พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530
ตราพระบรมราชโองการ
พระราชกฤษฎีกา
กำหนดไม้หวงห้าม
พ.ศ. 2530
----------
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2530
เป็นปีที่ 42 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศ
ว่า
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดไม้หวงห้ามเสียใหม่ ให้เหมาะสม
กับสภาพการณ์ในปัจจุบัน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 7 แห่ง
พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2518
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า `พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530'
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิก
(1) พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505
(2) พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2510
(3) พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2517
(4) พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2517
(5) พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2520
มาตรา 4 ให้ไม้บางชนิดในป่า ในท้องที่ทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรตามที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายพระราช
กฤษฎีกานี้ เป็นไม้หวงห้ามตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484
มาตรา 5 การเปลี่ยนแปลงประเภทไม้หวงห้ามโดยผลแห่งบทบัญญัติตามพระราชกฤษฎีกานี้ไม่กระทบ
กระเทือนการอนุญาตให้ทำไม้ในแปลงหนึ่งแปลงใดในพื้นที่ป่าสัมปทานก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
หรือใบอนุญาตทำไม้ที่ได้ออกให้ไว้ก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ให้คงใช้ได้ไปเท่ากำหนดเวลาการ
อนุญาตหรืออายุใบอนุญาตแล้วแต่กรณี
มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พิชัย รัตตกุล
รองนายกรัฐมนตรี
บัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดไม่หวงห้าม พ.ศ.2530
หมายเหตุ:-เหตุผลโดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดไม้หวงห้ามเสียใหม่
ให้ใช้บังคับในท้องที่ทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักร เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการ
ควบคุมไม้หวงห้ามไม่สับสนยุ่งยากและได้ผลดียิ่งขึ้น ประกอบกับในปัจจุบันไม้บางชนิดที่มิได้กำหนดเป็นไม้
หวงห้ามมาก่อนกลับเป็นไม้มีค่ายากและนิคมนำออกโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของพันธุ์ไม้ ดังนั้น เพื่อ
มิให้ไม้ชนิดดีมีค่าหายากเป็นอันตรายหรือสูญสิ้นไปสมควรกำหนดให้ไม้บางชนิดเป็นไม้หวงห้ามรวมทั้งเปลี่ยน
แปลงประเภทไม้หวงห้ามบางชนิดที่ได้กำหนดไว้แล้วเสียใหม่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน
จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้