พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผู้มีอาชีพในการประมง การค้าสินค้าสัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมสัตว์น้ำมาจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติการประมงพ.ศ. ๒๔๙๐ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๐
พระราชกฤษฎีกา
กำหนดให้ผู้มีอาชีพในการประมง
การค้าสินค้าสัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ
มาจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติการประมง
พ.ศ. ๒๔๙๐ (ฉบับที่ ๖)
พ.ศ. ๒๕๕๐
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
เป็นปีที่ ๖๒ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผู้มีอาชีพในการประมง การค้าสินค้าสัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ มาจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๐ พ.ศ. ๒๔๙๐
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ และมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผู้มีอาชีพในการประมง การค้าสินค้าสัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ มาจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๐ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๐”
มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๑๗) ของมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผู้มีอาชีพในการประมง การค้าสินค้าสัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ มาจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๐ พ.ศ. ๒๔๙๐
“(๑๗) ผู้ทำการประมงด้วยเครื่องมือลอบทุกชนิด”
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้ผู้ทำการประมงด้วยเครื่องมือลอบทุกชนิด เป็นผู้มีอาชีพในการประมง การค้าสินค้าสัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ ที่จะต้องมาจดทะเบียนและขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อได้มีประกาศกำหนดของรัฐมนตรี ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบจำนวนการใช้เครื่องมือลอบและเพื่อกำหนดมาตรการในการควบคุมเครื่องมือลอบให้มีจำนวนที่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
วัชศักดิ์/ผู้จัดทำ
๑ มีนาคม ๒๕๕๐
จุฑามาศ/ปรับปรุง
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๔/ตอนที่ ๑๒ ก/หน้า ๒๕/๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐