ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่าด้วยการให้เกษตรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2522
ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน
เพื่อเกษตรกรรม
ว่าด้วย
การให้เกษตรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูป
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน
(ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2522
----------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 (8) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.
2518 คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ออกระเบียบไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า `ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่าด้วยการให้
เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำ
ประโยชน์ในที่ดิน (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2522'
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 เป็นต้นไป
ข้อ 3 ในระเบียบนี้
`เกษตรกร' หมายความว่า เกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และ
เป็นผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
`สถาบันเกษตรกร' หมายความว่า สถาบันเกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม และเป็นผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
`หนังสืออนุญาต' หมายความว่า หนังสือที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมออกให้เพื่อ
อนุญาตให้เกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน
`การอนุรักษ์ดินและน้ำ' หมายความว่า การจัดการและวิธีการใช้ที่ดิน และน้ำ ซึ่งเป็น
ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประสิทธิภาพสูงและนานที่สุด โดยวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสีย หรือ
เสื่อมสภาพของดินและน้ำ อันเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือจากการกระทำของมนุษย์
`คณะกรรมการ' หมายความว่า คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
`เลขาธิการ' หมายความว่า เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
`พนักงานเจ้าหน้าที่' หมายความว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม
หมวด 1
การรับมอบที่ดิน
-----------
ข้อ 4 เมื่อได้คัดเลือกและจัดแปลงที่ดินให้เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่
ดินตามระเบียบคณะกรรมการ เกี่ยวกับการคัดเลือกเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรแล้ว ให้ปฏิรูปที่ดิน
จังหวัดมีหนังสือแจ้งกำหนดวันนำชี้เขตและรับมอบที่ดินไปยังผู้ได้รับการคัดเลือก ซึ่งมีสิทธิได้รับที่ดินจาก
การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
ข้อ 5 เมื่อผู้ได้รับการคัดเลือกมาแสดงตนตามวันเวลาที่กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนัก
งานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดตรวจสอบหลักฐานว่า เป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจริงหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูก
ต้องแล้วให้นำชี้แนวเขตแปลงที่ดินที่จัดให้ และให้ผู้ได้รับการลัดเลือกลงลายมือชื่อรับมอบที่ดินไว้เป็น
หลักฐานกับทำสัญญาเช่าหรือสัญญาเช่าซื้อที่ดินนั้นกับ ส.ป.ก.
ถ้าผู้ได้รับการคัดเลือกไม่มาแสดงตนเพื่อขอรับมอบที่ดินตามวันเวลาที่กำหนดโดยไม่มีเหตุอัน
สมควร และไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดทราบ หรือมาแสดงตนแต่ไม่ยอมลงลายมือชื่อรับ
มอบที่ดินหรือไม่ยอมทำสัญญาเช่าหรือสัญญาเช่าซื้อที่ดินนั้น ให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดจัดที่ดินนั้น
ให้แก่ผู้ได้รับการคัดเลือกผู้อื่นต่อไป
หมวด 2
การเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน
--------------------
ข้อ 6 เมื่อผู้ได้รับการเลือกลงลายมือชื่อรับมอบที่ดิน และทำสัญญาเช่าหรือสัญญาเช่าซื้อที่ดินนี้
ตามความในข้อ 5 วรรคหนึ่งแล้วผู้นั้นต้องเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่ได้รับอนุญาตด้วยตนเอง ภายใน
ระยะเวลาที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกำหนด และให้เลขาธิการหรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมายออก
หนังสืออนุญาตตามแบบที่กำหนดท้ายระเบียบนี้เพื่อเป็นหลักฐาน ให้แก่ผู้รับมอบที่ดินโดยไม่ชักช้า
ถ้าเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรไม่เริ่มเข้าทำประโยชน์ภายในระยะเวลาที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง หากปรากฏว่าการไม่เข้าทำประโยชน์นั้นมีเหตุอัน
สมควร ให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิจารณาอนุญาตให้ขยายระยะเวลาเข้าทำประโยชน์ได้ตามควรแก่กรณี
แต่ต้องไม่เกิน 2 เดือน นับแต่วันที่มีคำสั่งอนุญาตแล้วรายงานให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดและ
เลขาธิการเพื่อทราบแต่ถ้าปรากฏว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดออกหนังสือเตือนให้ผู้นั้น
เข้าทำประโยชน์ในที่ดินภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องไม่เกิน 1 เดือนนับแต่วันที่ได้รับคำเตือน เมื่อ
พ้นกำหนดเวลาดังกล่าว ถ้าไม่มีการปฏิบัติตามคำเตือนให้เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรหมดสิทธิใน
การเข้าทำประโยชน์ในที่ดินนั้น และให้เลขาธิการ หรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย แจ้งการสิ้นผลใช้
บังคับของสัญญาเช่า หรือสัญญาเช่าซื้อแล้วแต่กรณี ให้ผู้นั้นทราบ และสังเพิกถอนสิทธิในการเข้าทำ
ประโยชน์ในที่ดินนั้นเสีย และให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดจัดที่ดินนั้นให้แก่ผู้ได้รับการคัดเลือกผู้อื่นต่อไป
ข้อ 7 ในปีแรกเกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรต้องทำประโยชน์ในที่ดินให้เสร็จตามจำนวนเนื้อ
ที่ที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกำหนดและต้องทำให้แล้วเสร็จเต็มตามพื้นที่ที่ได้รับมอบภายใน 3 ปี
ข้อ 8 เกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจะต้องเป็นสมาชิก
ของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการปฏิรูปที่ดินตามที่ ส.ป.ก. จัดให้มีขึ้น
ข้อ 9 เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกร ผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินต้องใช้ที่ดิน
ตามโครงการปฏิรูปที่ดิน และตามแผนการผลิตและการจำหน่ายที่คณะกรรมการกำหนด แต่ถ้าแผน
การผลิตและการจำหน่ายยังมิได้กำหนด ก็ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมทั้งให้มีหน้า
ที่ต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) จัดให้มีแนวแสดงเขตที่ดินซึ่งสามารถชี้แนวเขตได้แน่นอนและคงทน ทั้งไม่เป็น
การก่อให้เกิดหรือน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้ครอบครองที่ดินข้างเคียง
(2) จัดให้มีการอนุรักษ์ดินและน้ำตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่
(3) จัดให้มีการปรับปรุงบำรุงดินตามคำแนะนำของพนักงานเจ้าหน้าที่
(4) ไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นการทำให้ที่ดินเสื่อมสภาพความเหมาะสมแก่การ
ประกอบเกษตรกรรม
(5) แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบโดยไม่ชักช้าเมื่อมีภัยใด ๆ เกิดขึ้นอันก่อให้เกิด
ความเสียหายแก่ที่ดิน จนถึงขนาดทำให้ที่ดินเสื่อมสภาพความเหมาะสมที่จะใช้ในการประกอบ
เกษตรกรรม
(6) ทำการบำรุงรักษาสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในเขตปฏิรูปที่ดินตามระเบียบที่คณะ
กรรมการกำหนด
(7) ไม่ดำเนินการใด ๆ ในทางที่ก่อให้เกิดปัญหาหรืออุปสรรค หรือความเสียหายต่อ
การดำเนินงานตามโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
(8) ไม่นำที่ดินที่ได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไม่ว่าทั้งหมด หรือ
บางส่วนไปให้บุคคลอื่น ๆ เข้าทำประโยชน์
(9) ปฏิบัติการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกำหนด
ข้อ 10 ให้เกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากที่ดิน หรือสิ่งสาธารณูปโภค
ต่าง ๆ ตามโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมชำระค่าเช่า หรือค่าเช่าซื้อ หรือค่าตอบแทน หรือค่า
บริการอื่นใดตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
ข้อ 11 เกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเจ้าหน้าที่ เกี่ยว
กับการประกอบเกษตรกรรม หรือกิจการอื่นตามโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือแผนการ
ผลิตและการจำหน่ายผลิตผลเกษตรกรรม
ถ้าเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้ใด ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามวรรคหนึ่งจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่นหรือกระทบกระเทือนแผนการผลิตและการจำ
หน่ายผลิตผลเกษตรกรรมอย่างร้ายแรง ให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดดำเนินการต่อไปตามความ
ในข้อ 13
ข้อ 12 เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรใดประสงค์จะสละสิทธิในการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่
ได้รับอนุญาตให้ยื่นคำขอสละสิทธิ ณ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดแห่งท้องที่ ตามแบบที่กำหนดท้าย
ระเบียบนี้
หมวด 3
การสั่งให้ออกจากที่ดิน
----------------
ข้อ 13 เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรอาจถูกสั่งให้ออกจากที่ดินได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) กรณีไม่ปฏิบัติตามความในข้อ 7 หรือข้อ 8
(2) ไม่ชำระค่าตอบแทน หรือค่าบริการใด ๆ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
(3) ไม่ทำประโยชน์ในที่ดินที่จัดให้จนเป็นเหตุให้กระทบกระเทือนต่อแผนการผลิตและ
การจำหน่ายผลิตผลเกษตรกรรม
(4) กระทำการฝ่าฝืนข้อ 9 หรือข้อ 11 หรือฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของคณะกรรมการ
คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือผิดสัญญา หรือ
ประพฤติปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใด โดยประการที่แสดงให้เห็นว่าไม่สุจริต หรือแสดงตนเป็นอุปสรรคต่อ
การดำเนินงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
เมื่อคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเห็นว่า มีเหตุดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้นให้คณะกรรมการปฏิรูปที่
ดินจังหวัดมีคำเตือนเป็นหนังสือให้เกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่
กำหนดถ้าเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรไม่ปฏิบัติตาม ให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีคำสั่งให้
เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรพร้อมด้วยบริวารออกจากที่ดิน
เมื่อมีคำสั่งให้เกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรออกจากที่ดินตามความในวรรคสองแล้ว ให้
เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้นั้นเป็นอันสิ้นสิทธิในการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน เว้นแต่จะมีการร้อง
เรียนตามข้อ 17 และคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยเป็นอย่างอื่น
ในระหว่างการพิจารณาคำร้องเรียนของคณะกรรมการตามข้อ 17 ให้เกษตรกรหรือสถาบัน
เกษตรกรที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดสั่งให้ออกจากที่ดินยังคงอยู่ทำประโยชน์ในที่ดินนั้นได้ต่อไป
จนกว่าคณะกรรมการจะมีคำวินิจฉัย
หมวด 4
การสิ้นสิทธิและผลของการสิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน
--------------------------------------------
ข้อ 14 เกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรย่อมสิ้นสิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดินใน
กรณีดังต่อไปนี้
(1) ตาย เลิกสถาบันเกษตรกร หรือสละสิทธิ เว้นแต่จะมีการโอนไปยังบุคคลอื่น
โดยชอบตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518
(2) ขาดคุณสมบัติตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเกี่ยวกับ
การคัดเลือกเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรซึ่งมีสิทธิได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ใน
สาระสำคัญดังต่อไปนี้
ก. สัญชาติไทย
ข. มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองเพียงพอแก่การเลี้ยงชีพอยู่แล้วก่อนดำเนิน
การคัดเลือกเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน
(3) สิ้นสิทธิไปตามระเบียบ ข้อบังคับ ข้อตกลง หรือข้อสัญญาในการกู้ยืมเงินจาก
สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือสถาบันการ
เงินอื่นตามโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
(4) สิ้นสิทธิไปตามสัญญาเช่า หรือสัญญาเช่าซื้อที่ทำกับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม
(5) ถูกสั่งให้ออกไปจากที่ดินที่ได้รับจากการปฏิรูปที่ดินตามความในข้อ 13
ข้อ 15 ในกรณีเกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรใดสิ้นสิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดินตามข้อ 14
ให้เลขาธิการ หรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมายบอกเลิกสัญญาเช่า หรือสัญญาเช่าซื้อและสังเพิกถอนสิทธิใน
การเข้าทำประโยชน์ในที่ดินนั้น พร้อมทั้งเรียกเอกสารดังกล่าวและหนังสืออนุญาตคืนให้แก่ทางราช
การด้วย และเพื่อประโยชน์แห่งการนี้ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือผู้ซึ่งสำนักงาน
การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมอบหมายดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของ
เกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกร อันเกี่ยวเนื่องกับกิจการที่ทางราชการได้ลงทุนไป หรือให้กู้ยืมตาม
หมวด 5
บทเบ็ดเตล็ด
---------
ข้อ 16 การปฏิบัติที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในท้องที่ใดมีเหตุจำเป็นยังไม่อาจปฏิบัติตามระเบียบนี้
ให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดโดยความเห็นชอบของเลขาธิการมีอำนาจพิจารณาประกาศยกเว้นการใช้
ระเบียบนี้ทั้งหมด หรือบางส่วนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด แล้วรายงานให้คณะกรรมการทราบโดย
ไม่ชักช้า
เมื่อเหตุความจำเป็นดังกล่าวในวรรคหนึ่งได้สิ้นสุดลง ให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด
โดยความเห็นชอบของเลขาธิการนำความในระเบียบนี้มาใช้บังคับต่อไป
ข้อ 17 ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการตามระเบียบนี้หรือกรณีที่คณะกรรมการปฏิรูปที่
ดินจังหวัดมีปัญหาเกี่ยวกับการสิ้นสิทธิในการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินตามความในข้อ 14 หรือกรณีที่ผู้
ถูกสั่งให้ออกจากที่ดินร้องเรียนว่า การสั่งให้ออกจากที่ดินนั้นมิได้เป็นไปด้วยความเที่ยงธรรม ให้คณะ
การการปฏิรูปที่ดินจังหวัดดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยละเอียด แล้วรวบรวมเรื่องพร้อม
เสนอความเห็นไปยังสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อพิจารณา และทำความเห็นเสนอคณะ
กรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป
ข้อ 18 ให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขว่า
ด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในรายละเอียดได้ ทั้งนี้ เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับ
ระเบียบนี้
ข้อ 19 ให้เลขาธิการ หรือคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดหรือปฏิรูปที่ดินจังหวัด ซึ่งได้รับ
มอบหมายให้ดำเนินการในเรื่องใด ๆ ตามระเบียบนี้ รายงานผลการดำเนินงานตามระเบียบนี้
ความก้าวหน้าของงานรวมตลอดทั้งปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ไปยังคณะกรรมการเพื่อ
ทราบ ทั้งนี้ ให้รายงานอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
ให้ไว้ ณ วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2522
วงศ์ พลนิกร
รัฐมนตรีช่วยว่าการ ฯ ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ประธานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม