กฎกระทรวง ฉบับที่ 28 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484

กฎกระทรวง

ฉบับที่ ๒๘ (พ.ศ. ๒๕๓๒)

ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้

พุทธศักราช ๒๔๘๔

---------------

 

                        อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖๘ จัตวา วรรคสอง แห่งพระราช

บัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม

พระราชบัญญัติป่าไม้  พุทธศักราช  ๒๔๘๔  พ.ศ. ๒๕๓๒ และมาตรา ๗๕ แห่ง

พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

                        ข้อ ๑  ผู้รับสัมปทานซึ่งประสงค์จะพิสูจน์ว่าไม้ใดที่มีอยู่ในเขตพื้นที่

ตามสัมปทานที่รัฐมนตรีมีคำสั่งตามมาตรา ๖๘ ทวิ หรือที่สิทธิการทำกิจการที่ได้รับ

สัมปทานสิ้นสุดลงตามมาตรา ๖๘ ตรี หรือตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกำหนดแก้ไข

เพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช  ๒๔๘๔  พ.ศ. ๒๕๓๒ หรือในกรณีที่

สัมปทานสิ้นสุดลงเนื่องจากทางราชการได้ใช้สิทธิเพิกถอนสัมปทานเพราะเหตุที่ผู้รับ

สัมปทานไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่กำหนดในสัมปทาน เป็นไม้ที่ตนได้ทำ

ไม้โดยถูกต้องตามกฎหมาย ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กำหนดในสัมปทานที่ต้องสิ้นสุด

ลง ให้ยื่นคำขอพิสูจน์ตามแบบคำขอท้ายกฎกระทรวงนี้ต่อรัฐมนตรี โดยจัดทำ

                        (๑) บัญชีรายการไม้ที่ขอพิสูจน์ โดยแสดงชนิดไม้ ขนาดยาวและ

ขนาดโตของไม้แต่ละรายการ บริเวณที่ตั้งของไม้ พร้อมทั้งมีหมายเหตุระบุรายละเอียด

เกี่ยวกับสภาพการทำไม้แต่ละรายการตามสมควร เช่น เป็นไม้ที่ได้ตัดทอนเป็นท่อน

แล้วหรือไม่ หรือเป็นไม้ที่ได้ประทับตราชักลากแล้วหรือไม่ เป็นต้น

                        ขนาดโตของไม้ ให้วัดโดยรอบลำต้น ณ จุดกึ่งกลางของท่อนหรือใน

กรณีไม้ที่ยังมิได้ตัดทอนเป็นท่อน ให้วัด ณ จุดตรงที่ห่างจากหน้าตัดด้านโคน ๘๐

เซนติเมตร

                        (๒) แผนที่สังเขป แสดงบริเวณตำแหน่งที่ตั้งของไม้ที่ขอพิสูจน์โดย

ประมาณ พร้อมทั้งระบุจำนวนไม้ที่ขอพิสูจน์ในแต่ละบริเวณ

                        (๓) บัญชีรายการพยานหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องอันจำเป็นที่

จะอ้างเป็นหลักฐานเพื่อการพิสูจน์ พร้อมทั้งให้แนบสำเนาเอกสารหลักฐานที่อยู่ใน

ความครอบครองของผู้รับสัมปทานมาด้วย

                        การยื่นคำขอต่อรัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง ให้ยื่นผ่านพนักงานเจ้าหน้าที่

ตำแหน่งป่าไม้เขตแห่งท้องที่ที่สัมปทานนั้นอยู่ในเขตอำนาจ และเมื่อพนักงานเจ้าหน้า

ที่ดังกล่าวได้รับคำขอพิสูจน์แล้ว ให้ออกใบรับคำขอพิสูจน์ให้แก่ผู้รับสัมปทานไว้เป็น

หลักฐาน

                        ข้อ ๒  ผู้รับสัมปทานจะต้องชี้แจงอธิบายเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าไม้ที่ได้

ตัดโค่นไว้แล้วตามที่ปรากฏในบัญชีรายการไม้ที่ตนขอพิสูจน์นั้น

                        (๑) เป็นไม้ที่เจ้าหน้าที่ได้ประทับตราอนุญาตให้ตัดโค่นไว้แล้ว

                        (๒) เป็นไม้ที่ได้ทำไม้จากตอนหรือแปลงที่ผู้รับสัมปทานมีสิทธิทำไม้

ได้ตามบัญชีไม้เลือกที่กรมป่าไม้ได้ส่งมอบให้ และได้ชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าตอบ

แทนรายต้นสำหรับไม้นั้นแล้วก่อนทำการตัดโค่น

                        (๓) เป็นไม้ที่ได้ทำไม้ภายในระยะเวลาที่กรมป่าไม้ได้กำหนดไว้

สำหรับการทำไม้ในแต่ละตอนหรือแปลงนั้น และ

                        (๔) เป็นไม้ที่ตนได้ตัดโค่นลงไว้ก่อนวันที่การสั่งการของรัฐมนตรีตาม

มาตรา ๖๘ ทวิ มีผลใช้บังคับ หรือก่อนวันที่สิทธิการทำกิจการที่ได้รับสัมปทานสิ้นสุด

ลงตามมาตรา ๖๘ ตรี หรือตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราช

บัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ พ.ศ. ๒๕๓๒ หรือก่อนวันที่สัมปทานถูกทางราชการ

สั่งเพิกถอนเพราะเหตุที่ผู้รับสัมปทานไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่กำหนดใน

สัมปทานในกรณีที่ผู้รับสัมปทานไม่อาจหาพยานหลักฐานเพื่อยืนยันได้ว่า ไม้ที่ตนได้

ตัดโค่นลงไว้นั้นได้กระทำก่อนวันดังกล่าวข้างต้น ให้ผู้รับสัมปทานหมายเหตุในบัญชี

รายการไม้โดยให้คำรับรองว่าตนได้ตัดโค่นไม้ก่อนวันดังกล่าว

                        ในการชี้แจงอธิบายเพื่อพิสูจน์ไม้ที่ได้มีการประทับตราชักลากไว้แล้ว

แต่ยังมิได้ทำการชักลาก หรือเป็นไม้ที่อยู่ในระหว่างการชักลากหรือไม้ที่อยู่ ณ สถานที่

รวมหมอนไม้นอกจากจะต้องพิสูจน์ตาม (๑) ถึง (๔) แล้ว ผู้รับสัมปทานจะต้องชี้แจง

อธิบายด้วยว่า ไม้ดังกล่าวเป็นไม้ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ประทับตราอนุญาตให้ชักลาก

ตรงตามบัญชีชักลากไม้และหรือได้ทำการชักลากตามแนวทางชักลากไม้ที่ได้รับอนุญาต

เพื่อมารวมไว้ ณ สถานที่รวมหมอนไม้ที่ได้รับอนุญาต

                        ในการชี้แจงอธิบายตามข้อนี้ ผู้รับสัมปทานต้องอ้างอิงพยานหลักฐาน

และเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อพิสูจน์ถึงความถูกต้องของข้อความที่ตนชี้แจงอธิบาย และ

ในกรณีที่เป็นการอ้างอิงถึงพยานหลักฐานและเอกสารตามที่ได้ระบุไว้ในบัญชีรายการ

พยานหลักฐานและเอกสารตาม ข้อ ๑ (๓) ก็ให้ผู้รับสัมปทานระบุอ้างอิงถึงเลขหมาย

รายการของพยานหลักฐานและเอกสารตามที่ปรากฏในบัญชีรายการดังกล่าวด้วย

                        ข้อ ๓  ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งหรือหลายคณะ

ตามความจำเป็น เพื่อทำหน้าที่พิจารณาการดำเนินการตรวจสอบคำชี้แจงอธิบายเพื่อ

พิสูจน์การทำไม้ของผู้รับสัมปทานตามข้อ ๒

                        คณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ให้มีจำนวนกรรมการคณะละไม่น้อย

กว่าห้าคน โดยให้มีข้าราชการจากราชการส่วนกลางหรือส่วนราชการอื่นซึ่งมิใช่

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นกรรมการด้วย

                        วิธีการพิจารณาและการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการนอกเหนือจาก

ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กำหนด

ข้อ ๔  ให้คณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบคำชี้แจงอธิบายของผู้รับ

สัมปทานพร้อมด้วยพยานหลักฐานและเอกสารต่าง ๆ และทำการตรวจสอบความถูก

ต้องโดยเปรียบเทียบกับบันทึกรายงานการสำรวจสภาพการทำไม้และการสำรวจไม้ที่

พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นตามมาตรา ๖๘ เบญจ

                        ให้คณะกรรมการมีอำนาจเรียกผู้รับสัมปทานหรือพยานที่ผู้รับ

สัมปทานอ้างอิงมาชี้แจงอธิบาย ให้ถ้อยคำ หรือเรียกให้ผู้รับสัมปทานหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง

จัดส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมได้ตามความจำเป็น

                        ในกรณีที่ผู้รับสัมปทานหรือพยานหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่มาชี้แจง

อธิบายให้ถ้อยคำ หรือไม่จัดส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมตามคำสั่งของคณะกรรมการ

ให้คณะกรรมการดำเนินการพิจารณาเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีต่อไปได้ โดยให้จด

แจ้งหมายเหตุการที่ผู้รับสัมปทาน พยานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่ง

ของคณะกรรมการไว้บันทึกรายงานของคณะกรรมการตามข้อ ๕ ด้วย

                        การดำเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง คณะกรรมการจะต้อง

ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอพิสูจน์ตามข้อ ๑ เว้นแต่

ในกรณีจำเป็นที่ต้องทำการตรวจสอบหลักฐานการทำไม้ในพื้นที่ทำไม้ ก็ให้ขยายระยะ

เวลาการดำเนินการออกไปได้เท่าที่จำเป็น ทั้งนี้โดยได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีหรือผู้ที่

รัฐมนตรีมอบหมาย

                        ข้อ ๕  เมื่อคณะกรรมการได้ดำเนินการตามข้อ ๔ เสร็จแล้ว ให้ทำ

บันทึกรายงานเสนอต่อรัฐมนตรีเพื่อสั่งการ โดยให้แสดงความเห็นไว้ในบันทึกรายงาน

ด้วยว่า ไม้ที่ผู้รับสัมปทานยื่นขอพิสูจน์ ชนิดใด จำนวนเท่าใด อยู่ ณ ที่ใด เป็นไม้ที่ได้

ทำไม้โดยถูกต้องหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กำหนดใน

สัมปทาน พร้อมทั้งแสดงรายละเอียดตามสมควรและชี้แจงเหตุผลในการพิจารณาให้

ความเห็นไว้ด้วย

                        ข้อ ๖  เมื่อได้รับรายงานการพิจารณาของคณะกรรมการแล้ว ให้รัฐ

มนตรีพิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควร แต่ในกรณีสั่งไม่เห็นด้วยกับความเห็นของ

คณะกรรมการให้รัฐมนตรีแสดงเหตุผลกำกับไว้ในการสั่งการนั้นด้วย

                        ให้แจ้งผลการสั่งการของรัฐมนตรีให้ผู้รับสัมปทานทราบโดยเร็วและ

ให้อธิบดีกรมป่าไม้แจ้งให้ผู้รับสัมปทานทำการชักลากและนำไม้เคลื่อนที่ตามมาตรา

๖๘ เบญจ วรรคสามต่อไป ทั้งนี้ เฉพาะในส่วนของไม้ที่รัฐมนตรีได้สั่งการว่าเป็นไม้ที่ผู้

รับสัมปทานได้ทำไม้โดยถูกต้องตามกฎหมาย ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กำหนดใน

สัมปทานก่อนวันที่สิทธิตามสัมปทานสิ้นสุดลง

 

                                                            ให้ไว้ ณ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๒

                                                                        พันโท สนั่น ขจรประศาสน์

                                                       รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

[ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย]

 

+--------------------------------------------------------------------------------------------+

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๖๘ จัตวา

วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย

พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ พ.ศ. ๒๕๓๒

ได้กำหนดให้การยื่นคำขอพิสูจน์ การพิสูจน์ การพิจารณาและการสั่งการของรัฐมนตรี

ในกรณีผู้รับสัมปทานที่ประสงค์จะพิสูจน์เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิหรือกรรมสิทธิ์ในไม้ซึ่งตน

ได้มาจากการทำไม้ตามสัมปทานที่รัฐมนตรีมีคำสั่งตามมาตรา ๖๘ ทวิ หรือที่สิทธิการ

ทำกิจการที่ได้รับสัมปทานสิ้นสุดลงตามมาตรา ๖๘ ตรี หรือตามมาตรา ๔

แห่งพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔

พ.ศ. ๒๕๓๒ หรือในกรณีที่สัมปทานสิ้นสุดลง เนื่องจากทางราชการได้ใช้สิทธิเพิกถอน

สัมปทานเพราะเหตุที่ผู้รับสัมปทานไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่กำหนดใน

สัมปทาน ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงจึงจำ

เป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

 

[รก.๒๕๓๒/๒๓/๑๐พ/๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒]