ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2521) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในทางวิชาการสำหรับการใช้น้ำบาดาลแบบอนุรักษ์ (ฉบับ Update ล่าสุด)
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๒๑)
ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในทางวิชาการ
สำหรับการใช้น้ำบาดาลแบบอนุรักษ์[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ (๑) แห่งพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยคำแนะนำของคณะกรรมการน้ำบาดาล ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในทางวิชาการสำหรับการใช้น้ำบาดาลแบบอนุรักษ์ไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ การนำน้ำบาดาลขึ้นมาใช้
(๑) น้ำจากบ่อน้ำบาดาลต้องนำขึ้นมาใช้โดยวิธีการสูบน้ำ เว้นแต่น้ำบาดาลจะพุขึ้นมาจากบ่อน้ำบาดาลเองโดยธรรมชาติ
(๒) น้ำบาดาลที่พุขึ้นมาจากบ่อน้ำบาดาลเองโดยธรรมชาติให้นำไปใช้โดยวิธีการต่อท่อให้น้ำไหลออกไปจากบ่อน้ำบาดาล
(๓) การนำน้ำบาดาลจากบ่อน้ำบาดาลมาใช้ไม่ว่าโดยวิธีการใดและเพื่อกิจการใดน้ำบาดาลจะต้องมีปริมาณไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล
(๔) ต้องใช้น้ำบาดาลในกิจการที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลเท่านั้น
(๕) การใช้น้ำบาดาลของส่วนราชการหรือองค์การของรัฐที่ได้รับการยกเว้นตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ ให้ทำความตกลงกับอธิบดีกรมทรัพยากรธรณีเกี่ยวกับปริมาณน้ำบาดาลที่จะนำขึ้นมาใช้เป็นรายบ่อไป
ข้อ ๒[๒] การสูบน้ำบาดาล
(๑) บ่อน้ำบาดาลจะต้องมีเครื่องวัดปริมาณน้ำประจำบ่อน้ำบาดาลทุกบ่อ เว้นแต่คณะกรรมการน้ำบาดาลจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
(๒) ในกรณีที่ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำ ให้กรอกรายการในรายงานการใช้น้ำบาดาลตามแบบที่กรมทรัพยากรธรณีกำหนด แล้วส่งรายงานดังกล่าวให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ ภายในวันที่ ๗ ของเดือนถัดไป
(๓) บ่อน้ำบาดาลที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ ๒๐๐ มิลลิเมตรขึ้นไป ต้องมีช่องที่ปากบ่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า ๒๕ มิลลิเมตร พร้อมฝาปิดเปิดได้ สำหรับตรวจวัดระดับน้ำในบ่อ
(๔) ต้องวัดระดับน้ำในบ่อน้ำบาดาล แล้วแจ้งผลการวัดระดับน้ำและส่งตัวอย่างน้ำซึ่งเก็บจากบ่อน้ำบาดาลตามวิธีการที่กรมทรัพยากรธรณีกำหนด ให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่
ข้อ ๓[๓] เครื่องวัดปริมาณน้ำ
(๑) เครื่องวัดปริมาณน้ำที่ใช้ติดตั้งกับบ่อน้ำบาดาลต้องเป็นมาตรวัดน้ำชนิดขับเคลื่อนตัวเลขต้องระบบแม่เหล็ก ได้รับการรับรองจากกระทรวงพาณิชย์ และได้รับการทดสอบความเที่ยงตรงจากสถาบันที่กรมทรัพยากรธรณีเห็นชอบ มีลักษณะดังนี้
ก. อ่านปริมาณน้ำสะสมด้วยระบบตัวเลขเป็นลูกบาศก์เมตร
ข. ตัวเลขวัดปริมาณน้ำบนหน้าปัดสามารถบันทึกได้ไม่น้อยกว่าห้าหลักโดยไม่นับทศนิยม และอยู่ในแนวเดียวกัน
ค. ไม่มีปุ่มหรือกลไกอื่นใดที่สามารถปรับตัวเลขได้จากภายนอก
(๒) เครื่องวัดปริมาณน้ำชนิดอื่นต้องเป็นชนิดที่คณะกรรมการน้ำบาดาลเห็นชอบ
ข้อ ๔[๔] การติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำประจำบ่อน้ำบาดาล
(๑) ต้องติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำประจำบ่อน้ำบาดาลแต่ละบ่อให้อยู่ในแนวราบเหนือระดับผิวดินพอควร ตั้งอยู่ในที่ที่สะดวกและปลอดภัยในการอ่านและตรวจสอบ
(๒) ตำแหน่งของเครื่องวัดปริมาณน้ำต้องอยู่ห่างจากบ่อน้ำบาดาลไม่เกิน ๑๐ เมตร และอยู่หน้าท่อระบายน้ำทิ้ง เครื่องปรับปรุงคุณภาพน้ำ ถังพักน้ำ หรือหอถัง
(๓) ท่อส่งน้ำระหว่างบ่อน้ำบาดาลกับเครื่องวัดปริมาณน้ำต้องอยู่เหนือระดับผิวดินและไม่มีท่อแยกใด ๆ
ข้อ ๕[๕] การซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่องวัดปริมาณน้ำ
(๑) เมื่อเครื่องวัดปริมาณน้ำชำรุด หรือทำงานไม่เที่ยงตรง ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ทันที และต้องซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่องวัดปริมาณน้ำให้ใช้การได้ ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่แจ้งให้พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ทราบ
(๒) ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า เครื่องวัดปริมาณน้ำชำรุดหรือทำงานไม่เที่ยงตรง และได้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลทราบแล้ว ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลต้องซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่องวัดปริมาณน้ำให้ใช้การได้ ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อ ๖[๖] เมื่อติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำใหม่ หรือซ่อม หรือเปลี่ยนเครื่องวัดปริมาณน้ำแล้ว ต้องนำพนักงานเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องวัดปริมาณน้ำและการติดตั้ง พร้อมทั้งผนึกตราประทับของกรมทรัพยากรธรณีติดไว้กับเครื่องวัดปริมาณน้ำนั้น
ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๒๑
เกษม จาติกวณิช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในทางวิชาการสำหรับใช้น้ำบาดาลแบบอนุรักษ์[๗]
ปาจรีย์/ผู้จัดทำ
๑๗ มกราคม ๒๕๕๐
ปริญสินีย์/ปรับปรุง
๒๖ เมษายน ๒๕๕๖
- [๑] ราชกิจจานุเบกษา.เล่ม ๙๕/ตอนที่ ๖๖/หน้า ๑๙๘๓/๒๗ มิถุนายน ๒๕๒๑
- [๒] ข้อ ๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในทางวิชาการสำหรับใช้น้ำบาดาลแบบอนุรักษ์
- [๓] ข้อ ๓ เพิ่มโดยประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในทางวิชาการสำหรับใช้น้ำบาดาลแบบอนุรักษ์
- [๔] ข้อ ๔ เพิ่มโดยประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในทางวิชาการสำหรับใช้น้ำบาดาลแบบอนุรักษ์
- [๕] ข้อ ๕ เพิ่มโดยประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในทางวิชาการสำหรับใช้น้ำบาดาลแบบอนุรักษ์
- [๖] ข้อ ๖ เพิ่มโดยประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. ๒๕๒๐ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในทางวิชาการสำหรับใช้น้ำบาดาลแบบอนุรักษ์
- [๗] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๒/ตอนที่ ๙๕/ฉบับพิเศษ หน้า ๒๘/๒๕ กรกฎาคม ๒๕๒๘