ระเบียบการประปานครหลวง ฉบับที่ 59 ว่าด้วย ข้อห้ามและข้อปฏิบัติสำหรับผู้ใช้น้ำ พ.ศ. 2554

ระเบียบการประปานครหลวง

ฉบับที่ ๕๙

ว่าด้วย ข้อห้ามและข้อปฏิบัติสำหรับผู้ใช้น้ำ

พ.ศ. ๒๕๕๔[๑]

                  

                เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดแก่ระบบส่งจำหน่ายน้ำประปาอันเป็นสาธารณประโยชน์หรือป้องกันอันตรายแก่สุขภาพอนามัยของประชาชนส่วนรวม อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๕ ประกอบกับข้อ ๒๓ ของข้อบังคับการประปานครหลวง ฉบับที่ ๑๑๖ ว่าด้วย การบริการจัดส่ง จำหน่ายและการใช้น้ำประปา พ.ศ. ๒๕๔๓ จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑  ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบการประปานครหลวง ฉบับที่ ๕๙ ว่าด้วย ข้อห้ามและข้อปฏิบัติสำหรับผู้ใช้น้ำ พ.ศ. ๒๕๕๔”

ข้อ ๒  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป

ข้อ ๓  ให้รองผู้ว่าการ (บริการ) รักษาการตามระเบียบนี้และให้มีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเพื่อดำเนินการตามระเบียบนี้

ข้อ ๔  ห้ามผู้ใช้น้ำดำเนินการดังต่อไปนี้

๔.๑ ต่อท่อที่รับน้ำประปาจากการประปานครหลวงเข้ากับท่อน้ำที่มิใช่น้ำจากแหล่งผลิตของการประปานครหลวง

๔.๒ ต่อท่อประปาจากประตูระบายอากาศ (AIR RELEASE VALVE)

๔.๓ ติดตั้งท่อที่รับน้ำประปาจากการประปานครหลวงหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ในตำแหน่งที่อาจจะจมในน้ำโสโครกหรือของเหลวอื่นใด

๔.๔ ต่อท่อประปาโดยตรงเข้ากับเครื่องสุขภัณฑ์และเครื่องใช้ดังนี้

๔.๔.๑ โถส้วม

๔.๔.๒ โต๊ะผ่าตัดหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ประเภทเดียวกัน

๔.๔.๓ เครื่องฆ่าเชื้อโรค เครื่องมือกาลักน้ำ ถังเก็บน้ำยาเคมีและอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน

๔.๕ ใช้เครื่องสูบน้ำ สูบน้ำโดยตรงจากท่อที่รับน้ำประปาจากการประปานครหลวง

๔.๖ ติดตั้งท่อที่รับน้ำประปาจากการประปานครหลวงในช่องลิฟท์ (LIFT) หรือภายใต้น้ำหนักถ่วงของลิฟท์ (LIFT)

ข้อ ๕  ผู้ใช้น้ำจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้

๕.๑ ท่อที่รับน้ำประปาจากการประปานครหลวงที่ติดตั้งผ่านสิ่งกัดกร่อน จะต้องมีการป้องกันโดยการเคลือบหรือหุ้มด้วยวัสดุที่มีความต้านทานการกัดกร่อนนั้น

                  ๕.๒ ท่อที่รับน้ำประปาจากการประปานครหลวงที่วางลอดหรือผ่านทะลุกำแพงรับน้ำหนักหรือฐานรากจะต้องมีการป้องกันการแตกโดยการใช้ปลอกร้อยท่อที่มีขนาดใหญ่กว่าไม่น้อยกว่า ๒ เท่า

                  ๕.๓ กรณีมีความจำเป็นต้องต่อท่อที่รับน้ำประปาจากการประปานครหลวงกับเครื่องสุขภัณฑ์ที่มีที่รองรับน้ำ ปลายเปิดของท่อหรือก๊อกจ่ายน้ำจะต้องอยู่สูงกว่าระดับน้ำสูงสุดในที่รองรับน้ำนั้นและมีช่องว่างเหนือระดับน้ำสูงสุดไม่น้อยกว่า ๓ เท่า ของเส้นผ่าศูนย์กลางท่อ

                 กรณีมีความจำเป็นต้องต่อท่อเข้ากับเครื่องสุขภัณฑ์ในระดับที่ต่ำกว่าระดับน้ำสูงสุดในที่รองรับน้ำจะต้องมีประตูระบายอากาศ (AIR RELEASE VALVE) ขนาดเท่ากับท่อน้ำติดตั้งอยู่บนเส้นท่อและจะต้องอยู่สูงกว่าระดับน้ำสูงสุดในที่รองรับน้ำไม่ต่ำกว่า ๑๐ เซ็นติเมตร

                  ข้อ ๖  หากผู้ใช้น้ำฝ่าฝืนข้อห้ามข้อหนึ่งข้อใดตามข้อ ๔ หรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติข้อหนึ่งข้อใดตามข้อ ๕ การประปานครหลวงสงวนสิทธิ์ที่จะงดจ่ายน้ำตามระยะเวลาที่การประปานครหลวงเห็นสมควร

ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔

เจริญ  ภัสระ

ผู้ว่าการการประปานครหลวง

ปริยานุช/ผู้จัดทำ

๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔

ปณตภร/ผู้ตรวจ

๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔

[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๘/ตอนพิเศษ ๑๓๓ ง/หน้า ๒๓/๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔