ผ่านด่านตรวจสัตว์ป่าได้ โดยแสดงการอนุญาตไว้ในใบอนุญาตนั้น
ข้อ ๒๖ คำขอรับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ คำขอรับใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้า บัญชีรับและจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง บัญชีแสดงสถิติสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หนังสือแจ้งการนำสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่ผ่านด่านตรวจสัตว์ป่า ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หมวด ๓
การครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์
ข้อ ๒๗ ผู้ใดประสงค์จะมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กำหนดตามมาตรา ๑๗ ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์พร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์
ให้นำข้อ ๒ วรรคสาม มาใช้บังคับกับการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ด้วยโดยอนุโลม
ข้อ ๒๘ ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ให้ใช้ แบบ สป. ๑๕ ท้ายกฎกระทรวงนี้ และให้มีอายุไม่เกินสามปีนับแต่วันออกใบอนุญาต
ให้นำข้อ ๙ และข้อ ๑๓ มาใช้บังคับกับผู้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ด้วยโดยอนุโลม
เพื่อประโยชน์แห่งหมวดนี้ “ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์” หมายความถึง ใบอนุญาตที่ออกให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ หรือผู้ขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์
ข้อ ๒๙ ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวไปจากจำนวนที่ได้รับอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๒ วรรคสาม ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดแจ้งการเปลี่ยนแปลงไว้ในใบอนุญาต
ถ้าการเปลี่ยนแปลงตามวรรคหนึ่งเกิดจากการสืบพันธุ์ของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองอยู่แล้ว ให้ผู้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นต่อไปได้ ในการนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดแจ้งจำนวนสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นไว้ในใบอนุญาต และให้ผู้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์จัดทำเครื่องหมายหรือหลักฐานประจำตัวสัตว์ป่าคุ้มครองตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด
ข้อ ๓๐ คำขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หมวด ๔
การต่ออายุใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต หรือการออกใบแทนใบอนุญาต
ให้เพาะพันธุ์ ให้ค้า ให้นำเคลื่อนที่ หรือให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่า
ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า
ข้อ ๓๑ ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ผู้รับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ผู้รับใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้าหรือผู้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ผู้ใดประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตพร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ
การอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตจะแสดงไว้ในรายการท้ายใบอนุญาต หรือจะออกใบอนุญาตตามแบบใบอนุญาตเดิมให้ใหม่ก็ได้
ข้อ ๓๒ ผู้ใดประสงค์จะรับโอนใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ หรือใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์จากผู้ได้รับใบอนุญาตดังกล่าวข้างต้น ให้ยื่นคำขอรับโอนใบอนุญาตพร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอรับโอนใบอนุญาต
การอนุญาตคำขอรับโอนใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตจดแจ้งการโอนไว้ในใบอนุญาตโดยให้ผู้โอนและผู้รับโอนใบอนุญาตลงลายมือชื่อไว้ในใบอนุญาตด้วย
ข้อ ๓๓ ผู้รับโอนใบอนุญาตตามข้อ ๓๒ ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้สำหรับการดำเนินกิจการที่ได้รับโอนใบอนุญาต และต้องมีความพร้อมเกี่ยวกับสถานที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะดำเนินกิจการที่ได้รับโอนใบอนุญาต
ข้อ ๓๔ ผู้รับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ผู้รับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ผู้รับใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้า หรือผู้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ผู้ใดประสงค์จะขอรับใบแทนใบอนุญาตตามข้อ ๖ ข้อ ๑๙ ข้อ ๒๔ และข้อ ๒๘ ซึ่งชำรุด เสียหาย หรือสูญหาย ให้ยื่นคำขอใบแทนใบอนุญาตพร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอใบแทนใบอนุญาต
การอนุญาตคำขอใบแทนใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตตามแบบใบอนุญาตเดิมโดยให้ระบุคำว่า “ใบแทน” ไว้ที่ด้านหน้าด้วย
ข้อ ๓๕ ให้นำข้อ ๒ วรรคสาม มาใช้บังคับกับการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตตามข้อ ๓๑ การยื่นคำขอรับโอนใบอนุญาตตามข้อ ๓๒ หรือการยื่นคำขอใบแทนใบอนุญาตตามข้อ ๓๔ ด้วยโดยอนุโลม
ข้อ ๓๖ คำขอต่ออายุใบอนุญาต คำขอรับโอนใบอนุญาต คำขอใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๓๗ ใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าที่ได้ออกไว้ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับให้ยังคงใช้ได้ต่อไปภายในกำหนดเวลาสามปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ
ใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าเคลื่อนที่เพื่อการค้าและใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ที่ได้ออกไว้ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้ได้ต่อไปภายในระยะเวลาที่ระบุไว้ในใบอนุญาต
ข้อ ๓๘ ให้ถือว่าการดำเนินการเพื่อขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่า ใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าเคลื่อนที่เพื่อการค้า และใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ เป็นการดำเนินการเพื่อขอรับใบอนุญาตตามกฎกระทรวงนี้
ข้อ ๓๙ บรรดาแบบคำขอรับใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่า แบบบัญชีแสดงชนิดและจำนวนสัตว์ป่าที่มีอยู่เนื่องในการดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า แบบคำขอรับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ แบบคำขอรับใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าเคลื่อนที่เพื่อการค้า แบบบัญชีรับและจำหน่ายสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า แบบบัญชีแสดงสถิติสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า แบบหนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่า แบบหนังสือแจ้งการนำสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่ผ่านด่านตรวจสัตว์ป่า แบบคำขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ แบบคำขอต่ออายุใบอนุญาต แบบคำขอรับโอนใบอนุญาต และแบบคำขอใบแทนใบอนุญาต ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้ยังคงใช้ได้ต่อไปจนกว่าอธิบดีจะดำเนินการตามข้อ ๑๗ ข้อ ๒๖ ข้อ ๓๐ และข้อ ๓๖
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑
ยงยุทธ ยุทธวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รักษาราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
[เอกสารแนบท้าย]
๑. ใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง (สป. ๙)
๒. ใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (สป. ๑๑)
๓. ใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้า (สป. ๑๓)
๔. ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (สป. ๑๕)
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และเนื่องจากมาตรา ๘ มาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ มาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ บัญญัติให้การขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๒๓ ก/หน้า ๖/๒๘ มกราคม ๒๕๕๑