คลังคำสำคัญ ‘พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518’
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ บัญญัติว่าการกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักก็ได้ ซึ่งต่อมาได้มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๕ ใช้บังคับ เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ทำให้เขตปฏิรูปที่ดินครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลท่าโรงช้าง ตำบลบางมะเดื่อ ตำบลบางเดือน ตำบลกรูด อำเภอพุนพิน และตำบลถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพหรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลคลองยาง ตำบลเกาะกลาง ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา และตำบลคลองพน ตำบลทรายขาว อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าคลองลัดปันจอ ป่าที่ดินของรัฐ (ที่จัดสรร) ร. ๑๙ ป่าเกาะกลาง ป่าคลองพน – กลาเสน้อย และป่าที่ดินของรัฐ (ที่จัดสรร) ร. ๒๑ ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลกะเปอร์ ตำบลเชี่ยวเหลียง ตำบลบ้านนา ตำบลบางหิน อำเภอกะเปอร์ และตำบลนาคา ตำบลกำพวน กิ่งอำเภอสุขสำราญ อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าที่ดินของรัฐนอกเขตป่า (แปลง ๑) ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งห้วยลึก และที่สาธารณประโยชน์ทุ่งนาปลายเปี๊ยะ ในท้องที่ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ซึ่งทางราชการได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๔ สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ และได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ฉบับที่ ๒๘๕๗๙ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ เนื้อที่ประมาณ ๙๐๙ ไร่ ๖๖ตารางวา และฉบับที่ ๑๙๗๖๔ ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ เนื้อที่ประมาณ ๓๐๗ ไร่ ๓ งาน ๓๕ตารางวา รวมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๑,๒๑๗ ไร่ ๑ตารางวา แต่เมื่อมีการสำรวจรังวัดใหม่ปรากฏว่าที่สาธารณประโยชน์ทุ่งห้วยลึก มีเนื้อที่ประมาณ ๑,๑๐๑ ไร่ และที่สาธารณประโยชน์ทุ่งนาปลายเปี๊ยะ มีเนื้อที่ประมาณ ๓๙๑ ไร่ รวมเนื้อที่ประมาณ ๑,๔๙๒ ไร่ ปัจจุบันปรากฏว่า ได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพหรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งหนองแห้ง ในท้องที่ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งทางราชการได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๔ สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ เนื้อที่ประมาณ ๖๗๕ ไร่ แต่เมื่อมีการสำรวจรังวัดใหม่ปรากฏว่ามีเนื้อที่ประมาณ ๑,๘๓๖ ไร่ ปัจจุบันปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งควนโท๊ะ และที่ดินสาธารณประโยชน์โคกใสม่วง ในท้องที่ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ซึ่งทางราชการได้ประกาศหวงห้าม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ และได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ ๒๘๓๖๐ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๘ เนื้อที่ประมาณ ๒๔๕ ไร่ ๗๓ ตารางวา และเลขที่ ๗๘๐๗ ลงวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๑ เนื้อที่ประมาณ ๑,๑๒๔ ไร่ ๓ งาน ๓ ตารางวา ปัจจุบันปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดิน สำหรับพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลนาปะขอ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งปากพล และที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งค่ายจ่า ในท้องที่ตำบลนาปะขอ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ซึ่งทางราชการได้ประกาศหวงห้าม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ และได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ฉบับที่ ๓๒๘๓/๒๕๑๓ ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ เนื้อที่ประมาณ ๕๔๔ ไร่ ๑ งาน ๔๓ ตารางวา และเลขที่ ๕๐๙๔๑ ลงวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๕ เนื้อที่ประมาณ ๑,๔๐๘ ไร่ ๒ งาน ๕๓ ตารางวา แต่เมื่อมีการสำรวจรังวัดใหม่ปรากฏว่าที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งค่ายจ่ามีเนื้อที่ประมาณ ๑,๕๓๐ ไร่ ๒ งาน ๕๒ ตารางวา ปัจจุบันปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพหรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าแม่สลิด – โป่งแดง แปลง ๑ ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินจึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
« Previous Page — Next Page »